อุทยานแห่งชาติภูเวียง มีพื้นที่กว่า 380 ตารางกิโลเมตร โดยอยู่ในพื้นที่ของ 4 อำเภอด้วยกัน คือ อำเภอเวียงเก่า อำเภอภูเวียง อำเภอสีชมพู และอำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น มีลักษณะเป็นเทือกเขาและป่าไม้ที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ ทำให้มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลายที่เลยทีเดียว เขตอุทยานแห่งชาติภูเวียงจะมีทางที่สามารถเข้าไปได้อยู่หลายทาง แต่เส้นทางหลัก ๆ นั้น จะเป็นทางไปยังที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูเวียง ซึ่งอยู่ที่ตำบลในเมือง อำเภอเวียงเก่า จังหวัดขอนแก่น ตามพิกัดนี้เลย (https://goo.gl/maps/bJpm1AuNxCx4EBxt) และที่ที่จะพาไปในวันนี้ ก็อยู่ในพื้นที่เดียวกันกับที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูเวียงนี่แหละค่ะ อิอิ เราจะพาทุกคนไปเดินขึ้นเขา เอาบรรยากาศ ตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ภายในอุทยานแห่งชาติภูเวียงแห่งนี้ ซึ่งหากพูดถึงอุทยานแห่งชาติภูเวียงแล้ว ทุกคนก็คงจะทราบกันว่า เป็นแหล่งที่มีการขุดค้นพบกระดูกชิ้นส่วนของไดโนเสาร์แห่งหนึ่งในประเทศไทย ซึ่งแหล่งค้นพบก็จะอยู่บนเทือกเขาภูเวียงนี่เอง และก็ได้มีการนำมาจัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของที่นี่ โดยที่ที่เราจะพาไปในวันนี้ อยู่ถัดจากพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ไปเพียงแค่ 4 กิโลเมตรเท่านั้นเอง หากใครที่มาเยี่ยมชมน้องไดโนเสาร์ที่พิพิธภัณฑ์แล้ว ก็สามารถไปดูที่ที่น้องไดโนเสาร์เคยอาศัยอยู่กันต่อได้นะคะ เรามากับเพื่อนอีก 2 คน โดยขี่รถจักรยานยนต์มายังที่ทำการของอุทยานดังกล่าว แล้วเลยมานิดหน่อยก็จะเจอทางเข้าเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาตินี้ ด้านขวาจะมีที่จอดรถอยู่ เราสามารถจอดเอาไว้ได้เลย และเดินข้ามถนนมาอีกฝั่งก็จะเป็นทางเดินเข้าป่า ตรงนั้นจะมีร้านขายของ ซึ่งจะมีขนม น้ำดื่ม และของที่ระลึกเล็ก ๆ น้อย ๆ ขายด้วย แต่ทางเราได้เตรียมเสบียงมาด้วยเรียบร้อยแล้ว พวกเราจึงมุ่งหน้าขึ้นเขากันเลย เดินเข้าไปประมาณ 100 เมตร เราก็จะเจอกับโครงกระดูกไดโนเสาร์จำลองแบบนี้อยู่ระหว่างทาง แล้วเราก็จะได้ลอดท้องไดโนเสาร์กันไป 555+ เส้นทางเดินจะเป็นทางขึ้นเขานะคะ แต่จะค่อย ๆ ขึ้น ไม่ได้ชันอะไรมาก และทางก็ไม่ได้รกหรือเดินลำบากเลย เป็นทางที่มีการลาดปูนเอาไว้แล้ว เพราะฉะนั้น เราก็ควรจะเดินไปตามเส้นทางเดินนี้นะคะ ไม่ควรออกนอกเส้นทางเด็ดขาดเลย เดี๋ยวจะเกิดอันตรายเอาได้ โดยระยะทางในการเดิน ถ้าหากว่าเดินจนครบรอบก็จะประมาณ 3 กิโลเมตรกว่า ๆ ที่บอกว่าเดินจนรอบก็เพราะว่าทางเดินจะเป็นวงกลม พอเดินขึ้นไปถึงจุดสูงสุดแล้วเดินต่อไปอีกก็จะเป็นทางลง ซึ่งจะไม่ได้กลับมาทางเดิม และจะอ้อมกลับมายังจุดเริ่มต้นนั่นเอง แต่วันนี้เราไม่ได้เดินจนรอบนะคะ เพราะว่ามันไกลมากกก เราจะเดินขึ้นไปยังจุดชมวิว ซึ่งมีระยะทางแค่ 1.4 กิโลเมตรเท่านั้น แล้วก็จะเดินกลับลงมาทางเดิมค่ะ เพราะเรามาแบบชิลล์ ๆ อิอิ บรรยากาศระหว่างทางเดินก็จะประมาณนี้เลยค่ะ เหมาะสำหรับคนที่ชอบการเดินป่า ชอบต้นไม้ ใบหญ้า และธรรมชาติ ส่วนเราไปเดินเล่น ๆ กับเพื่อน ก็นับเปินกิจกรรมที่ดีเลย เดินไป คุยกันไป หยอกล้อกันไปเรื่อย ๆ ทำให้ไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไหร่ เพราะสนุกมากกว่า แถมยังได้ออกกำลังกายไปในตัวด้วย ถ้าหากว่าเหนื่อยก็นั่งพักระหว่างทางได้นะคะ ตรงไหนร่มก็นั่งตรงนั้นเลย พักดื่มน้ำ ทานขนมที่เตรียมมา พอหายเหนื่อยแล้วก็ค่อยเดินต่อ ใช้เวลาไม่นานเราก็ถึงจุดชมวิวกันแล้ววว บอกเลยว่าคุ้มค่ากับการเดินขึ้นมาแน่นอนค่ะ เพราะมองไปจะเห็นเทือกเขาสีเขียวที่อยู่ข้าง ๆ กัน ตัดกับสีท้องฟ้าที่สดใส ประกอบกับลมพัดมาเย็นสบาย มันทำให้เรารู้สึกสดชื่นมาก ๆ เหมือนกับได้มาเติมพลังจากธรรมชาติเลย เรานั่งพักกันอยู่ที่ศาลา ชมวิวและธรรมชาติบริเวณรอบ ๆ พร้อมกับกินขนมและคุยเล่นกันอยู่พักใหญ่เลย เพราะบรรยากาศมันเป็นส่วนตัวมาก ๆ มีเพียงเรา 3 คน อิอิ เมื่ออิ่มเอมใจแล้วเราก็เดินกลับกัน ซึ่งตอนลงจะไม่เหนื่อยเลยค่ะ เดินกันสบาย ๆ แป๊บเดียวก็ถึงแล้ว ใครอยากจะสัมผัสบรรยากาศแบบพวกเราบ้าง ก็มากันได้นะคะ โดยเฉพาะสายป่า ควรมาเป็นอย่างยิ่งเลย (ภาพประกอบทั้งหมดโดย : ผู้เขียน)