เมื่อปลายปีก่อนเจอตั๋วโปรราคาดี 100 บาทถ้วน เชื้อเชิญให้เราไปเที่ยวเมืองดอกบัว "อุบลราชธานี" เลยจองตั๋วไปอย่างไม่ลังเล หลังจากไม่ได้ไปเยือนจังหวัดตะวันออกสุดของไทยมาสิบกว่าปี ไปดูกันว่าหนึ่งวันในเมืองอุบลจะไปไหนได้บ้าง เราเลือกไฟลท์เช้าสุด เที่ยวบินของเรามาถึงเวลา 9.30 น. ก่อนกำหนดเวลา 20 นาที ที่หน้าสนามบินมีรถเมล์ใหม่ที่เพิ่งนำมาทดลองวิ่งเมื่อปลายปีที่แล้ว ราคา 20 บาท สามารถดูตำแหน่งรถได้ทางแอพ viabus แอพเดียวกับในกรุงเทพฯ สนามบินอยู่ใกล้ตัวเมืองนั่งรถแป๊บเดียวก็เข้ามาถึงในตัวเมือง ไปหามื้อเช้ากินกัน ร้านก๋วยจั๊บดับเพลิงอยู่ใกล้ๆ ที่พักพอดี ในร้านไม่มีป้ายเมนูหรือราคาแต่อย่างใด ก๋วยจั๊บญวณเส้นเหนียวหนึบ น้ำซุปกลมกล่อมใส่หมูยอและกระดูกหมู ใส่พริกเพิ่มอีกหน่อยอร่อยมาก แต่พริกค่อนข้างเผ็ดมากอยู่ ค่อยๆ ใส่ทีละน้อยดีกว่า สรุปค่าเสียหายมื้อนี้แค่ 35 บาท อิ่มเบาๆ แล้วไปต่อกัน พิพิธภัณฑ์แห่งชาติอุบลราชธานี ตั้งอยู่ในศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีหลังเดิม สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2461 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว บนที่ดินซึ่งพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ข้าหลวงต่างพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สำเร็จราชการมณฑลลาวกาว ทรงขอมาจากหม่อมเจียงคำ ชุมพล ณ อยุธยา เพื่อใช้เป็นที่สาธารณประโยชน์สำหรับก่อสร้างเป็นสถานที่ราชการ เสียค่าเข้าชม 20 บาทแล้วเข้าไปดูข้างในกัน ภายในจะจัดแสดงวัตถุตามลำดับเวลาคือ ก่อนประวัติศาสตร์ ทวาราวดีและเจนละ เขมรสมัยเมืองพระนคร วัฒนธรรมไทย-ลาว และยังมีห้องจัดแสดงผ้าพื้นเมือง ดนตรีพื้นเมือง และศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน กลองมโหระทึกสมัยก่อนประวัติศาสตร์อายุราว 2,500 ปี เนื่องในวัฒนธรรมดองซอน (เวียดนาม) ซึ่งใช้ในพิธีขอฝน วัตถุไฮไลท์ของที่นี่คือ "อรรธนารีศวร" ขุดพบในจังหวัดอุบลราชธานี และนำไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติพระนครในกรุงเทพ ก่อนนำมาจัดแสดงที่นี่ นับเป็นประติมากรรมอรรธนารีศวรที่เก่าแก่ที่สุดองค์หนึ่งในอาเซียน ถือเป็นประติมากรรมเนื่องในศาสนาพราหมณ์ลัทธิไศวนิกาย (นับถือพระศิวะ) ที่สร้างขึ้นตามเรื่องราวระหว่างพระอุมาและฤาษีภิริงกิต ผู้ซึ่งเคารพพระศิวะเพียงองค์เดียว ทำให้พระอุมาทรงพิโรธและสาปให้ร่างกายไร้เลือดเนื้อ ต่อมาภายหลังพระนางทรงละอายต่อสิ่งที่ได้กระทำต่อฤาษีตนนี้ จึงคืนคำสาปและอธิษฐานขอให้พระวรกายของพระนางเข้าไปรวมเป็นส่วนหนึ่งขององค์พระศิวะ ลักษณะของประติมากรรมสลักเป็นรูปพระศิวะและพระอุมารวมเป็นองค์เดียวกัน ขนาดความสูง 68 เซนติเมตร ประทับนั่งขัดสมาธิราบบนฐานบัวหงาย ยกพระกรทั้งสองข้างขึ้นเหนือพระเพลา พระ หัตถ์หักหายไป พระพักตร์ค่อนข้างยาว พระเนตรที่สามปรากฏอยู่กึ่งกลางพระนลาฏ พระเกศาเกล้าสูง ทรงกุณฑลขนาดใหญ่และพาหุรัดลายดอกไม้กรองศอเรียบและไม่มีลวดลาย ลักษณะที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนก็คือพระวรกายซีกขวามีลักษณะเป็นบุรุษเพศ หรือพระศิวะ มีรูปพระจันทร์เป็นวงกลมติดอยู่บนพระเศียร พระเกศาเป็นขมวดกลม มีไรพระมัสสุริมพระโอษฐ์ นุ่งผ้าสั้นเหนือพระชงฆ์ คาดเข็มขัดลายเชือกถัก มีบ่วงบาศคล้องที่พระหัตถ์ ส่วนพระวรกายซีกซ้าย หรือพระอุมาแสดงลักษณะกายวิภาคเป็นสตรีเพศ ทรงทองพระกรและนุ่งผ้ายาวไปจดข้อพระบาท มีแนวชายผ้าพาดจากใต้พระเพลาไปยังข้อพระกร คาดเข็มขัดลายลูกประคำ และยังมีวัตถุจัดแสดงอีกหลายชิ้นที่สะท้อนอิทธิพลขอมในดินแดนแถบนี้ เช่น ประติมากรรมพระคเณศ โสมสูตร (รางรับน้ำสรงศิวลึงค์ที่ต่อจากฐานโยนี) ตราครุฑที่เคยประดับที่หน้าศาลาว่าการจังหวัด หลังเกิดเหตุความไม่สงบทางการเมืองเมื่อปี 2553 ศาลากลางถูกไฟไหม้ แต่ครุฑที่หน้าจั่วไม่ได้รับความเสียหายจึงนำมาซ่อมแซมและจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ ออกจากพิพิธภัณฑ์ไปต่อที่ ปากหม้อโรบอท ไม่เห็นเมนูและราคาอีกเช่นกัน ปากหม้อใส่ไข่ไส้หมูยอ แป้งปากหม้อนุ่มหนึบดี มีน้ำจิ้มออกหวานนิดนึง สังเกตดูขายดีมาก แต่ละคนสั่งกันหลายกล่อง สรุปค่าเสียหาย 35 บาท เดินเท้ากันต่อไปตามหาสตรีทอาร์ทเมืองอุบลกัน มีทั้งหมด 6 จุดอยู่ใกล้ๆ วัดหลวง รูปแรก เบิก-บาน หรือ lotus kingdom ตามฉายาเมืองดอกบัวนั่นเอง รูปสอง ความสุข เป็นภาพหมอลำที่ได้รับการยกย่องเป็นศิลปินแห่งชาติ รูปสาม Ubon City 7017 ธีมเมืองในอนาคต รูปสี่ สายน้ำและการเปลี่ยนแปลง เราชอบรูปนี้สุด รูปห้า ฮูบแต้ม รูปหก Redmukk รูปทั้งหมดอยู่ใกล้กันใช้เวลาเดินหาไม่นานมากนัก แต่บางรูปอาจมีรถจอดบังบางส่วน เดินต่ออีกนิดจากจุดนี้ก็จะเจอถนนริมแม่น้ำมูล ไปรอชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้ากันที่ร้าน tree cafe มัทฉะช็อคโค่ (70 บาท) เราสั่งแบบปั่น เลยรวมร่างกันไปเรียบร้อย รสชาติเข้มไม่หวาน ออกไปทางช็อคโกแลตมากกว่า ส่วนขนมน่ากินทุกอันเลย ราคาดีงามเฉลี่ย 50 บาท เตะตาชีสเค้กไข่เค็ม สีสันสวยงามเหมาะถ่ายรูป รสชาติดีเหมือนหน้าตาขนม จริงๆ แล้วควรไปได้เยอะกว่านี้ แต่กล้องเลนส์พังเสียก่อน เลยหมดเวลาไปกับการหาทางซ่อมเลนส์กล้อง แต่ไม่เป็นไร จะได้เป็นเหตุผลให้กลับมาเก็บตกที่เหลืออีก นี่เป็นแค่วันแรกของการเดินทาง อย่าลืมติดตามตอนต่อไปกันนะ ข้อมูลร้านอาหาร ก๋วยจั๊บดับเพลิง เวลาเปิดปิด 06:00-15:00 น. ปากหม้อโรบอท เวลาเปิดปิด 06:30-14:00 น. Tree Cafe เวลาเปิดปิด 09:00-23:00 น. ภาพประกอบโดย food.travel.addict