เรื่องราวเริ่มต้นในฤดูร้อน เดือนมิถุนายน ปี 2561 เนื่องจากเรามีโอกาสได้ไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ณ ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ก่อนเข้าไปเรียนกับทางมหาวิทยาลัย เลยมีโอกาสได้แวะไปเที่ยวในหลาย ๆ ที่ และหนึ่งในที่ที่ประทับใจมากที่สุด ก็คือ เมือง Noboribetsu onsen นั่นเอง ถึงแม้ว่า Noboribetsu onsen จะสวยมาก ๆ ในฤดูหนาว ซึ่งหลาย ๆ คนที่ได้ชมหนังเรื่องแฟนเดย์ ก็คงจะได้เห็นมาบ้าง แต่จะบอกว่าเมืองนี้ในฤดูร้อนก็สวยไม่แพ้กันเลยนะคะ โนโบริเบทสึ ออนเซ็น เป็นเมืองที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของซับโปโร เมืองหลวงของจังหวัดฮอกไกโด เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องของออนเซ็นมาก เนื่องจากภูมิประเทศที่ยังมีภูเขาไฟที่คุกรุ่นอยู่ ทำให้มีน้ำพุร้อนเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งน้ำพุร้อนเหล่านั้น ก็จะถูกส่งไปยังโรงแรมต่าง ๆ เพื่อทำเป็นออนเซ็นให้กับนักท่องเที่ยวนั่นเอง เราเดินทางโดยรถบัสออกจากสนามบิน New Chitose มุ่งไปยัง Noboribetsu onsen ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ตลอดข้างทางส่วนใหญ่เป็นป่าสีเขียวชอุ่ม และเริ่มเป็นหุบเขาเมื่อเข้าใกล้ในเมืองมากขึ้น เมื่อเข้ามาถึงในเมือง รถส่งเราตรงสถานีรถประจำทาง จากนั้นเราก็เดินทางเข้าโรงแรมที่จองไว้ โดยมีรถตู้ของโรงแรมมารับ โรงแรมอยู่ห่างออกไปจากสถานีรถประมาณ 15 นาที และอยู่คนละทางกันกับตัวเมือง Noboribetsu onsen เราจึงตัดสินใจนอนพักผ่อนช่วงเย็นที่โรงแรม แล้วค่อยเข้าไปเที่ยวที่หุบเขานรกซึ่งอยู่ในเมืองในวันรุ่งขึ้น ที่โรงแรมมีบริการออนเซ็นให้แช่ด้วย เป็นน้ำแร่จากภูเขาโดยตรง และจะมีชุดแบบญี่ปุ่นให้ใส่ เป็นชุดที่น่ารักและใส่สบายมาก เราแอบไปแช่ออนเซ็นตอนเที่ยงคืนเลย เพราะไม่มีคน (ออนเซ็นต้องถอดเสื้อผ้าออกหมด เราเขิน ><) เช้าวันต่อมารถโรงแรมก็มาส่งเรา ที่สถานนีรถประจำทางเช่นเดิม หลังจากนั้นเราก็เดินเท้าต่อกันอีกหน่อยผ่านชุมชน บ้าน ร้านค้า เพื่อที่จะเข้าไปชม Jigokudani valley หรือหุบเขานรก นอกจากอาคารบ้านเรือนแล้ว ก็มีบางจุดที่มีน้ำพุร้อนพวยพุ่งออกมาจากพื้นดิน และมีธารน้ำแร่ไหลอยู่บริเวณข้างทางด้วย เดินไปเรื่อย ๆ ก็จะเริ่มเห็นพื้นที่ที่แปลกตาไป เป็นดินสีแดงตัดกับภูเขาสีเขียว และท้องฟ้าสีสด มีควันและไอน้ำพุ่งออกมาเป็นระยะ ๆ และมีลำธารที่มีน้ำสีฟ้าใส เสมือนว่าอยู่ดาวเคราะห์อีกดวงกันเลยทีเดียว แต่เป็นดาวเคราะห์ที่มีกลิ่นเหมือนไข่เน่านิด ๆ จากกลิ่นของกำมะถันที่เกิดขึ้นนั่นเอง จุดหมายของเราก็คือการเดินไปจนสุดสะพานไม้ ซึ่งก็จะพบกับตาน้ำพุร้อนขนาดใหญ่ ซึ่งคนส่วนใหญ่จะโยนเงินเหรียญลงไปในบ่อนั้น ซึ่งเราคิดว่าน่าจะเป็นการทำเพื่อเคารพบูชา และขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหมือนคนไทยเรา ระหว่างเดินกลับเราก็ได้พบว่ามีเส้นทางเดินป่าอีกเส้นทางหนึ่ง ที่จะสามารถไปชมวิวทะเลสาบ Toya ได้ และเมื่อไปถึงเราก็ได้พบกับทะเลสาบน้ำร้อนขนาดใหญ่ ที่มีน้ำเดือดและควันพวยพุ่งตลอดเวลา ซึ่งเป็นภาพที่สวยงาม และรู้สึกมหัศจรรย์อย่างบอกไม่ถูกจริง ๆ เดินลงมาอีกนิดก่อนออกจากหุบเขานรก เราก็ได้แวะแช่เท้ากันเพลิน ๆ ที่จุดแช่เท้า Oyunuma ซึ่งเป็นธารน้ำแร่ที่มีแอ่งกว้างให้คนมานั่งแช่เท้าเพื่อผ่อนคลายได้ ที่นี่ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหน จะเห็นรูปปั้นยักษ์ถือกระบองเต็มไปหมด เชื่อกันว่ายักษ์เป็นผู้พิทักษ์เมืองแห่งนี้ รู้ตัวอีกทีก็ได้เวลากลับโรงแรมแล้ว ก่อนกลับแวะกินซอฟท์ไอศกรีมของขึ้นชื่อของฮอกไกโดสักหน่อย วิวก็ดี ไอศกรีมก็อร่อย หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยค่า :) ภาพทั้งหมดโดย : ผู้เขียน