สวัสดีทุกท่านครับ ช่วงเวลานี้เป็นช่วงของชมพูพันธุ์ทิพย์บานสะพรั่งที่ทำให้บรรยากาศเหมือนได้ดูซากุรที่ญี่ปุ่น ซึ่งในไทยที่ดังๆคงเป็นมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน แต่วันนี้จะขอพาทุกท่านไปที่สวนรถไฟรับชมความสวยงามของชมพูพันธุ์ทิพย์และจุดถ่ายรูปสวยๆ กับ 9 จุดถ่ายรูปสวยชมพูพันธุ์ทิพย์ ที่สวนรถไฟ ถ้าพร้อมกันแล้ว ไปกันเลยเริ่มที่จุดแรกจะอยู่บริเวณสนามเทนนิสข้างสระน้ำ ซึ่งตรงนี้จะมีต้นชมพูพันธุ์พิทย์อยู่จำนวนไม่มากนักแต่จะมีต้นหนึ่งมีความสวยสมบูรณ์มากอยู่ ตรงนี้ขอแนะนำให้ถ่ายรูปจากฝั่งถนนกำแพงเพชร 3 เพราะจะได้รูปสวยที่มีวิวของชมพูพันธุ์ทิพย์แล้ว ยังมีสระน้ำที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศให้ฟีลเหมือนอยู่ริมแม่น้ำจริงมาอีกด้วย มากันที่จุดที่สองตรงนี้สามารถใช้ใต้ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ทุกต้นเป็นมุมถ่ายได้ แต่ตากล้องต้องนอนถ่ายและคนโดนถ่ายต้องก้มหน้ามองตากล้อง มันจะได้รูปที่มีหลายความหมาย เช่น เจ้าหญิงผู้หลบซ่อน หรือ เจ้าหญิงชมพูพันธุ์ทิพย์ เป็นต้น คำเตือนให้ระวังสัตว์ในสวนรถไฟด้วย(ผู้เขียนเกือบโดนมันแล้ว)มากันต่อจุดที่สามตรงนี้ให้มองหาต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ที่ถูกล้อมรอบโดยต้นไม้สีเขียว แต่แนะนำให้เก็บรูปวิวดีกว่าเพราะรูปจะสวยมากเหมาะไปตั้งวอลเปเปอร์มือถือยิ่งสวยขึ้นไปอีกไปกันต่อจุดที่สี่จะอยู่บริเวณตั้งแต่กระเด็น จาบคา ไปจนถึงโรงพยาบาลมิราเคิล ออฟไลฟ์ ที่ห้ามใช้จักรยานในเส้นทางนี้ ตรงนี้ถ่ายรูปได้หลายจุดเยอะพอสมควร โดยจะมีลักษณะเป็นชมพูพันธุ์ทิพย์สลับต้นไม้สีเขียวไปเรื่อยๆ จนทำให้คิดว่าเป็นถนนซากุระ หรือจะคิดเป็นดังโงะ เพราะสลับไปมาของสีชมพูกับสีเขียวจนทำให้คิดแบบนั้นได้(^_^)จุดที่ห้าจะอยู่บริเวณสี่แยกระหว่างกระเด็น จาบคา กับสระบัว ซึ่งจุดนี้โหดมาก คือ แย่งกันถ่ายรูปอย่างมาก จุดนี้เป็นถ่ายรูปได้ฟีลเหมือนอยู่ที่ญี่ปุ่นจริงๆ เพราะต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ตรงนี้จะซ้อนทับเรืยงกัน 3 ต้นเลย แถมมุมถ่ายรูปมีแค่ 2 มุมเอง ต้องเล่าก่อนว่าวันที่ไปถ่ายรูป คือ วันที่ 28 ก.พ. มีกลุ่มคอสเพลย์ 4 กลุ่มกำลังถ่ายรูปอยู่ตรงนั้น แน่นอนว่าการถ่ายของคอสเพลย์ไม่ใช่แค่แปปเดี่ยวไปถ่ายที่อื่นต่อนะ แต่ถ่ายเป็นครึ่งชั่วโมงกว่า นี้คือเบาอย่างสุดแล้วนะ ถ้าหนักสุดไม่ต้องเล่าก็รู้ โดยแนะนำให้ถ่ายเป็นกองโจร คือ ถ่ายรูปไปเลยอย่าไปรอเขาถ่าย รับรองไม่ได้ถ่ายรูปแน่ต่อมาจุดที่หกจะอยู่ตรงสระบัว ซึ่งตรงนี้แนะนำให้ถ่ายรูปเป็นมุมกว้างไปเลย เพราะได้รูปวิวที่สวยและได้ฟีลเหมือนอยู่ต่างจังหวัด แต่มุมมองของผม ถ้าสระบัวมีดอกบัวสีชมพูบานได้นะ มันจะสวยกว่าอีกจุดที่เจ็ดจะอยู่บริเวณหลังแปลงผักตรงสระน้ำ ตรงนี้จะมีต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ขนาดใหญ่อยู่ใกล้ริมสระพร้อมม้านั่งอยู่ โดยแนะนำเวลาถ่ายเป็นตอนเย็นวิวจะสวยเป็นพิเศษกว่าตอนกลางวัน แต่ถ้าจะถ่ายตอนกลางวันตรงนี้ขอแนะนำให้ไปอยู่ใต้ต้น มันจะได้ฟีลเหมือนรอคนรักหรือคู่รักหวานจุดที่แปดอยู่ใกล้จากจุดที่เจ็ดมากแค่เลี้ยวซ้ายตรงสามแยกจะเจอกับต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ขนาดใหญ่ แต่ขอแนะนำให้มีคนช่วยถ่ายรูปให้หนึ่งคนด้วย เพราะเนื่องจากรูปตรงนี้เหมาะเห็นทั้งต้นดีกว่าถึงจะสวยที่สุด จะทำให้การถ่ายแบบเซลฟี่อาจจะไม่เวิร์คสักเท่าไรและจุดที่สุดท้าย จุดที่เก้าจะอยู่บริเวณสระน้ำก่อนถึงศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ ตรงนี้จะเห็นต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ประมาณ 5 - 6 ต้น ที่กำลังบานอยู่ใกล้ริมสระและสระน้ำที่ทำให้ฟีลเหมือนอยู่ริมแม่น้ำด้วย โดยแนะนำให้ไปถ่ายตรงศาลาพักผ่อนดีกว่าตรงนั้นจะเห็นดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ได้สวยที่สุด แต่ทำความสะอาดก่อนใช้งานเป็นยังไงบ้างสำหรับจุดถ่ายรูปที่มาแนะนำในวันนี้ หรือท่านใครมีจุดถ่ายรูปที่สวยๆในสวนรถไฟก็ลองพิมพ์แสดงความคิดเห็นในช่องคอมเม้นเลยได้ครับ ไม่มีผิดไม่มีถูก ผมไม่ว่ากันครับ หรือต้องการรูปเต็มสามารถกดไป Facebook page : WV review ได้เลย สุดท้ายนี้หากใครที่รู้สึกชอบบทความนี้ก็แชร์ออกไปได้เลย หรือถ้าอยากจะติดตามเรื่องราวอื่นๆ สามารถกดติดตามได้ที่Facebook : WV reviewบทความ True ID : WVเรียบเรียงโดย : WVอ้อ เกือบลืมกรุณาเก็บขยะทุกครั้ง อย่าทิ้งลงพื้นนะครับเครดิตภาพภาพปกและภาพประกอบทั้งหมดโดยผู้เขียนภาพแผนที่ทั้งหมดบันทึกภาพจาก Google Map ของหน้าจอของผู้เขียนแชร์ที่เที่ยวใหม่ๆ ไม่ว่าจะเที่ยวสายไหนก็มาแวะแชร์กับทรูไอดีคอมมูนิตี้ “เที่ยวไปให้สุด”