สิงคโปร์ เป็น1 ในประเทศที่เราอยากไปเยือนสักครั้ง เนื่องจากเป็นเพียงเกาะเล็กๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แต่กลับเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว มีความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจสูง สำหรับคนไทยนั้นไม่ต้องใช้วีซ่าและใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 2 ชั่วโมงกว่าๆก็ถึงแล้วแถมยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นแลนด์มาร์คสำคัญๆให้ได้ไปเช็คอินกันแบบฟรีๆอีกด้วยค่ะ หลังจากที่ลางานได้แล้วก็รีบจองตั๋วเครื่องบินเลยจ้า ได้ตั๋วของสายการบิน Jetstar มาในราคาไปกลับเพียงแค่คนละประมาณ 3,000 บาทเท่านั้นค่ะ อย่าลืมพกปากกาไปด้วยนะคะเพราะพนักงานบริการบนเครื่องบินจะแจกใบตม. มาให้เรากรอกค่ะ Day 1 สำหรับวันแรกที่เรามาถึงสนามบิน Changi Airport ในเวลาประมาณบ่ายโมงก็ถึงเวลาที่ต้องไปผ่านด่านตม. กันค่ะ ตื่นเต้นนิดหน่อยนะคะเพราะบริเวณด้านหน้าก่อนถึงช่องตรวจคนเข้าเมืองจะมีพนักงานของตม.หลายคนยืนสังเกตการณ์ด้วยหน้าตาที่เคร่งขรึม แต่สุดท้ายเราก็ผ่านไปได้ง่ายๆค่ะ จากนั้นก็เดินตามป้ายTrain to city ลงไปยังสถานีรถไฟใต้ดินเพื่อซื้อบัตร EZ-link แบบเหมาจ่าย3 วันราคาประมาณ 30 เหรียญ SGD ได้บัตรมาแล้วก็เข้าเมืองไปยังที่พักกันเลยค่ะ เราเลือกพักกันในย่าน Chinatown เนื่องจากเป็นย่านใจกลางที่มีร้านขายของฝากร้านอาหารและโรงแรมที่หลากหลายค่ะ เราพักที่ Cube boutique capsule hotel ค่ะ เป็นครั้งแรกกับประสบการณ์นอนโรงแรมแบบแคปซูล มีบริการอาหารเช้า ห้องน้ำเป็นห้องรวมแต่มีหลายห้องสะอาดดีมากค่ะ หลังจากเช็คอินเสร็จแล้วก็ได้เวลาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อออกไปเที่ยวกันค่ะ อ่าวมารีน่าเบย์( Marina bay ) คือที่แรกที่เราอยากไปเห็นค่ะ ที่นี่ล้อมรอบไปด้วยตึกสูงระฟ้าเรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจของสิงคโปร์เลยก็ว่าได้ จากนั้นเราก็นั่งรถไฟใต้ดินมาที่บริเวณ Merlion และก็ไม่พลาดถ่ายรูปกับเจ้าสิงโตพ่นน้ำแลนด์มาร์คสำคัญที่ใครมาก็ต้องไม่พลาดนะคะ จากจุดนี้เราจะมองเห็น Marina bay sands ซึ่งเป็นโรงแรมสุดหรูมีบริการต่างๆรวมทั้งคาสิโนอยู่ด้านใน รูปทรงคล้ายเรือและเชื่อม 3 อาคารไว้ด้วยกันมีความหรูหราอลังการเป็นที่สุดเลยค่ะ จากนั้นเราก็เดินดูความสวยงามของสิ่งปลูกสร้างไปรอบๆในสวนสาธารณะ Esplanade Park ที่นี่บรรยากาศสบายๆ มีผู้คนมานั่งพักผ่อนกันเป็นจำนวนมากค่ะ พอเริ่มพลบค่ำนักท่องเที่ยวก็เริ่มหลั่งใหลกันเข้ามาจับจองพื้นที่ด้านหน้า Merlion เพื่อรอชมการแสดงแสงสีเสียงที่มีชื่อว่า Wonderful light & water spectacular มีการจุดพลุอย่างสวยงามประทับใจมากๆเลยค่ะ จากนั้นเราก็เดินต่อไปยังย่านแสงสีที่มีความครึกครื้นเป็นอย่างมากนั่นก็คือ คลาร์กคีย์(Clarke Quay) มีร้านอาหารและบาร์มากมายให้เลือกนั่งฟังเพลงและนั่งดูผู้คนมาพบปะสังสรรค์กันค่ะ Day 2 เช้าวันที่ 2 เรานั่งรถไฟใต้ดินไปที่ย่าน Little India เพื่อดูวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวอินเดีย อาคารบ้านเรือนของที่นี่จะมีสีสันสดใสสวยงามแปลกตาไปอีกแบบนะคะ และที่พลาดไม่ได้เลยก็คือต้องไปดูการแสดงแสงสีเสียงสุดอลังการของ Super trees ที่ Gardens by the bay ซึ่งเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่สามารถรับชมได้ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆดีต่อใจมากค่ะ Day 3 มาถึงสิงคโปร์ทั้งทีก่อนกลับบ้าน ต้องได้กินบั๊กกุดเต๋( Bak kut teh) หลังจากเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมแล้วเราก็เดินไปต่อคิวที่ร้าน Song fah สาขา Chinatown เนื้องจากมีคนรอคิวเป็นจำนวนมาก ในที่สุดก็ถึงคิวเราแล้วบั๊กกุดเต๋ก็ไม่ทำให้เราผิดหวังเพราะมันอร่อยมากๆค่ะ หลังจากอิ่มท้องแล้วก็ได้เวลาออกเดินทางไปยังสนามบินเพื่อขึ้นเครื่องกลับบ้านเราค่ะและอีก 1 ที่ที่ต้องมาให้ได้ก่อนกลับนั่นก็คือ Jewel Changi Airport น้ำตกในร่มที่สูงที่สุดในโลกมีความหรูหราและทันสมัยสุดๆไปเลยค่ะ สำหรับการท่องเที่ยวที่สิงคโปร์นั่นไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะเพราะผู้คนส่วนใหญ่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้มีน้ำใจพร้อมจะช่วยเหลือนักท่องเที่ยวอยู่เสมอและมีความปลอดภัยสูงไม่ว่าจะลุยเดี่ยวหรือชวนเพื่อนไปด้วยก็รับรองว่าจะประทับในอย่างแน่นอนค่ะ