สถานที่ขึ้นชื่อในการไปชมดอกซากุระเมืองไทย หรือ ดอกนางพญาเสือโคร่ง ในบ้านขุนช่างเคี่ยน จังหวัดเชียงใหม่ ไม่พูดถึงไม่ได้เลย เพราะเต็มไปด้วยธรรมชาติ ความสวยงาม ถูกใจเรามาก ไปเที่ยวเชียงใหม่รอบนี้ บ้านขุนช่างเคี่ยนคือที่ปล่อยใจที่เราชอบมากๆเลย ทีแรกสารภาพตามตรง หมู่บ้านขุนช่างเคี่ยนไม่ได้อยู่ในแพลนการเที่ยวเชียงใหม่ของเราเลย แต่ที่เราได้ขึ้นไป เพราะ ตอนนั้นเราขับรถถึงพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ลูกเราหลับจึงตัดสินใจขับรถเล่นๆเลยขึ้นไป ซึ่งตอนนั้นเปิดใน GPS แล้วเจอว่ามีหมู่บ้าม้งอยู่ ทั้งที่เราไม่รู้เลยนะค่ะ ว่าคือขุนช่างเคี่ยน เป้าหมายตอนนั้นคือเที่ยวชมหมู่บ้านม้งแล้วค่อยมาที่พระตำหนักละกัน ระหว่างรอลูกตื่น พอไปถึงที่จอดรถของพระตำหนักฯ เราก็ถามพี่ที่โบกรถว่าทางขึ้นไปหมู่บ้านม้งขับรถยากไหม พี่เขาบอกเราว่าขับยากมากนะ ทางแคบไปรถแดงดีกว่า ถามว่าเราเชื่อพี่เขาไหม ไม่ค่ะ เพราะเราเห็นมีรถที่ขับไปก่อนหน้าเรานั้นยังขึ้นไปได้ ซึ่งเป็นรถรุ่นเดียวกันกับที่เราเช่ามา ไม่รอช้า ตามเขาไปสิจ๊ะสาว และเราก็ได้รู้ว่า 555 ถนนแคบมาก แคบแบบที่รถยนต์คันเดียวขับก็เต็มถนนแล้วอะ สังเกตตลอดเส้นทางจะมีสัญญาณให้เราใช้แตรตามจุดที่อันตราย เพื่อส่งสัญญาณให้กับรถที่จะสวนกัน เราก็ทำตามนั้นใช้แตรกันตลอดทุกจุดที่มีสัญญาณบอกเลย แถมต้องคอยฟังเสียงแตรจากรถคันอื่นที่จะสวนเรามาอีกด้วย ลุ้นตลอดเส้นทาง 555 แต่ก็สนุกดีนะ เส้นทางขึ้นๆ ลงๆ โค้งๆ เลี้ยวๆ และแน่นอนไหล่เขาคะทุกคน ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูงมากเลย เราแนะนำเหมือนพี่คนนั้น ว่าถ้าไม่ชำนาญก็ใช้บริการรถแดงขึ้นมาเถอะ ขับไปเรื่อยๆเราก็เจอลานกางเต็นท์ เราคิดว่าถึงแล้ว แต่ไม่จ้า ไปต่อ อากาศก็จะเริ่มหนาวขึ้น เพราะบ้านขุนช่างเคี่ยนคือสูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 1,300 เมตร เลยทีเดียว ตลอดข้างทางจะเต็มไปด้วยต้นนางพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทย และต้นกาแฟ เพราะชาวบ้านที่นี่จะปลูกกาแฟกันเยอะมาก อาชีพหลักเขาเลยแหละ แน่นอนอีกหนึ่งอย่างที่เราจะได้เจอนอกจากดอกนางพญาเสือโคร่งแล้ว ก็คือกาแฟพันธุ์อาราบิก้าที่มีให้เราได้ลองกันแบบสดใหม่ หอมกรุ่น เลยทีเดียว เมื่อมาถึงตัวหมู่บ้าน เราไปตรงจุดที่มีป้ายบ้านขุนช่างเคี่ยน และเราก็ได้รู้ตอนนี้แหละว่าที่เรากลังยืนอยู่นี้คือขุนช่างเคี่ยน ซึ่งบอกเลย อากาศดีมากๆ เย็นสบายกำลังดี เราไปช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์นะค่ะ บริเวณนี้ก็จะเป็นชุมชนที่มีชาวบ้านอาศัยกันอยู่จำนวนหนึ่ง มีสตรวเบอรี่ แคพกูสเบอรี่ ข้าวโพดปิ้ง มันเผา และผลไม้ตามฤดูกาลต่างๆ บรรยากาศมันฟินมากๆเลย เราจะเห็นเมล็ดกาแฟที่ชาวบ้านเอามาตากไว้ แถมมีร้านอาหารตามสั่งที่อร่อย และราคามิตรภาพมากๆ อาหารทานเล่นก็มีนิดหน่อย ไม่ต้องห่วงนะคะ หากไม่มีเงินสดติดมือขึ้นมาก็สมารถโอนจายได้ด้วย สะดวกมากๆเลย ออกจากตัวหมู่บ้านเราก็ไปต่อที่ ศูนย์วิจัยเกี่ยวกับพืชเมืองหนาว เราก็เพิ่งจะรู้อีกเช่นกันว่าที่นี่คือจุดชมสากุระเมืองไทยบ้านขุนช่างเคี่ยน ซึ่งเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวจะไปชมดอกนางพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทยกันที่บริเวณนี้ ความสวยงามของต้นพญาเสือโคร่งคือดึงดูดนักท่องเที่ยงอย่างเราได้เป็นอย่างมาก เราจะได้รูปสวยๆมากมายจากตรงนี้ และมีต้นกาแฟให้เราได้ชมกันด้วย จะมีเด็กๆแต่งตัวด้วยชุดชาวเขามาวิ่งเล่นกันเต็มไปหมด มีไอศครีมกะทิอร่อยๆขาย และของทานเล่นกะจุกกะจิ๊กก็มาวางขายกันนิดหน่อย บริเวณนี้ แต่ทางที่เราขับลงไปจอดรถนั่นต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง เพราะชันและค่อนข้างขรุขระ แต่เชื่อเถอะคุ้มกับธรรมชาติที่เราได้ไปเสพ สรุปเลยละ การเดินทางขึ้นไปที่บ้านขุนช่างเคี่ยนอาจจะต้องระมัดระวังกันหน่อย เส้นทางค่อนข้างอันตราย ต้องใช้คนขับรถที่ชำนาญมากๆ ธรรมชาติที่เราได้เจอคุ้มกับการเดินทางที่ค่อนข้างลำบาก อยากอยู่ที่นั่นนานๆ บ้านขุนช่างเคี่ยนเที่ยวด้ตลอดปี แต่ถ้าาช่วงหน้าหนาวเราก็จะได้เจอกับดอกนางพญาเสือโคร่งสีชมพูบานสะพรั่งเหมือนซากุระที่ญีปุ่นกันเลย แต่ถ้ามาช่วงอื่นก็มีกาแฟอาราบิก้าที่ชาวบ้านปลูกและชงกันเองกับมือ ใครไปเที่ยวเชียงใหม่ ต้องไปลองสัมผัสบรรยากาศดูสักครั้ง เป็นที่เที่ยวบนดอยที่อยู่ในตัวเมือง บอกเลยไปแล้วไม่ผิดหวัง พิกัด บ้านขุนช่างเคี่ยน จังหวัดเชียงใหม่ เครดิตภาพ โดยผู้เขียน(จานใบใหญ่)บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจhttps://intrend.trueid.net/post/346967 https://intrend.trueid.net/post/346812แชร์ที่เที่ยวใหม่ๆ ไม่ว่าจะเที่ยวสายไหนก็มาแวะแชร์กับทรูไอดีคอมมูนิตี้ “เที่ยวไปให้สุด”