ถ้าพูดถึงหนึ่งใน landmark การท่องเที่ยวชื่อดังของประเทศญี่ปุ่น จะต้องมีชื่อของ กําแพงหิมะ ญี่ปุ่น หรือ Tateyama Kurobe Alpine Route สถานที่ที่จะให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปชมวิวกำแพงหิมะที่ทับถมซ้อนกันได้สูงที่สุดกว่า 20 เมตร แบบเต็มตา โดยในปี 2025 เริ่มเปิดให้เข้าชมกำแพงหิมะกันได้ตั้งแต่ช่วง 15 เมษายน ถึง 30 พฤศจิกายน ส่วนตัวปีนี้เรามีโอกาสได้แวะเวียนไปเที่ยวชมกันมาแล้ว เลยอยากหยิบรีวิวมาฝากเพื่อนๆ นักเที่ยวทุกท่านกัน รีวิว กําแพงหิมะ ญี่ปุ่น 2025 Tateyama Kurobe Alpine Route ส่วนตัวเราใช้ Route Nagano โดยเริ่มต้นจากสถานี Matsumoto ไปลงที่สถานี Shin-Shimashima เมื่อไปถึงสถานีแล้ว จะมีจุดจำหน่ายตั๋ว (ฝั่งซ้ายมือขาออกจากสถานี) เพื่อเดินทางไปยัง Ogizawa Station ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางไปยังกำแพงหิมะ หรือ Tateyama Kurobe Alpine Route ในทริปนี้ โดยเราจะซื้อตั๋วเดินทางแบบไป-กลับ (ไปไม่ถึงฝั่ง Toyama) ค่าตั๋วจะอยู่ที่ 2,950 เยน/คน ตั๋วแบบขาไป-กลับ อย่าลืมเก็บไว้ให้ดีเพราะต้องรอใช้ขากลับด้วยจ้า จากนั้นก็รอรอบขึ้นรถบัสไปยัง Ogizawa Station รอบรถมาไว คอยไม่นาน ส่วนที่นั่งในรถก็สะอาด สบายดีเลย ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 45-50 นาที เมื่อมาถึงสถานีปลายทาง อันดับต่อไปคือการซื้อตั๋วเพื่อเริ่มต้นการเดินทางตาม Tateyama Kurobe Alpine Route โดยสามารถ Walk in มาซื้อตั๋วได้ที่สถานี หรือใครจะจองล่วงหน้าผ่านทางออนไลน์มาก็ได้เช่นเดียวกัน และสำหรับใครที่จองออนไลน์มาแล้วแต่อยากปรับรอบให้ไวขึ้นก็ทำได้เหมือนกัน โดยจะมีค่าปรับเวลาคนละ 500 เยน หน้าตาของตั๋ว ย้ำว่าเก็บรักษาตั๋วใบนี้ไว้ให้ดีๆ เหมือนกันค่ะ เพราะเราจะต้องใช้ตลอดการเดินทาง เริ่มจากรถบัสไฟฟ้า(1) --> เคเบิ้ล คาร์ --> Ropeway --> รถบัสไฟฟ้า(2) (ถ้าใครเดินทางไป-กลับ ก็จะต้องใช้ในขากลับด้วย) โดยในแต่ละจุดจะมีพนักงานใช้เครื่องยิง QR Code ที่มุมขวาล่างของตั๋ว เริ่มต้นจากการนั่งรถบัส Kanden Tunnel Electric Bus ผ่านอุโมงค์ยาว 6.1 กม. ใช้เวลาประมาณ 16 นาที เริ่มต้นการเดินเท้ารอบแรก สำหรับใครที่แพลนไปเที่ยวกำแพงหิมะ ญี่ปุ่น สิ่งสำคัญที่ต้องทราบเลยก็คือเราจะต้องเดินทางขึ้นเขา ไปยังตำแหน่ง Murodō ที่ระดับความสูงประมาณ 2,450 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล เพราะฉะนั้นทางที่เราต้องเดินจะมีความชัน เหนื่อยหอบกันทุกรายแน่นอน เพราะฉะนั้นเตรียมสุขภาพ พกยาลม ยาดม กันมาให้พร้อม และอย่าลืมใส่รองเท้าที่ทะมัดทะแมงเหมาะกับการเดินทางชัน จุดแรกที่เราจะได้เริ่มชมวิวคือ Kurobe Dam ซึ่งเป็นเขื่อนขนาดใหญ่ วิวด้านหลังเป็นเจแปน แอลป์ สวยตราตรึงหัวใจมากๆ ตรงจุดนี้มีบริการถ่ายภาพพร้อมปริ๊นท์ใส่กรอบรูปเพื่อเป็นที่ระลึกด้วย หลังจากที่ชมวิวจากด้านบนแล้ว เราจะต้องเดินเลียบบันไดลงไปเพื่อลงไปเดินบนถนนที่แนวสันเขื่อนเพื่อเริ่มการเดินทางไปยังจุดถัดไป ออกเดินมาจากแนวถนนที่สันเขื่อน ขึ้นบันไดผ่านอุโมงค์มาเรื่อยๆ เราจะเจอกับสถานีเดินทางถัดไป โดยจะเป็นการเดินทางจาก Kurobe Dam ไปยัง Kurobedaira ด้วยรถรางเคเบิลคาร์ Kurobe Cable Car ใช้เวลาประมาณ 5 นาที โดยเราจะต้องตั้งแถวรอเป็นรอบๆ ทั้งนี้ตัวรถรางเคเบิลคาร์ก็จุคนได้ค่อนข้างเยอะเลยเหมือนกัน เมื่อมาถึงบริเวณ Kurobedaira โซนนี้จะมีร้านขายของฝาก ร้านขายอาหาร ไอศกรีม ใครหิวก็แวะเติมพลังกันได้ ทั้งยังมีโซนสวนสวยๆ ขนาดไม่ใหญ่มากให้ได้ชมกัน รวมไปจนถึงมี Panorama Terrace ซึ่งเราสามารถเดินขึ้นไปเพิ่มชมวิวของยอดเขาได้แบบ 360 องศา จากนั้นเราก็เดินไปต่อแถวเพื่อเดินทางกันต่อ รอบนี้จะเป็นการเดินทางไปสู่ Daikanbō ด้วยกระเช้าโดยสาร Tateyama Ropeway ใช้เวลาประมาณ 7 นาที วิวจากกระเช้าคือสวยมากเลยทีเดียวเชียว มีหิมะขาวโพลนขนาบล้อมรอบตัวเราที่อยู่ในมุมสูง แต่ถ่ายภาพได้ยากหน่อยเพราะคนค่อนข้างเยอะ เมื่อมาถึง Daikanbō เราก็ออกเดินทางกันต่อ ครั้งนี้เราจะนั่งรถบัสไฟฟ้าผ่านอุโมงค์ Tateyama Tunnel ใช้เวลาประมาณ 10 นาที การเดินทางจะเป็นรอบๆ เหมือนเดิม โดยรถบัสจะออกตัวพร้อมๆ กันประมาณ 3 คัน และแล้วเราก็เดินทางมาถึง Murodō ที่จุดความสูง 2,450 เมตร จากระดับน้ำทะเล (ไชโย!!) โดยจุดนี้มีจุดชมวิวหลายจุด ทั้ง Snow wall และ Mikurigaike Pond / Snow Corridor ก่อนออกไปเจอหิมะ ใครที่เตรียมอุปกรณ์มาไม่พร้อม ในชั้นนี้เขามีขายแบบครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อกันหนาว ถุงมือ หมวก แว่นตา (แนะนำว่าควรมีเพราะแดดสะท้อนหิมะแสบตามากๆ) หรือใครกลัวลื่นก็สามารถซื้อ Snow Grips หรือ crampons ได้เช่นเดียวกัน ส่วนใครที่เริ่มหิวเขาก็มีร้านอาหารจำหน่ายเยอะเลย มีทั้งเมนูที่กินได้ง่ายๆ อย่างซาลาเปา ราเมงยืนกิน หรือจะเป็นร้านอาหารแบบนั่งทานก็มีเหมือนกัน จุดแรกที่เราจะออกไปดูก็คือ Snow Corridor เป็นลานหิมะโล่ง กว้าง นักท่องเที่ยวออกมาเดินชมวิวกันเยอะมาก จุดนี้เป็นอีกมุมที่ถ่ายรูปสวย วันที่เราเดินทางไป (เดือนพฤษภาคม) อากาศเย็นสบายกำลังดี ไม่หนาวมากนัก และเมื่อเดินตรงไปเรื่อยๆ จะเจอกับ Mikuriga-ike Pond เนื่องด้วยเป็นช่วงที่ผลัดเปลี่ยนจากช่วงหน้าหนาว ตัวบ่อน้ำเลยยังเป็นน้ำแข็งอยู่ มีบางส่วนที่เริ่มละลายจุดนี้มีเก้าอี้ให้นั่งชมวิวหิมะสวยๆ พลาดไม่ได้คือ Snow Wall ช่วงที่เราไปกำแพงหิมะไม่สูงมากเท่าไหร่ คิดว่าเป็นช่วงปลายฤดูหนาวด้วยหิมะเริ่มเลยละลาย แต่ระดับความสูงก็ยังคงเป็นระดับที่ถ่ายภาพสวยและดูน่าตระการตาอยู่ จำนวนนักท่องเที่ยวที่หมุนเวียนเข้ามาเรื่อยๆ ค่อนข้างเยอะ ใครอยากได้ภาพสวยๆ แนะนำให้เดินไปถ่ายภาพช่วงปลายทางคนจะน้อยกว่าช่วงต้นทาง บรรยากาศก็สดใส ฟ้าเกลี้ยง ทำให้ภาพรวมดูดีสุดๆ โดยระยะทางแต่ละขาอยู่ที่ 400-500 เมตร เดินเล่น ถ่ายภาพเก็บความประทับใจ สุดท้ายเราก็ขอเติมพลังด้วยมื้ออาหารบนยอดเขาที่สูงเกือบ 3,000 เมตรกันเสียหน่อย (ฮาาา) อาหารรสชาติอร่อย ราคากลางๆ ไม่แรงนัก ที่สำคัญมีให้เลือกซื้อเยอะมาก สามารถชำระเงินได้หลากหลายรูปแบบ (อาจมีบางร้านที่รับเฉพาะเงินสด เพราะฉะนั้นอย่าลืมกดเงินสดเผื่อมาด้วย) นั่งทานอาหาร พักผ่อนให้หายเหนื่อย เราก็เดินทางกลับ โดยเส้นทางการเดินทางก็จะเหมือนกันกับขามาแค่สลับฝั่งกัน โดยเราจะใช้ตั๋วใบเดียวกันกับขามา และนี่ก็เป็นรีวิว กําแพงหิมะญี่ปุ่น 2025 Tateyama Kurobe Alpine Route ที่เราได้ลองไปเที่ยวมาแล้ว และอยากหยิบยกรีวิวมาฝากกัน ใครชอบหิมะสีขาวโพลน ชอบดูวิวธรรมชาติสวยๆ จะตอบโจทย์ ส่วนตัวแนะนำให้มาช่วงเดือนที่หิมะหนาตัว อากาศยังหนาวๆ เพื่อเพิ่มความฟินมากขึ้นไปอีก และควรเตรียมสุขภาพให้พร้อมเพราะเดินทางหลายขั้นตอน นอกจากนี้จำนวนนักท่องเที่ยวก็เยอะด้วยเหมือนกันจ้า ภาพหน้าปก และ ภาพในเนื้อหาทั้งหมด โดย ผู้เขียน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !