สวัสดีค่าทุกคนนน วันนี้โบมากับหัวข้อการเที่ยวที่คามาคุระค่ะ เมืองที่อยู่ใกล้ ๆ กับโตเกียว และสามารถนั่งรถไฟถึงได้ในขั่วโมงเดียว แถมยังบรรยากาศดี มีวัดวาให้ไปไหว้ และอยู่ติดกับทะเลอีกด้วย ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันดีกว่าค่ะว่าเราสามารถทำอะไรในหนึ่งวันที่คามาคุระได้บ้าง! เริ่มต้นกันที่วิธีเดินทางค่ะ ก่อนอื่นเลยเราขอแนะนำให้ไปเริ่มต้นที่ Tokyo station นะคะ เพราะเราจะสามารถนั่ง JR Yokosuka line ไปทั้งหมด 12 สถานี ลงคามาคุระได้เลยโดยไม่ต้องต่อค่ะ แต่เพื่อน ๆ สามารถเช็ควิธีการเดินทางได้ผ่าน google maps หรือแอป JapanTravel ได้เลยค่า หลังลงรถไฟ เราจะเริ่มจากการไปที่วัด Hōkokuji ค่ะ โดยเราสามารถนั่งบัสที่อยู่ติดกับสถานีไปลงได้เลย แต่ว่าเราเลือกที่จะเดินค่ะ ระยะทางจะประมาณ 2 กิโลกว่า เดินชิว ๆ ได้เลย วันที่เราไปอากาศแอบร้อนค่ะ (วันที่ 23 มีนาคม) ขนาดใส่เสื้อผ้าแค่ชั้นเดียวยังเหงื่อออกเลย และเมื่อไปถึงนะคะวัดนี้จะเป็นวัดเล็ก ๆ ค่ะ จะมีโซนเสียเงินที่ให้เข้าไปดูป่าไผ่และการชงชาเขียว เราเลือกดูแค่ไผ่ค่ะ เดี๋ยวจะแปะรูปไว้ให้นะคะ สวยมาก ๆ เลยค่ะ ค่าเข้า 800 เยน จากนั้นเราก็นั่งบัสกลับมาที่สถานี Kamakura เพื่อซื้อตั๋วรถไฟ Enoden (รุไฟสีเขียวเหลืองในตำนาน) แบบ 1-day pass ในราคา 600 เยนหรือ 140 บาทค่ะ และเราก็จะนั่งไปลงที่สถานี Kamakurakokomae ทั้งหมด 7 สถานี เพื่อไปถ่ายรูปตามฉากดังของการ์ตูนเรื่อง Slam Dunk ค่ะ บอกเลยว่าตรงนี้คนเยอะมากก แบบมาเพื่อแค่ถ่ายรูปทั้งนั้นเลย พอเสร็จเราเลยแวะไปที่ทะเลซึ่งห่างแค่ข้ามถนนไปค่ะ บอกเลยว่าหาดกว้างและสวยสุด ๆ โบเห็นคนมาเล่นเซิร์ฟเต็มเลยด้วยค่ะ แล้วจากนั้นเราก็จะนั่งรถไฟสายเดิมมาลงที่ Inamuragasaki station เพื่อหาร้านข้าวทานค่ะ แต่เนื่องจากร้านที่เราเลือกมามันคนเยอะมาก ต้องรอเป็นขั่วโมงเลย เราเลยเปลี่ยนไปเป็นอีกร้านแทนค่ะ ชื่อร้านว่า cafe Umino Tonari ทางเดินอาจจะหาอยากนิดหน่อยเพราะทางเข้าเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่ว่าได้นั่งทานเลย และเจ้าของร้านใจดีมาก ๆ เลยค่ะ สามารถคุยเป็นภาษาอังกฤษได้ด้วย เราประทับใจร้านนี้ที่สุดในคามาคุระเลยค่ะ55555 เลือกสั่งเป็นข้าวแกงกะหรี่อบชีสมาค่ะ ราคา 1,650 เยนหรือ 370 บาท แล้วรสชาติคืออร่อยมากกก เจ้าของร้านน่าจะทำใหม่เองเลยแล้วคือรสชาติดียันเครื่องเคียงเลยค่ะ แถมร้านนี้ยังอยู่ติดกับรางรถไฟ ได้ถ่ายรูปมุมใหม่ ๆ ไม่ซ้ำใครอีกด้วยค่ะ นั่งต่ออีก 2 สถานีไปลงที่สถานี Hase เพื่อไปแวะที่วัด Hase ค่ะ ค่าเข้า 400 เยน จริง ๆ วัดนี้ขึ้นชื่อเรื่องความงามของดอกไฮเดรนเยีย แต่ว่าเดือนที่เราไปยังไม่ออกดอกเลยค่ะ แต่ก็ยังคุ้มค่าการไปอยู่ดีเพราะว่าที่สัดมีจุดให้ชมวิวทะเลสวยมาก ๆ เลยค่ะ แถมเครื่องรางวัดนี้ก็น่ารักเป็นเอกลักษณ์ด้วยค่ะ หลังจากนั้นเราจะเดินต่อไปอีก 550 เมตรเพื่อไป Kotoku-in วัดพระใหญ่ที่ใคร ๆ ก็ต้องแวะมาหากมาเที่ยวที่นี่ ค่าเข้า 600 เยน โดยข้างในก็ไม่มีอะไรมาก เราสามารถจ่ายเพิ่ม 50 เยนสำหรับการเข้าไปดูในองค์พระค่ะ โดยด้านในจะเป็นพื้นที่เล็ก ๆ ที่เขียนบอกเกี่ยวกับโครงสร้างต่าง ๆ และเค้ายังถือว่าการมาลูบเหล็กด้านในเป็นศิริมงคลอีกด้วยค่ะ แล้วก็จบไปกับทริปหนึ่งวันในคามาคุระนะคะ พอเราเสร็จจากวัดสุดท้ายก็ประมาณ 5 โมงแล้วเลยตัดสินใจกลับไปหาอะไรกินที่ Tokyo station ค่ะ วิธีการเดินทางก็แบบเดิมเลย เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คนที่กำลังตัดสินใจเลือกแพลนเที่ยวนะคะ ไว้เจอกันใหม่ที่คอนเทนท์หน้า และขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตอนนี้นะคะ! เครดิตภาพ • ภาพปก โดยครีเอเตอร์ • ภาพที่ 1 : ภาพถ่ายโดยครีเอเตอร์ • ภาพที่ 2 : ภาพถ่ายโดยครีเอเตอร์ • ภาพที่ 3 : ภาพถ่ายโดยครีเอเตอร์ • ภาพที่ 4 : ภาพถ่ายโดยครีเอเตอร์ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !