หลายคนอาจเคยตั้งคำถามว่า "กระแสความศรัทธาต่อไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์ จะแผ่วลงตามกาลเวลาหรือไม่?" การกลับมาเยือนนครศรีธรรมราชของเราในครั้งนี้ เพื่ออัปเดตบรรยากาศล่าสุดในปี 2568 ก็เพื่อค้นหาคำตอบนั้น และสิ่งที่ได้ประจักษ์แก่สายตา ก็ตอบทุกข้อสงสัยได้อย่างสิ้นเชิงว่า...ไม่เลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม ปรากฏการณ์แห่งศรัทธานี้กลับเติบโตและยิ่งใหญ่ขึ้นกว่าเดิม จนน่าขนลุก ภาพจำที่เปลี่ยนไป ณ ดินแดนแห่งศรัทธา ความรู้สึกแรกที่สัมผัสได้เมื่อกลับมาเยือนวัดเจดีย์อีกครั้ง คือความเปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่เห็นได้ชัดเจน อาณาบริเวณของวัดถูกขยายออกไปอย่างกว้างขวาง โครงสร้างใหม่ๆ ที่กำลังก่อร่างสร้างตัวขึ้น เปรียบเสมือนอนุสรณ์ที่สะท้อนถึงพลังศรัทธาอันมหาศาลของผู้คนจากทั่วทุกสารทิศที่หลั่งไหลมาไม่ขาดสาย มันไม่ใช่แค่การขยับขยายพื้นที่ แต่คือการเติบโตของ "อาณาจักรแห่งความเชื่อ" ที่มีไอ้ไข่เป็นศูนย์กลาง ไฮไลท์ใหม่ที่งดงามจับใจ ท่ามกลางสิ่งปลูกสร้างใหม่ๆ สิ่งที่โดดเด่นและสะกดสายตาเรามากที่สุด คือ "หลวงพ่อองค์ใหญ่" พระพุทธรูปปางประทานพรสีขาวบริสุทธิ์ที่สร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว ประดิษฐานอย่างสง่างามกลางแจ้ง การได้ไปยืนสงบนิ่งอยู่เบื้องหน้าท่าน ชื่นชมพุทธศิลป์ที่อ่อนช้อย ท่ามกลางท้องฟ้าสีคราม กลับมอบความรู้สึกร่มเย็นในจิตใจได้อย่างน่าอัศจรรย์ ไม่ไกลกันนั้น ยังมี พระพุทธรูปทองคำองค์จำลองขนาดเท่าองค์จริง ให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล เสริมให้บรรยากาศโดยรอบเปี่ยมไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น เสียงประทัด และความขลังที่ยังคงเดิม แม้ภูมิทัศน์จะเปลี่ยนไป แต่ "หัวใจ" และ "จิตวิญญาณ" ของวัดเจดีย์ยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง บรรยากาศยังคงเนืองแน่นไปด้วยผู้คนจากทั่วประเทศ เสียงประกาศและเสียงสวดมนต์ยังคงดังกังวาน และแน่นอนว่า...เสียงประทัดที่ดังสนั่นหวั่นไหวอย่างต่อเนื่อง ก็ยังคงเป็นซาวด์แทร็กหลักของที่นี่ สำหรับเรา การได้จุดประทัดชุดใหญ่ถวายไอ้ไข่ ไม่ใช่แค่การแก้บนหรือการขอพร แต่มันคือการปลดปล่อยความกังวลและส่งต่อความหวังผ่านเสียงดังสนั่นนั้น เมื่อควันจางลงพร้อมกับเศษกระดาษสีแดงที่โปรยปราย มันคือความรู้สึกโล่งใจ สบายใจ และเหมือนได้รับการเติมพลังใจให้กลับไปสู้ต่อได้อย่างเต็มเปี่ยม สำหรับผู้ที่วางแผนจะเดินทางมาเยือน หากใครที่อ่านแล้วอยากจะมาสัมผัสประสบการณ์ด้วยตัวเอง การเดินทางมายังวัดเจดีย์นั้นสะดวกสบายมากครับ สามารถใช้รถยนต์ส่วนตัวและปักหมุดใน Google Maps มาได้เลย (https://maps.app.goo.gl/E8iJ2oCHPVoieobt5) ถนนหนทางดีตลอดเส้นทาง สำหรับที่พักก็ไม่ต้องกังวล รอบๆ บริเวณวัดมีรีสอร์ทและที่พักเกิดขึ้นมากมาย สามารถขับรถเลือกหาได้ตามความพอใจในราคาที่ใกล้เคียงกัน ข้อแนะนำเล็กน้อยคือ ควรเลือกมาในช่วงเช้าตรู่หรือช่วงเย็นไปเลยเพื่อหลีกเลี่ยงอากาศร้อน และที่สำคัญคือการแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อยเพื่อเป็นการให้เกียรติสถานที่ ส่วนเรื่องอาหารการกินและของไหว้ต่างๆ แนะนำให้จัดการจากบริเวณรอบนอกวัด จะมีตัวเลือกและราคาที่หลากหลายกว่า ท้ายที่สุดแล้ว การเดินทางมาวัดไอ้ไข่ครั้งนี้ เป็นมากกว่าแค่การมาตามกระแส แต่คือการได้มาเห็นกับตาว่าพลังแห่งศรัทธานั้นยิ่งใหญ่เพียงใด มันคือการเดินทางที่ช่วยชาร์จแบตเตอรี่ทางใจ และเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าความเชื่อและความหวังของผู้คนนั้น ไม่เคยจางหายไปตามกาลเวลาจริงๆ ครับ ขอรับรองว่า ภาพและบทความทั้งหมด เป็นเคดิตของเพจ แบกเป๋าเป้ อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !