สวัสดีค่ะผู้อ่านทุกคน เผลอแปปเดียวก็จะปีใหม่กันแล้ว ใครมีแพลนไปเที่ยวช่วงปีใหม่กันบ้างเอ่ย? ใครที่ทำงานเหนื่อยหรือใครที่เรียนหนักมาทั้งปี วันหยุดยาวรอบนี้ถือว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้พักผ่อนให้หายเครียดจากความเหนื่อยล้ามาทั้งปี แต่สำหรับใครยังลังเล ไม่แน่ใจ คิดไม่ตกว่า เอ๊ะ?! ฉันจะไปเที่ยวที่ไหนดีนะ วันนี้เราอยากจะมานำเสนอสถานที่เที่ยวที่เราเพิ่งไปมา สด ๆ ร้อน ๆ เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการ Chill&Relax ม๊ากมาก แถมยังไม่ไกลจาก กรุงเพทฯ อีกด้วยนะจ๊ะ เอาล่ะ ถ้าทุกคนอยากรู้กันแล้ว ก็คาดเข็มขัด ซิ่งรถตามเรากันมาเลย! สำหรับสถานที่เที่ยวที่จะมาแนะนำในวันนี้ก็คือ “เกาะเสม็ด” จังหวัดระยองนั่นเองค่ะ ซึ่งการเดินทางจากกรุงเทพฯ มาจังหวัดระยองก็ไม่ยากเลยแถมยังมาได้หลายเส้นทางอีกด้วย ส่วนตัวเราเดินจากจังหวัดกรุงเทพฯ โดยรถยนต์ส่วนตัว ขับไปทางเส้นมอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ-ชลบุรีสาย 7 ขับตรงยาวมาเรื่อย ๆ จากนั้นเลี้ยวแยกซ้ายตามป้ายระยองออกทางหลวงหมายเลข 36 เพื่อเข้าสู่จังหวัดระยอง และก็ปัก Location ไปตำบลบ้านเพ เพื่อไปขึ้นเรือข้ามไปเกาะเสม็ดที่ท่าเรือบ้านเพนั่นเอง ใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งเองค่ะ เห็นไหมละ ไม่ไกลเลย เมื่อเรามาถึงแถวท่าเรือบ้านเพแล้ว จุดแรกที่แวะกันเลยก็คือ ตลาดสินค้าครบวงจร ตลาด 100 เสา เทศบาลตำบลบ้านเพ ซึ่งที่นี้มีสินค้าทั้งของสด ของแห้ง ให้เลือกซื้อมากมาย ถ้าใครอยากจะซื้อของเพื่อนำข้ามไปเกาะก็สามารถมาหาซื้อที่นี้ได้เลยค่ะ จากนั้นก็ถึงเวลาข้ามเกาะกันแล้ว! ซึ่งเรือข้ามฝากไปเกาะเสม็ดก็มีให้เลือกหลากหลายเจ้าด้วยกัน สามารถเลือกกันได้ตามชอบใจ โดยส่วนใหญ่แต่ละเจ้าเขาจะรับฝากรถด้วยนะคะเพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องที่จอดรถจ้า สำหรับการเดินทางครั้งนี้เราใช้บริการเรือข้ามเกาะของเรือโชคแสงสมุทร อยู่ในซอยศูนย์การค้าซอยสี่ ตรงข้ามกับท่าเรือนวลทิพย์ ซึ่งราคาที่จอดรถของเจ้านี้คือ 120 บาท/คืน จากนั้นก็ข้ามไปเกาะเสม็ด จริง ๆ เรือข้ามเกาะมีให้เลือกหลากหลายค่ะ มีตั้งแต่เรือช้าที่ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ราคาประมาณ 120 บาท (ขึ้นอยู่กับแต่ละเจ้านะคะ ไม่เท่ากัน) ไปลงที่ท่าเรือหน้าด่าน แต่เราเลือกนั่งเรือ Speedboat เหมาไป-กลับ 340 บาท/คน ไปลงที่หาดทรายแก้ว ซึ่งเป็นหาดที่เราพักเลยค่ะ จะได้ไม่ต้องต่อรถสองแถวมาอีก มาถึงแล้ว หาดทรายแก้ว! ทรายขาวและนุ่มมากเลยจ้าขอบอก น้ำทะเลก็สีสวยมาก น้ำใสแจ๋วน่าเล่นสุด ๆ สำหรับหาดนี้จะครึกครื้นที่สุดในบรรดาทุกหาดของเกาะเสม็ดค่ะ มีร้านอาหารและบาร์ต่าง ๆ มากมาย พอมาถึงเราก็ตรงไปเก็บของที่ที่พักกันก่อน ที่พักเรามีชื่อว่า Samed Your House ห่างจากหาดทรายแก้วประมาณ 300 เมตร เราจองเป็นห้องพักแบบ Loft 2 ห้อง รวมทั้งสิ้น 2,700 บาท/คืน เราไปกัน 5 คน ก็ตกคนละ 540 บาท/คืน เองค่ะ เราประทับใจที่พักมาก เพราะสะอาด มีอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้ครบ แถมยังใกล้หาดทรายแก้วและพี่เจ้าห้องก็ใจดีด้วยค่ะ ขอบคุณรูปภาพจาก : ที่พัก Samed Your House ขอบคุณรูปภาพจาก : ที่พัก Samed Your House ขอบคุณรูปภาพจาก : ที่พัก Samed Your House หลังจากเก็บของเสร็จเราก็ออกมาเดินเล่นเลียบหาดทรายแก้ว พอเราเดินไปเรื่อย ๆ ก็จะเจอรูปปั้นนางเงือกซึ่งเป็นจุด Landmark ถ่ายรูปสวย ๆ ถัดจากโขดหินไปก็คือ "อ่าวไผ่" นั่นเองค่ะ อ่าวไผ่อาจจะไม่ครึกครื้นเท่ากับหาดทรายแก้ว แต่บรรยากาศก็ดีมากเช่นกัน เราแวะไปอ่าวไผ่แปปนึงก่อนจะกลับมาที่ฝั่งหาดทรายแก้ว มานอนชิว ๆ กินลม ฟังเสียงคลื่นให้หายเหนื่อยอยู่ที่ริมหาด ก่อนที่จะไปเล่นน้ำทะเลจนเย็น จากนั้นจึงทานอาหารเย็นที่ร้าน ปลายทะเล ซึ่งอยู่ติดหาดเลย บรรยากาศดีม๊ากมาก เป็นอันเสร็จสิ้นภารกิจการเที่ยวในวันแรกของเรา วันที่สอง สำหรับการ Chill&Relax ของเราเริ่มต้นช้าหน่อยเพราะตื่นประมาณ 10 โมงค่ะ เราหาอะไรกินง่าย ๆ เป็นอาหารตามสั่งทั่วไป แล้วก็ตัดสินใจเหมารถสองแถวเป็นเวลา 3 ชั่วโมง เพื่อเดินทางไปอ่าวต่าง ๆ รอบเกาะในราคา 1,800 บาท/คัน จ้า (ไปกัน 5 คน ตกคนละ 360 บาท) หรือถ้าใครอยากเช่ามอเตอร์ไซค์ขับก็ได้ไม่มีปัญหาเด้อ ที่แรกที่เราไปคือ "อ่าวประการัง" ซึ่งสวยมากกกกกก ก ไก่ ล้านตัวจ่ะ เราชอบมาก ไม่วุ่นวาย บรรยากาศดี ดูสงบ และสีน้ำสวยม๊ากกก จากนั้นเราไปต่อกันที่ "จุดชมวิวท้ายเกาะ" จริง ๆ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมมากันตอนเย็นเพื่อมาดูพระอาทิตย์ตกค่ะ แต่พอดีเมื่อวานเราเล่นน้ำเพลินจนมาดูไม่ทัน เลยถือว่ามาชมวิวตอนกลางวันแทน (แต่แดดตอนกลางวันจะร้อนมาก) จุดชมวิวมีสองฝั่ง สามารถมาชมได้ทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกค่ะ จากนั้นก็ไปต่อกันที่ "อ่าวหวาย" ซึ่งเป็นอ่าวที่เงียบ สงบ ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมากนัก ให้อารมณ์แบบหาดส่วนตัวมากจ่ะ ที่สำคัญคลื่นแรงมาก น่าเล่นทะเลเป็นที่ซู๊ดดดด เสียดายที่วันนี้เราไม่ได้มีแพลนจะเล่นทะเลแล้วจากนั้นเราก็แวะไปอีกหลาย ๆ หาดค่ะ ไม่ว่าจะเป็น "อ่าวพร้าว" "อ่าวลุงดำ" สำหรับที่เคยเห็นรูปสะพานที่ยื่นออกไปในทะเลไว้เป็น Landmark ถ่ายรูปแบบชิค ๆ สะพานนั้นอยู่ที่อ่าวลุงดำนี้ล่ะค่ะ แต่! เขารื้นสะพานแล้ว ตอนนี้เลยเป็นแบบนี้แทน…. แต่สำหรับใครที่อยากไปถ่ายรูปก็ยังไปได้น้าพอเริ่มบ่ายแก่ ๆ ก็เริ่มหิวเลยแวะร้านอาหารที่ตกแต่งร้านแบบชิล ๆ ริมทะเลของ AVATARA Resort เพื่อเพิ่มพลังกันหน่อย ที่นี้มีเบเกอรี่อร่อย ๆ ด้วยนะคะ เอาล่ะ หมดเวลา 3 ชั่วโมงแล้ว เราก็นั่งรถกลับมาที่หาดทรายแก้วเพื่อเตรียมตัวรอเรือ Speedboat มารับกลับไปฝั่งระยอง ถือว่าเป็นอันจบทริป Chill&Relax ที่เกาะเสม็ดอย่างเป็นทางการจ้า ขอบอกว่าเราประทับใจมาก เพราะว่าบรรยากาศที่เกาะนั้นดีสุด ๆ มีหลายอ่าว หลายหาดให้ได้ไปเที่ยว และก็วิวดีมาก ถ้าใครที่ปีใหม่ยังไม่รู้จะไปไหน เกาะเสม็ดอาจจะอีกหนึ่งทางเลือกของคุณนะคะ เพราะเที่ยวทะเล เที่ยวเมื่อไหร่ ก็ไม่มี Out จ้า ! ไว้เจอกันใหม่ในบทความหน้า ไว้เจอกันค่ะทุกคน :) รวมค่าใช้จ่าย ค่าน้ำมันรถ 250 บาท/คน (ทั้งหมด 750 บาท คันเรานั่งกันไป 3 คน) ค่าทางด่วนขาไป 33.33 บาท/คน (ทั้งหมด 100 บาท คันเรานั่งกันไป 3 คน) ค่าทางด่วนขากลับ 33.33 บาท/คน (ทั้งหมด 100 บาท คันเรานั่งกันไป 3 คน) ค่าที่พัก 540 บาท/คน ค่าเรือ Speedboat ข้ามเกาะเสม็ด ไป-กลับ 340 บาท/คน ค่าเหมารถสองแถวรอบเกาะ 360 บาท/คน ( 1,800 บาท/คัน ไปกัน 5 คน) ค่ากินทั้งทริปเฉลี่ยประมาณ 1,200 บาท/คน เฉลี่ยรวมค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 2,757 บาท/คน