ช่วงนี้หลายๆ อย่างในอินเดียปรับเปลี่ยนไปเยอะมาก ไม่ใช่แค่ที่เที่ยว สภาพอากาศเท่านั้น ส่วนนี้ยังรวมไปถึงการขอ Visa และ e-visa ซึ่งหากใครกำลังวางแผนเที่ยวอินเดียในช่วงนี้ น่าจะทราบหรือเคยเห็นกระแสปฏิเสธ e-visa กันบ้าง ในบทความนี้เราจะมาบอกเล่าว่าทำไมเขาถึงเข้มงวดขึ้น 1. การตรวจอนุมัติ Visa และ e-visa เข้มงวดขึ้นมากๆ หลายคนบ่นกันเป็นระนาวว่าเปิดให้ขอ e-visa ฟรีแบบใด เพราะสุดท้ายมันจบลงที่ขอแบบเสียเงิน แต่จริงๆ ถ้าลองมองย้อนกลับไปช่วงแรกที่เปิดให้ขอ e-visa แบบฟรีค่าธรรมเนียมนั้น มันปกติแทบทุกอย่าง คนขอผ่านกันเยอะและเข้าอินเดียกันเยอะมาก และหลังจากนั้นไม่นานก็พบการกระทำผิดต่างๆ รวมถึงการทำงานผิดกฏหมายและการตั้งใจอยู่เกินวีซ่า เรื่องเหล่านี้กลายเป็นสถิติเชิงลบที่ทำให้อินเดียถึงกับชะลอการตรวจอนุมัติวีซ่า และเริ่มมีการตรวจสอบที่จริงจังมากขึ้น ซึ่งส่วนนี้เราคงตอบแทนไม่ได้ว่าเขาใช้ "เกณฑ์" คัดเลือกผู้คนอย่างไร เพราะคนไม่โดนก็ไม่โดนอะไรเลย คนโดนขอเอกสารก็โดนจริง โดนทุกครั้ง โดนตลอดไป ดังนั้นจึงควรเผื่อเวลาในการขอ e-visa เตรียมเอกสารหรือแพลนท่องเที่ยวรอ และหมั่นเช็ก Email เพราะบางคนได้รับเมลเพื่อขอเอกสารอื่นๆ เช่น ตั๋วเครื่องบิน หลักฐานการจองโรงแรม แพลนเดินทาง หลักฐานการทำงาน หรือหลักฐาน Book Bank 1 ปี ในบางคนก็โดนขอตามที่ยกตัวอย่างนั้นทั้งหมดเลยก็มี สำหรับคนที่ขอ e-Visa แล้วไม่ผ่าน สามารถเว้นระยะและขอใหม่ได้อีกครั้งหรือเปลี่ยนไปขอวีซ่าแบบติดเล่มแทน ซึ่งจะมีราคาสูงกว่า e-Visa 2. เลือกช่วงเวลาและสถานที่ให้เหมาะสม สำหรับใครที่ยังอยู่ในขั้นตอนการวางแผนเที่ยว และยังไม่ได้เลือกช่วงเวลา เราขอแนะนำว่าควรเลี่ยงช่วงหน้าร้อนของอินเดีย ซึ่งคือระหว่างเดือนมีนาคมถึงมิถุนายน เพราะมีอากาศร้อนมาก ร้อนแบบไหม้เลย แต่ก็ยังมีบางพื้นที่ที่อากาศไม่ร้อนจนเกินไป เช่นหิมาจัล ดาร์จีลิ่ง ซึ่งจะมีอากาศเย็นกว่าพื้นที่อื่นๆ ส่วนช่วงหน้าฝนคือช่วงกรกฎาคมถึงกันยายนนั้น สามารถเที่ยวได้แต่ต้องระมัดระวังในบางพื้นที่ เช่น หิมาจัล หิมาจัลนั้นจะสวยในทุกช่วงฤดูเลย แต่ในหน้าฝนเป็นความสวยที่มาพร้อมอันตราย หากฝนตกหนักมากอาจทำให้หน้าดินถล่ม ถนนขาด หรือน้ำท่วม แม้จะสวยแค่ไหน คนอินเดียบางคนก็หลีกเลี่ยงหิมาจัลในช่วงนี้ ข้อแนะนำคือให้เช็กพื้นที่ที่จะไปว่าสุ่มเสี่ยงกับหน้าดินถล่มหรือน้ำท่วมหรือไม่ ถ้าไม่ก็ไปได้ไม่มีปัญหา หน้าหนาวคือช่วงเวลาที่หน้าเที่ยวอินเดียที่สุด โดยเริ่มตั้งแต่ตุลาคมไปจนถึงกุมภาพันธ์ ช่วงเวลาที่ไม่ร้อนไม่หนาวเกินไปคือช่วงตุลาคม แต่ถ้าใครอยากได้ความหนาวจัดเต็ม ขึ้นเหนืออาจเจอหิมะก็ให้ไปช่วงปลายธันวาคมถึงมกราคม 3. เตรียมตัวให้พร้อมกับความร้อนจัด คนไทยมีวันหยุดเยอะคือช่วงเมษายน และในบางครั้งตั๋วอินเดียจะราคาถูกก็ช่วงกลางปี ทำให้คนวันหยุดน้อย ลายาก หรืองบจำกัดจำเป็นต้องไปในช่วงนี้ เราขอแนะนำให้เตรียมตัวรับมือความร้อนกับอินเดียดีๆ ไม่ใช่เล่นๆ ไม่เหมือนบ้านเราเลย ช่วงพื้นที่อินเดียกลาง แม้จะเป็นเดลียังร้อนจนแสบตัว ตัวเราไม่สามารถไปไหนได้เลย เต็มที่ครึ่งวันคือไม่ไหวแล้วเพลียแดดแสบผิวมากๆ หากใครจะไปช่วงนี้แนะนำให้มีน้ำ ยาดม พัดลมพกติดตัวไว้เลย และทาครีมกันแดดตัวที่การันตีว่าเอาแดดแรงอยู่ด้วย ร้อนจริง ไหม้จริง อย่าล้อเล่นกับระบบแดดอินเดียเด็ดขาด 4. รถไฟมักดีเลย์หนักมากในช่วงหน้าหนาว หน้าหนาวของอินเดียเหมาะกับการเดินทางเป็นที่สุดก็จริง แต่มันก็มีปัญหาที่น่ากังวลสำหรับนักท่องเที่ยว และขอบอกเลยว่าในหมู่คนอินเดียการที่รถไฟดีเลย์มากกว่าสิบชั่วโมงคือเรื่องที่เกิดขึ้นได้ในทุกๆ หน้าหนาว เราอาจจะเห็นคนอินเดียหงุดหงิดแต่ไม่มีใครโวยวายหรือเรียกร้องให้ทางการรถไฟชดใช้ ปัญหาหลักๆ เกิดจากหมอกที่หนามากทำให้รถไฟเคลื่อนตัวเต็มที่ไม่ได้ เป็นปัจจัยที่พวกเขาทำอะไรไม่ได้ คำแนะนำที่เราจะได้จากเจ้าหน้าที่ในวันนั้นคือซื้อตั๋วรถไฟใหม่ แต่เป็นตั๋วยืน ซึ่งเป็นชั้นท้องถิ่นในเที่ยวถัดไป แม้แต่แฟนเราก็แนะนำได้แค่นี้และยังพูดแบบใจเย็นอีกว่า... ก็หมอกมันหนาจะให้ทำอย่างไร ดังนั้นถ้าใครวางแผนเดินทางด้วยรถไฟในช่วงหน้าหนาวเราแนะนำว่าให้ขึ้นรถไฟ "ต้นทาง" เท่านั้น เพราะว่าต่อให้ดีเลย์คุณก็อยู่บนรถไฟคันนั้นแล้ว ยังไงคุณจะถึงจุดหมายแต่อาจจะถึงช้า เลี่ยงการขึ้น "ระหว่างทาง" เพราะถ้าดีเลย์แอปเช็กสถานะจะใช้ไม่ได้ ไม่รู้เลยว่าจะมาเมื่อไร คุณจะต้องรอที่สถานีรถไฟอยู่แบบนั้น ซื้อตั๋วยืนก็แน่น เบียดขึ้นก็ไม่ได้เพราะชั้นท้องถิ่นคนจะเยอะมาก แต่ถ้าไม่เบียดขึ้นก็จะต้องอยู่สถานีนั้นไปเรื่อยๆ เป็นสถานการณ์ที่คนอึดแบบเราก็ยังแทบร้องไห้ เพราะฉะนั้นวางแผนเดินทางดีๆ และอย่าลืมหาแผนสำรองเผื่อด้วย 5. เตรียมตัวรับมือกับมลพิษและฝุ่น ในบางเมืองของอินเดีย เช่น เดลี อาจมีมลพิษและฝุ่นในอากาศค่อนข้างสูงในช่วงฤดูร้อน การสวมหน้ากากหรือใช้เครื่องฟอกอากาศส่วนตัวจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยปกป้องคุณจากมลพิษที่อาจส่งผลต่อสุขภาพ *ภาพด้านล่างคือ วัดดอกบัวที่นิวเดลีในช่วงเดือนพฤศจิกายน ภาพออกมามัวๆ สีไม่สวย ไม่ใช่กล้องไม่ดีนะ แต่ในช่วงนั้นมีทั้งฝุ่นและหมอก 6. มือใหม่เจอหน้าหนาวครั้งแรก สำหรับคนที่ตั้งใจไปเจออุณหภูมิติดลบ หรือเจอหิมะครั้งแรก ขอบอกว่าหน้าหนาวอินเดีย หนาวจริงไม่แพ้ประเทศอื่นๆ เตรียมไอเทมเสื้อกันหนาวต่างๆ แล้วอย่างลืมรองเท้าด้วย ล่าสุดเราเตรียมทุกอย่างดีมาก แต่เลือกรองเท้าผ้าใบธรรมดาไป ตัวอุ่นแต่เท้าหนาวแบบจะแข็งสุดท้ายก็หนาวเหมือนเดิม อย่าลืมทำให้เท้าอุ่นด้วย ถ้าเท้าไม่อุ่นเราก็จะยังรู้สึกหนาวเหมือนเดิม 7. ตรวจสอบธนบัตรที่รับจากร้านหรือหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าคุณจะเที่ยวอินเดียช่วงไหนก็ตาม เราอยากให้ทุกคนสังเกตเงินทอนต่างๆ เพราะที่อินเดียแบงก์เก่า ขาด เยินๆ มีรอยพับเปื่อยๆ ร้านค้าจะไม่รับเลย ถ้าเรารับมาจากคนอื่นแล้วแล้วจะนำไปใช้จ่ายต่อ บางร้านค้า บางหน่วยงานเขาไม่รับและจะขอให้เราเปลี่ยนแบงก์ให้เขา และเนื่องจากอินเดียมักจะสแกนจ่ายมากกว่ารับเงินสด บางร้านค้าไม่รู้จะเอาแบงก์ยับๆ เยินๆ นั้นไปให้ใครเพราะคนอินเดียคนอื่นเขารู้ข้อนี้ดีก็จะขอให้ร้านเปลี่ยนแบงก์เช่นกัน ดังนั้นกรรมมันเลยตกมาที่นักท่องเที่ยว บางคนรีบ ไม่รู้ ไม่ได้สนใจ ก็รับแบงก์เหล่านี้มาและใช้จ่ายยากมาก บางครั้งก็จำใจต้องเก็บมันไว้เป็นที่ระลึก หรือจะสละเวลาไปขอแลกที่ธนาคารอินเดียก่อนกลับก็ได้ ส่วนแลกคืนที่ไทยต้องไปลุ้น เพราะบางที่ก็ไม่รับแบงก์สภาพไม่ดีเช่นกัน อินเดียเที่ยวไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยากถ้าขยันหาข้อมูลเพื่อให้รู้เขารู้เรามากที่สุด และช่วงนี้มีสิ่งที่ปรับเปลี่ยนหลายอย่าง ขอให้ทุกคนเตรียมพร้อมการเดินทางให้ดี แล้วคุณก็จะเอนจอยกับอินเดียได้แบบเรา สุดท้ายนี้หากคุณรู้สึกชอบบทความนี้ก็แชร์ออกไปได้เลยค่ะ หรือถ้าอยากจะติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ของเรา ก็สามารถติดตามได้ที่ X - Artinime ได้เลยค่ะ https://x.com/supamas_kpr/status/1948078006070837472 เรียบเรียงเนื้อหาและถ่ายภาพโดย หญิงเถื่อน อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !