กล้าออกตัวเสียงดัง ๆ เลยครับว่าผมเนี่ยถือเป็นแฟนรถไฟสายใต้เลย หลายคนจะใช้บริการรถไฟไทยล่องใต้เป็นต้องส่งข้อความมาถามผม “คุณ ๆ จะไปจังหวัดนี้ มีรถไฟไหม” “จะไปจังหวัดนี้ มีเที่ยวไหนบ้าง” “ขบวนนี้มีชั้นนอนไหม แพงไหม” ดูน่าภูมิใจใช่เล่น แต่สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง นับประสาอะไรกับนักเล่าเรื่องริมทางอย่างผม แม้ขึ้นชื่อเรื่องรถไฟ ทว่าปล่อยไก่ตัวเป้ง ๆ ออกมาครั้งหนึ่ง ที่ปรึกษาด้านรถไฟที่ทนงตน ตกรถไฟทั้ง ๆ ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ขบวนที่จะโดยสาร ด้วยมั่นใจเหลือล้นว่า ไม่ใช่ขบวนนี้หรอก เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องขำขันที่ผมโดนแซวไม่เลิกรา หนนี้ไม่ได้มาเล่าว่าตกรถไฟเจ็บไหม เจ็บน่ะเจ็บ แต่ไม่ใช่ตัว เจ็บใจต่างหาก ฮั่นแน่! ยังไม่เลิก ตามหัวข้อเลยครับ จะมารีวิวรถไฟขบวนสั้น ๆ ทว่าวิ่งไกล้ ไกล ด่วนพิเศษ สาย 41 ที่มี 3 – 4 ตู้เอง แต่วิ่งยาวที่สุดในประเทศไทย ด่วนพิเศษ สาย 41 คือ รถไฟดีเซลราง กรุงเทพฯ – ยะลา กำหนดล้อเคลื่อนจากสถานนีกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) เวลา 22.50 น. ถึงปลายทาง 14.30 น. กับระยะทาง 1,000 กิโลเมตร นิด ๆ นี่คือเวลาทฤษฏีนะครับ ส่วนเวลาภาคปฏิบัติ การรถไฟไทยใจดีเสมอ แถมให้อีกอย่างน้อย ๆ 2 ชั่วโมงต่อเที่ยว ดีเซลรางมีให้บริการอยู่ทุกภาคครับ จากกรุงเทพมหานคร ไปเชียงใหม่แดนล้านนาก็มี แต่นั่นสุดสายแล้ว ระยะทางเพียง 700 กิโลเมตรกว่า ๆ เอง ขบวนที่มารีวิวเป็นรถที่พิเศษกว่าใคร ๆ ตรงที่มันสั้น มองให้หรูก็หรูหราเอาการ มองให้ธรรมดา ก็ธรรมด้าธรรมดา ด้วยเหตุผลเหล่านี้ มีพนักงานต้อนรับแต่งตัวดี มียูนิฟอร์มสีชมพูสวยงาม ติดตราปุ้มปุ้ย ส่วนมากพูดจาสุภาพอ่อนหวาน ติดแอร์เย็นฉ่ำ มีอาหารบริการ น้ำเย็น น้ำส้ม กาแฟ อาหารหนัก ๆ อย่างข้าวสวย กับข้าวอร่อย ๆ ของปุ้มปุ้ย เข็นบริการเหมือนนั่งอยู่บนสายการบินอย่างไรอย่างนั้น เป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ บรรยากาศเหมือนเครื่องบินเข้าไปอีก วิ่งเร็ว เสียเวลา 2 ชั่วโมงนี่ถือว่า น้อยยยยย มีเฉพาะที่นั่งเอน นั่งมาราธอนระยะทาง 1,000 กิโลเมตร เมื่อยเอาการ ห้องน้ำมีจำกัด และไม่ค่อยโสภา ถ้าคุณทำทานมาน้อย อาจเจอพนักงานบริการส่วนน้อย ที่สีหน้าไม่ค่อยยิ้มแย้มเหมือนปลาปุ้มปุ้ย ที่นั่งเล็กไปหน่อย คนตัวเล็กอย่างผมยังรู้สึกเบียด ถ้าบังเอิญนั่งติดกับคนร่างใหญ่คงได้แต่ยิ้มแหย อาจสังเกตว่าทำไมผมเอ่ยถึงปุ้มปุ้ยบ่อย ก็เพราะอาหารบริการเป็นของปุ้มปุ้ยครับ ยี่ห้อปลากระป๋องนี่แหละ ผมเพิ่งมารู้ก็คราวใช้บริการนี่เองว่า เขาไม่ได้ทำปลากระป๋องขายเพียงอย่างเดียว แบ่งไปฝั่งละเท่า ๆ กัน ข้อดีและข้อเสีย รถไฟก็เหมือนเครื่องบิน เมื่อถึงปลายทางแล้วจะเปลี่ยนชื่อขบวน ด่วนพิเศษ 41 เมื่อถึงยะลา จะเปลี่ยนชื่อเป็น ด่วนพิเศษ 42 มุ่งหน้าเข้ามหานครกรุงเทพต่อ อ้อ! มีอีกหนึ่งเรื่องหากโดยสารรถไฟล่องใต้ไปเกิน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพราะเมื่อออกจากสถานีชุมทางหาดใหญ่แล้ว จะมีพี่ ๆ ทหารขึ้นมาอารักขา มาขอถ่ายบัตรประชาชนบ้าง สุ่มตรวจกระเป๋าบ้าง แต่อย่ากังวลไป เป็นหน้าที่ พี่ ๆ เขาทำงานด้วยรอยยิ้ม และเป็นกันเอง สำหรับผมเองแม้จะบ่นเรื่องรถไฟเสมอเมื่อมีโอกาส แต่ก็ชื่นชอบรถไฟไม่น้อย ชอบเพราะชีวิตผู้คนหลากหลายต่างหลั่งไหลมารวมกัน มีโอกาสได้ศึกษา ได้สังเกต บรรยากาศสองข้างทางก็ชวนให้ใจสงบ (ถ้าไม่เจอพนักงาน หรือเพือนร่วมเดินทางข้าง ๆ หน้าตาไม่รับแขก) หากไม่เร่งรีบ ผมว่าการเดินทางโดยรถไฟเป็นทางเลือกที่ดีเลยล่ะ เพื่อน ๆ ที่มีโอกาสมาอ่านรีวิวนี้ ว่าง ๆ ลองใช้บริการดูครับ ภาพประกอบโดย ผู้เขียน