สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาพูดกันถึงวัดที่เคยสวยงามในอดีต แต่กลับกลายเป็นวัดร้างที่เงียบเหงากัน นั้นก็คือวัดกุฏีดาวที่ตั้งอยู่มาตั้งแต่สมัยอยุธยาจนถึงปัจจุบัน แต่ไม่มีหลักฐานแน่ชัดถึงการสร้างวัดนี้ขึ้นมา ถึงแม้ว่าจะกลายเป็นวัดที่เงียบเหงาแต่ก็ เป็นวัดที่น่าสนใจ ไปท่องเที่ยวและ ศึกษาอีกทีหนึ่งของประเทศไทย วัดกุฏีดาวตั้งอยู่นอกเกาะเมืองทางทิศตะวันออก ในตำบลไผ่ลิง อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทิศเหนือติดกับทางเข้าวัดประดู่ทรงธรรมและวัดจักรวรรดิ พื้นที่ในวัดมีขนาดกว้าง มีโบสถ้ตั้งอยู่ 2 ตำแหน่ง มีเจดีย์อยู่ตรงกลาง และนอกเขตวัดก็มีโบสถ์ที่มีขนาดใหญ่อีกหลังตั้งอยู่ด้านข้างของวัด เรามาพูดถึงโบสถ์ตัวโบสถ์กันเลย ตัวโบสถ์ ทั้ง 3 ถึงแม้ว่าจะทรุดโทรมจากการเวลาไปมากแต่ก็ได้มีการบูรณะขึ้นมาให้ได้มากที่สุด ภาพถ่ายโดยนักเขียนเอง ตัวโบสถ์ทั้ง 2 บริเวณก่อขึ้นด้วยอิฐมีฐานเป็นแอ่งทรงคล้ายท้องเรือสำเภา ซึ่งตามประวัติศาสตร์ลักษณะนี้เป็นที่นิยมสร้างในยุคสมัยอยุธยาตอนปลาย ด้านในมีขนาดกว้าง หลังคาสูงโปร่ง มีเสาเรียงกันอย่างสวยงาม เหมาะแก่การถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกมาก ๆ เลย บริเวณบานหน้าต่างมีการวาดภาพจิตกรรมเอาไว้ แต่เนื่องการเสียกรุงครั้งที่ 2 และการเวลาที่ผ่านมานานจึงที่ให้ภาพมีการเลือนรางไปอยู่บ้าง ส่วนตัวเจดีย์ก่อขึ้นด้วยอิฐเช่นเดียวกับโบสถ์ทั้ง 3 ส่วนยอดของเจดีย์มีการหักลงมาอยู่บริเวณพื้นด้านข้างของเจดีย์ มีบันไดสูงและชันอยู่ 2 อันด้านหน้าของเจดีย์ สามารถขึ้นไปเดินวนรอบตัวเจดีย์หรือชมวิวของวัดได้ ภาพถ่ายโดยนักเขียนเอง โบสถ์หลังที่ 3 ที่ตั้งอยู่ด้านข้างของวัด มีลักษณะคล้ายโบสถ์ภายในวัดแต่กว้างกว่า มีหน้าต่างหลายบานและ มีเสาตั้งอยู่หลายต้นแต่ได้พังลงเหลือแต่โคนของเสาหมดแล้ว ถึงแม้ว่าเสาในหลังนี้จะพังหมดแล้วแต่ก็ยังมีความสวยงาม ทำให้เราสามารถถ่ายรูปเก็บเอาไว้ดูความสวยงามได้เลยค่ะ ภาพถ่ายโดยนักเขียนเอง เมื่อเราพูดถึงวัดแล้ว แน่นอนค่ะว่าหนีไม่พ้นเรื่องของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แล้วยิ่งเป็นวัดเก่าอายุ 100 กว่าปีแล้วด้วย เริ่มจากศาลปู่โสมเฝ้าทรัพย์ ตั้งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างโบสถ์ด้านหน้าของวัด เราสามารถเข้าไปขอพรปู่โสมได้ แนะนำว่าให้นำของไปฝากท่านด้วย ก็คือไก่ต้มกับเหล้าขาวนะคะ เมื่อเราขอพรแล้วประสบความสำเร็จก็อย่าลืมกลับมากราบท่านด้วยนะคะ ถัดจากปู่โสมแล้ว ต่อกันด้วยโบสถ์ แรกด้านหน้าของวัดกันนะคะ ด้านในจะมีหลุมเหมือนอ่างน้ำ และข้างบนจะมีพระว่างเรียงกันอยู่ เราก็สามารถไหว้พระและถ่ายรูปกับด้านในของโบสถ์ได้เลยค่ะภาพถ่ายโดยนักเขียนเอง เสร็จจากโบสถ์ด้านหน้าแล้ว เรามาต่อโบสถ์ด้านหลังกันต่อ ซึ่งด้านในมีการตั้งพระประธานเอาไว้ ซึ่งเราก็สามารถเข้าไปไหว้ขอพรได้เช่นกัน ซึ่งก็ถือว่ามีความศักดิ์สิทธิ์อยู่เช่นกัน และเช่นเคย หลังไหว้พระเราก็สามารถถ่ายรูปเก็บไว้ได้ ภาพถ่ายโดยนักเขียนเอง หมดจากการการเข้าไปไหว้พระในโบสถ์แล้ว ต่อกันที่ศาลด้านหลังของวัดที่ตั้งอยู่ใต้ต้นไหมใหญ่หลังโบสถ์ ซึ่งเราสามารถขอเรื่องการงานและการเงินได้ค่ะ และก็เช่นเคย ถ้าประสบความสำเร็จแล้วก็อย่าลืมกลับมาไหว้ท่านด้วยนะคะ หมดกันไปแล้วกับสถาที่เที่ยวในวันนี้ ในเรื่องของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดที่ได้กล่าวถึงทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความเชื่อส่วนบุคลนะคะ แล้วแต่ทุกท่านจะเชื่อหรือไม่ แต่เหนือสิ่งอื่นใด บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อชวนในทุกคนได้เข้ามาท่องเที่ยวสถานที่ประวัติศาสตร์ที่สวยงามเพื่อไม่ให้ถูกลืมไปตามการเวลา ต้องขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านบทความนี้ด้วยนะคะ