โควิดจางแล้วได้เวลาเที่ยวต่างประเทศ วันนี้รวม 10 คำถามที่ ตม.ชอบถาม พร้อมตอบยังไงให้ผ่านมาฝากกันค่ะ ไม่รู้เพื่อนๆ เป็นกันหรือเปล่า พอต่อแถวรอคิวที่ตม. ก่อนเข้าประเทศที่เดินทางไปเที่ยว มันมีอันต้องตื่นเต้น ใจสั่น กังวลว่าเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจะถามว่าอะไรบ้างนะ จะเจอคำถามพลิกโลกที่ทำให้อึ้งจนยืนอึ้งกิมกี่ จนโดนเรียกเข้าห้องมืดไหมน้อ วันนี้เลยขอรวบรวม 10 คำถามที่ ตม. ชอบถาม จากประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวที่ผ่านๆ มาของผู้เขียนมาฝาก มีคำถามอะไรบ้าง ไปติดตามกันเลย1. Where are you from? คุณมาจากประเทศอะไรคำถามพื้นฐานเพื่อดูพื้นเพว่าเราเป็นคนที่ไหน แล้วพอพูดภาษาอังกฤษได้ไหม คำถาม : Where are you from? คุณมาจากประเทศอะไรคำตอบ : I am from Thailand. หรือตอบสั้นๆ ว่า Thailand. คือการตอบว่ามาจากประเทศไทยก่อนคำถามนี้บางทีอาจจะโดนถามว่า Do You Speak English? คุณพูดภาษาอังกฤษได้ไหม ถ้าพูดได้ก็ตอบไปว่า Yes, I can. ถ้าพูดไม่ได้ก็ตอบไปว่า No, I can't. อย่าสลับกันนะคะ ถ้าตอบ Yes, I can't. หรือ No. I can. นี่จะทำให้เจ้าหน้าที่มึนแน่นอน สรุปพูดได้หรือไม่ได้กันแน่ เคยเห็นในกรณีที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เจ้าหน้าที่ก็อาจจะเรียกญาติ หรือไกด์ หรือคนชาติเดียวกันมาช่วยแปลให้2. What's the purpose of your trip? จุดประสงค์ของการเดินทางมาที่นี่คืออะไรคำถามนี้เป็นคำถามเบสิก ถ้าเจ้าหน้าที่จะถามนักท่องเที่ยว ก็มักจะเริ่มด้วยคำถามนี้ก่อนเลย What's the purpose of your trip? แปลซื่อๆ ก็คือ คุณมาทำอะไรที่นี่ ก็ให้ตอบไปตามตรง ตามความจริงที่สมเหตุสมผล มาด้วยวีซ่าท่องเที่ยวก็ตอบมาท่องเที่ยว มาด้วยวีซ่าทำงานก็ตอบ มาทำงาน คำถาม : What's the purpose of your trip? จุดประสงค์ในการเดินทางมาประเทศ xx ของคุณคืออะไรคำตอบ :I am on my vacation. ฉันลาพักร้อนมาเที่ยวค่ะ I am on a business trip. ฉันมาทำงานค่ะ I come to study. ฉันมาเรียนค่ะI come for a plastic surgery at xxx clinic in Gangnam. ฉันมาศัลยกรรมที่คลินิค xxx ย่านกังนัม3. Is this your first time here? คุณมาที่นี่ครั้งแรกใช่ไหมคำถาม Is this your first time here? เป็นการถามว่ามาที่นี่ครั้งแรกหรือเปล่า ซึ่งอาจจะถามเป็นชื่อประเทศ Is this your first time in the US? Is this your first time in Korea? เป็นต้น เราก็ควรตอบไปตามความจริงว่ามาครั้งแรก หรือครั้งที่เท่าไร่ก็ว่าไปคำถาม : Is this your first time here? คุณมาที่นี่ครั้งแรกใช่ไหมคำตอบ :Yes. This is my first time here. ใช่ค่ะ นี่เป็นครั้งแรกของฉันNo. This is my x time here. ไม่ใช่ค่ะ นี่เป็นครั้งที่ x ของฉัน ตรง x ก็จะตอบเป็นจำนวนครั้ง second ครั้งที่สอง, third ครั้งที่ 3, forth ครั้งที่4, และ fifth ครั้งที่ 5 เป็นต้น ยกตัวอย่างเช่น This is my third time here. ครั้งนี้เป็นครั้งที่สามที่ฉันเดินทางมาที่นี่ค่ะบางคนที่เดินทางมาบ่อย ก็อาจจะโดนถามเพิ่มเติมว่า When is your last time here? มาครั้งสุดท้ายเมื่อไร่ How long had your been here? มากี่วัน ก็ตอบไปตามจริงค่ะ ระบุไปว่า Two months ago สองเดือนที่แล้ว หรือ On March 17, 2023. วันที่ 17 มีนาคม ปี 2023 เป็นต้น ความสำคัญของคำตอบคือต้องตอบตามความจริง เพราะเจ้าหน้าที่เขามีข้อมูลการเดินทางเข้าออกของเราอยู่แล้ว เขาแค่อยากจะทดสอบว่าเราปิดบังข้อมูลอะไรอยู่จนเป็นเหตุให้น่าสงสัยหรือเปล่า4. What are your destinations? คุณจะไปที่ไหนบ้างคำถามนี้เจ้าหน้าที่ถามเพื่อทราบสถานที่ปลายทางที่เราจะไป ว่าจะไปเรียน ไปเที่ยว หรือไปทำงานที่เมืองไหน ก็ตอบไปตามตรง เดินทางไปเมืองเดียวก็ตอบเมืองเดียว ไปหลายเมืองก็ตอบหลายเมืองคำถาม : What are your destinations? คุณจะไปที่ไหนบ้างคำตอบ :I am going to visit xxx. ฉันจะไปเที่ยวที่ xxx เช่น I am going to visit Universal Studio and Disneyland Orlando. ฉันจะไปเที่ยวที่ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอและดิสนีย์แลนด์ออร์แลนโดค่ะ I am participating the xxx. ฉันจะเข้าร่วมงานที่ xxx เช่น I am participating the High Tech Conference in New York. ฉันกำลังไปร่วมงานประชุมไฮเทคที่นิวยอร์กI will go to study xxx at xx university in x. เป็นต้น เช่น I will go to study mechanical engineer at MIT University Boston. ฉันจะไปเรียนสาขาวิศวกรรมเครื่องกลที่มหาวิทยาลัย MIT ที่เมืองบอสตัน สำหรับคนที่ไปเรียน จำเป็นต้องตอบอย่างละเอียดว่า จะมาเรียนสาขาอะไร ที่ไหน เมืองอะไร 5. Who are you travelling with? คุณเดินทางมากับใคร คำถามนี้เจ้าหน้าที่อยากทราบว่าเราเดินทางมากับใคร ก็ตอบไปตามตรง ฉันมากับเพื่อน มากับแฟน มากับครอบครัว มากับลูก หรือเดินทางมาคนเดียว คำถาม : Who are you travelling with? คุณเดินทางมากับใครคำตอบ :I am by myself. ฉันเดินทางมาคนเดียวI come with xx. ฉันมากับ xx เช่น I come with my mom / my boyfriend / my husband / my family / my kid. ฉันมากับแม่ /กับแฟน / กับสามี /กับครอบครัว หรือ กับลูก6. Do you have any relatives here? คุณมีญาติอยู่ที่นี่ไหมเจ้าหน้าที่ต้องการรู้ว่าเรามีญาติ หรือคนรู้จักในประเทศนี้ไหม ก็ตอบไปตามตรงว่าไม่มี หรือมีคุณป้าน้าอา หรือ พี่สาว น้องชาย อะไรก็ว่าไปคำถาม : Do you have any relatives here? คุณมีญาติอยู่ที่นี่ไหมคำตอบ :No, I don't. ไม่ฉันไม่มีญาติอยู่ที่นี่ค่ะ Yes, my uncle live here. He open a restuarant in the city. มีค่ะ คุณลุงฉันเปิดร้านอาหารอยู่ในเมือง 7. Where are you staying? คุณพักที่ไหนเจ้าหน้าที่อยากรู้ว่าเราจะไปพักโรงแรมไหน ก็ตอบไปตามตรงว่าจองโรงแรมไหนมา ถ้าพักหลายโรงแรมก็ตอบโรงแรมที่มีจำนวนวันพักมากที่สุดไป แต่ถ้าเจ้าหน้าที่ถามละเอียดจริงๆ ก็ค่อยอธิบายว่าวันไหนพักที่ไหน และสุดท้ายอาจหยิบเอกสารการจองให้ดูเลยก็ได้ค่ะคำถาม : Where are you staying? คุณพักที่ไหนคำตอบ :I am staying at XX Hotel. ฉันอยู่ที่โรงแรม XXI am staying with my Uncle. ฉันจะไปอาศัยอยู่กับคุณลุง (กรณีจะเดินทางไปพักกับญาติที่มีที่พำนักในประเทศที่เราเดินทางไป) 8. How long will you be in the US.? คุณจะในอเมริกานานแค่ไหนคำถามนี้เจ้าหน้าที่ต้องการรู้ว่า คุณจะพำนักอยู่ในประเทศของเขานานเท่าไร่ ก็ให้ตอบไปตามตรงว่ากี่วัน กี่เดือน ซึ่งต้องไม่เกินกำหนดที่ประเทศที่จะเดินทางไปอนุญาตด้วยนะ คำถาม : How long will you be in the US.? คุณจะอยู่ในอเมริกานานแค่ไหน หรือ How long will you be in Japan? คุณจะอยู่ในญี่ปุ่นนานแค่ไหนคำตอบ : 7 Days. เจ็ดวันค่ะซึ่งเป้าหมายของการรู้ระยะเวลาในประเทศที่เราเดินทางไปนั้น เจ้าหน้าที่อาจจะถามว่า When will you return to your country? คุณจะกลับประเทศวันไหน ก็ให้ตอบเป็นวันไปเช่น Next Monday หรือ 14 April 2023 เป็นต้น9. What do you do? คุณทำอาชีพอะไรบางทีเจ้าหน้าที่ก็สุ่มถามอยากรู้ว่าเราทำงานอะไร ก็ตอบไปตามตรง ว่าเป็นเจ้าของกิจการ เป็นพนักงานบริษัท หรือรับราชการ คำถาม : What do you do? คุณทำอาชีพอะไรคำตอบI am a content creator. I have YouTube Channel called xx. ฉันเป็นนักสร้างสรรค์คอนเทนต์ฉันมีช่องยูทูป ช่อง xx.I work at ABC Bank as a manager. ฉันทำงานที่ธนาคาร ABC ในตำแหน่งผู้จัดการI am a housewife rasing two children. ฉันเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูกสองคน 10. How much money are you bringing? คุณนำเงินติดตัวมาเท่าไร่คำถามนี้เจ้าหน้าที่อยากรู้ว่าเราเตรียมตัวอย่างไร สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในทริป ก็ตอบไปตามความจริงอีกเช่นเคย โดยจะบอกว่าพกเงินสดมาเท่านี้ มีวงเงินบัตรเครดิตเท่านี้ เป็นต้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเงินสดที่พกติดตัวมา ควรอยู่ในจำนวนที่จำกัดของการนำเงินสดเข้าประเทศนั้นๆ และต้องคำนึงถึงจำนวนเงินสดและวงเงินบัตรเครดิต ว่ามีเพียงพอสำหรับระยะเวลาการเดินทางในประเทศนั้นๆ ของคุณด้วยคำถาม : How much money are you bringing? คุณนำเงินติดตัวมาเท่าไร่คำตอบ : I bring 500 USD cash and a credit card of 1,000 USD credit limit. ฉันนำเงินสดติดตัวมา 500 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ และบัตรเครดิตวงเงิน 1,000 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐการเตรียมตัวตอบคำถามตม. นับว่าเป็นสิ่งจำเป็นแล้ว (1) เอกสารก็จำเป็นเช่นกัน ผู้เดินทางต้องเตรียมเอกสารการจองตั๋วเครื่องบินและเอกสารการจองที่พักให้พร้อม เพื่อที่จะสามารถยื่นให้เจ้าหน้าที่ตม.ตรวจสอบได้อย่างสะดวกเมื่อถูกสักถาม แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าสิ่งใดเลยก็คือ (2) ควรสบตาเวลาสนทนากับเจ้าหน้าที่เพื่อแสดงความจริงใจในการสนทนา ท้ายแต่ไม่ท้ายสุด (3) ควรมีท่าทีสุภาพอ่อนน้อม เพราะตม. นั้นย่อมาจากตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ดังนั้นควรอย่างยิ่งที่เราจะต้องทำความเคารพต่อเจ้าหน้าที่บ้านเมือง สุดท้ายนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความ 10 คำถามที่ตม. ชอบถาม พร้อมตอบยังไงให้ผ่าน จะถูกใจทุกท่านกันนะคะ ขอให้มีทริปที่สนุกกันทุกท่านค่ะ เครดิตภาพประกอบ : โดยผู้เขียนบทความที่น่าสนใจHow to สาดน้ำให้กลายเป็นเกล็ดน้ำแข็ง ไว้เล่นเวลาไปเที่ยวต่างประเทศรีวิววิธีแก้ชง 2023 วัดเล่งเน่ยยี่ เยาวราช อย่างละเอียดไปมัลดีฟส์ Maldives กับสายการบินอะไรดี ประสบการณ์ตรงส่องที่เที่ยว พิกัดลับห้ามพลาด มุมถ่ายรูปสวยที่ทรูไอดีคอมมูนิตี้