ว่าด้วยการนัดพบกับเพื่อนร่วมชะตากรรมที่หาดใหญ่ เพื่อเดินทางไปตัวเมืองสงขลาพร้อมกันช่วงเย็น แต่ต้องใช้เวลากว่าครึ่งวันในการรอคอยเวลา จึงเกิดเป็นทริปโซโล่เดี่ยวเล็ก ๆ ขึ้นเดินเที่ยวในหาดใหญ่ อ้อมแอ้มแถวหอนาฬิกาค่าาาาป่ะ ไปเที่ยวกัน! อิคิมาโชะ! เริ่มเลย!บัวเดินทางด้วยเครื่องบิน จากสุวรรณภูมิ ไปสนามบินหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เริ่มด้วยการเติมพลัง ด้วยอาหารมื้อแรกของวันที่ศูนย์อาหารชั้น 1 ของสนามบินสุวรรณภูมิค่ะ อร่อยดี บัวเลือกไข่เจียว + แกงเลียง บีบซอสให้น้องยิ้ม 1 ที แต่ดูเหมือนน้องก็ยิ้มแบบง่วงมาก ฮ่าาาา เอ้า 1 2 3 ชีสสสสโอเค ได้เวลาขึ้นเครื่อง Let's go!วิวสวยมากเว่อร์ เครื่องใกล้ลงจอดแว้ว อีกแป๊บเดียวเท่านั้นนนนนพอถึงสนามบินหาดใหญ่ บัวต่อรถสองแถวสีฟ้าจากสนามบินเข้าตัวเมืองหาดใหญ่ค่ะ มาลงที่นี่ ซึ่งนับว่าเป็นแลนด์มาร์คเมืองหาดใหญ่ก็ว่าได้ "หอนาฬิกา" นั่นเอง ตรงจุดเนี้ยมีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร และเป็นจุดขึ้นลงรถตู้ รถสองแถวด้วยค่ะระหกระเหินมาไกลถึงหาดใหญ่ มื้อแรกหาดใหญ่น่ะหรอคะ "ข้าวมันไก่" ค่าาา ฮ่า ๆ ๆ ด้วยความที่บัวไม่ได้อ่านรีวิวอะไรมาเลยเรื่องร้านอาหาร พอรถสองแถวฟ้าจอด บัวก็เดินมาเรื่อย ๆ ในวันที่แดดร้อนระอุ ก็ต้องรีบหาที่กำบัง เจอร้านข้าวมันไก่ ก็วิ่งเข้าร้านสิครัช รออะไร ร้านนี้ชื่อร้านว่า ไท่เซ่งฮวด ข้าวมันไก่ที่เนื้อไก่ละมุนมาก + ชาเย็นที่แสนจะชื่นใจ ที่บัวสั่ง เสียหายไป 65 บาทเท่านั้น (ข้าวมันไก่ 50 ชาเย็น 15 บาท) สำหรับมื้อกลางวันค่ะกินเสร็จแล้วก็ไม่รู้จะไปไหนค่ะ ก็เดินไปเดินมา ปรากฏว่าไปเจอ ศูนย์การค้าพลาซ่า มีร้านค้าขายสินค้าพวกเสื้อผ้า กระเป๋า และบลา ๆ อีกมากมาย ของเยอะมากกกกกกก บอกเลย แต่ถามว่าซื้ออะไรมั้ยที่นี่ อ๋อ ไม่ค่ะ แม้ใจจะอยากมาก แต่แค่แบกเป้ก็หนักไม่ไหวแว้ว เสียดายอ่า บัวก็แบกเป้สวมวิญญาณแบคแพคเกอร์เลยค่ะ เดินไปเจอตลาดขายของ และไปได้ Item เด็ดคือเจ้านี่ "พัดใบกะพ้อ" มันช่วยชีวิตจริง ๆ เพราะมันร้อนมากจริง ๆ นะ บัวอยากจะเป็นลม เมื่อร้อนขนาดนี้ ก็อยากหาคาเฟ่นั่งบริเวณหอนาฬิกาค่ะ เพราะไม่อยากเดินไกล แต่......หูยยยยยยย ปรากฎว่า ได้เดินจริง อะไรจริงค่าาา ฮ่า ๆ ๆ เรื่องมันมีอยู่ว่า บัวไม่เสิร์ชอะไรทั้งนั้น แล้วเลือกจะถามทางคนละแวกนั้นเอา ไปเจอพี่แกร๊บ แล้วพี่แกร๊บก็บอกว่า แถวนี้ไม่ค่อยมีคาเฟ่นะ ต้องเดินข้ามไปฝั่งนู้น เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาอะไรของแกนี่แหละค่ะ พี่เค้าใจดีมาก ๆ ขอบคุณมากค่ะพี่ไม่รอช้าค่ะ บัวก็เดินตามที่พี่แกบอกทุกอย่าง แต่...ทำไมหนูไม่เจอคาเฟ่เลยยยยยคะพี่ เจอแต่อาคารบ้านเรือน และ "วัด"ที่นี่คือ "วัดฉือฉาง"และไม่ใช่วัดธรรมดา เป็นวัดที่ตลอดทั้งกำแพงวัดแสดงเรื่องราวของเมืองหาดใหญ่ค่ะ สวยมากจริงงงงงหลังจากเดินผ่านวัดมา ในใจบัวก็คิดแค่ว่า ขอซักที่ให้ฉันได้นั่งพักพิงอิงอาศัย แต่ยังไม่ทันได้พักพิงที่ไหน ก็มาเจอนี่ซะก่อนค่ะที่นี่เค้าเรียกว่า Street Art ที่เค้าร่ำลือกันรึป่าวววว สวยอ่าาาาา และพอหันไปดูฝั่งตรงข้ามก็มีอีกในใจบัวก็คิดว่าฉันเดินหลงมาเจอดง Street Art จริง ๆ เข้าแล้วสินะหูยยยยย เก๋อ่าาา เดินหลงมา อากาศร้อน แบกเป้หนัก รองเท้ากัด มาเจอศิลปะบนผนัง โอ้ยยยย สุดจัดดดดเดินไปเรื่อย ๆ ตามสัญชาติญาณค่ะหลังจากที่เจอนก เจอดวงตา มังกร และไก่ ข้าง ๆ ไก่ ก็มีสิ่งเล็ก ๆ ที่น่ารักโทนฟ้า-เหลือง อย่าง Slurp คาเฟ่ อยากจะกรี๊ด ฉันเจอคาเฟ่แว้ววววววววววววววววบัวไม่รอช้ารีบวิ่งเข้าร้านสั่งน้ำ 1 แก้ว เป็นยูซุโซดาค่ะ หืมมมมมมมมมมมมม สดชื่นมากกกกกกก สวรรค์ พี่เจ้าของร้านก็น่ารักมาก เค้าเห็นผู้พลัดถิ่นแบบบัวมาด้วยสภาพแบบลูกหมาตกน้ำ ก็ย้ายพัดลมอันเบ้อเริ่มจากตรงพี่เค้านั่ง หันมาให้บัวทันทีเลย ก็...นั่ง ๆ อยู่ร้านนี้ซักพัก จะว่าไปก็พักใหญ่อยู่ ฮ่า ๆ ในระหว่างนั้น ก็คุยกับพี่เจ้าของร้านไปพลาง ๆ รอเวลาไปติดตามเพจร้านได้น้าา บัวแปะให้ Slurpด้วยความที่บัวมาหาดใหญ่วันธรรมดา ภาพที่เพื่อน ๆ เห็นจึงไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านนะคะ จะว่าไม่มีคนเลยก็ได้ และวันเนี้ย ทำให้บัวรู้สึกประหนึ่งว่าบัวเป็นผู้เสพศิลปะคนหนึ่ง รู้สึกว่าตัวเองติสแตกมาก ฮ่า ๆหลังจากที่เดิน เดิน และเดิน จนไปเจอคาเฟ่ลับ การเดินเที่ยวหาดใหญ่ของบัว ก็สิ้นสุดลงค่ะเพื่อน ๆ บัวเดินกลับไปที่หอนาฬิกา เดินผ่านทางแยกไฟแดง ข้ามทางม้าลาย เจอใบไม้ที่ส่งกำลังใจให้ พร้อมความรู้สึก Mission Completed! โดยระยะทางที่เดินไปทั้งหมด หาได้คำนวณไว้ไม่ แต่ที่แน่ ๆ คือปวดเท้าอะค่ะ ฮ่า ๆ รองเท้าที่ผลิตมาจากยาง ก็แทบจะละลายไปกับพื้นคอนกรีตทริปเนี้ย ทำให้บัวรู้สึกว่า ชีวิตมักมีอะไรมาเซอร์ไพรส์เราในตอนที่ตัวเราเองไม่คาดหวังอะไร เพราะงั้น เราใช้ชีวิตของเราให้ดีก็พอ ส่วนอะไรจะเกิด ก็คงเข้า Concept อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดแล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้าค่ะทุกคน :)ภาพประกอบทุกภาพและภาพหน้าปก โดย เจ้าของบทความ และตกแต่งเพิ่มเติมโดย Canva อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !