เมื่อเราไปเดินเล่นที่ "ตลาดน้ำคลองบางหลวง" ซึ่งช่วงนี้เราอยากจะไปเดินเล่นตามที่ต่างๆในกรุงเทพ วันที่เดินทางไป เราไปด้วยรถไฟฟ้า MRT โดยไปลงที่ "สถานีบางไผ่" ออกที่ทางออก 4 ซอยเพชรเกษม 20 ต้องเล่าก่อนว่าจริงๆแล้วเราจินตนาการไว้ว่าตลาดน้ำคลองบางหลวง นอกจากมีร้านที่ให้เราสามารถทำงานศิลป์ต่างๆได้แล้ว(ซึ่งโด่งดังมากในโซเชียล) ก็จะมีร้านของกินท้องถิ่นอีกเยอะแยะมากมายเลยแหละ นั่นคือสิ่งที่เราคิดไว้ กลับมาที่ตรงทางลงจากสถานีรถไฟฟ้าต่อนะ ตรงทางลงจะมีวินมอเตอร์ไซค์คอยรอรับนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว วันที่เราไปเป็นวันธรรมดาจำนวนรถวินเลยอาจจะน้อย เราก็เลยต้องขึ้นวินไปพร้อมกับคนเกาหลีคนนึง นั่งเข้าไปในซอยลึกพอสมควรเลยนะ พอไปถึงก็จ่ายแบงค์ 20 ไป เพราะที่วินเขียนไว้ว่า เข้าไปตลาดน้ำ ราคา 15 บาท แต่เขาไม่ทอนแถมยังพูดภาษาอังกฤษกับเรา ส่วนเราก็ตามน้ำไปแหละ ไม่ได้คิดมากอะไรซึ่งตอนนั้นหิวน้ำมาก เพราะอากาศร้อนมากกกก พอไปถึงตลาดน้ำ ก็มีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ส่วนมากจะเป็นชาวต่างชาติเต็มไปหมด คนไทยอ่ะนับคนได้เลย เราก็เริ่มเดินเข้าไปในตลาด โดยไปทาง "ร้านครัวคุณอ๋อย" ซึ่งน่าจะเป็นร้านอาหารที่คิดว่าน่าจะใหญ่ที่สุดในตลาดแล้วล่ะ พอทะลุร้านไปก็เจอกับริมน้ำทันที พอเดินไปอีกหน่อย ซึ่งติดกับร้านครัวคุณอ๋อย ก็จะเป็น "บ้านพึ่งศิลป์" ซึ่งเป็นร้านที่มีกิจกรรมด้านงานศิลป์มากมายให้นักท่องเที่ยวได้ละเลงตามใจ ทั้ง งานวาดภาพบนเฟรมผ้าใบ วาดตกแต่งปฏิทิน ร้อยกำไลลูกปัด เพ้นสีถาดหรือตุ๊กตาปูนพลาสเตอร์ และอื่นๆอีกเยอะแยะให้เราเลือกทำกันวันที่ไปเราก็เข้าไปแค่ด้อมๆมองๆ เพราะคนเยอะมากกกในร้าน และในร้านเขาก็มีคาเฟ่ให้เราสามารถสั่งน้ำ สั่งกาแฟ และของกินด้วยนะ เอาแบบทำงานศิลป์ไปกินไปเพลินๆ ถัดจากบ้านพึ่งศิลป์ ก็จะข้ามสะพานไปอีกฝั่งละ ซึ่งบนราวสะพานจะเต็มไปด้วย "ป้ายแผ่นไม้ที่เขียนข้อความต่างๆ" แขวนตกแต่งดูแล้วก็สวยงามดีนะ อีกฝั่งของสะพานจะเป็นร้านที่มีกิจกรรมงานศิลป์อีกร้านนึง คือ "บ้านศิลปิน" มีกิจกรรมให้ทำคล้ายๆกับร้านเมื่อกี้ แต่ร้านนี้วันที่เราไปคนจะเยอะกว่ามาก อาจจะเพราะเป็นร้านที่เปิดโล่งที่ทำให้ได้สัมผัสบรรยากาศของริมน้ำไปด้วย ทำงานศิลป์ไปด้วย จิบน้ำไปด้วย เพราะร้านนี้ก็มีคาเฟ่ในร้านเหมือนกัน ถัดจากบ้านศิลปินก็จะเป็นร้านขายของชำที่มีของเล่นขายที่วางโชว์ไว้ก็จะเป็นพวก "โมเดลรถโบราณ" และมีขนมโบราณต่างๆ กับที่ริมน้ำมีคนกำลังให้อาหารปลากัน และมีร้านขายภาพวาดที่เรามองว่ามันสวยมากกกก แต่ราคาก็เอิ่มมม คงขายนักท่องเที่ยวแหละนะ แต่มันสวยจริงๆ และก็มีร้านขายของฝากที่เป็นงานประดิษฐ์ของชาวบ้านที่ดูมีเสน่ห์ดี ส่วนพอเดินมาถึงสะพานอีกสะพานนึงก็จะเจออีกร้านนึงที่คนนั่งกันเยอะก็คือร้าน "บ้านเพลินจิต" ที่มีที่นั่งห้อยขาริมน้ำด้วยนะ แล้วเราก็เดินต่อไปทางที่เหมือนจะเป็นด้านหลังของตลาดน้ำแล้วล่ะ เพราะมันขนานกับทางริมน้ำเมื่อกี้ เดินมาก็เจอกับอีกร้านที่ชื่อว่า "บ้านนักมวย" ที่มีคาเฟ่เล็กๆ เราก็สั่งชาไทยไป รสชาติดีเลยนะ เพราะเราชอบแบบหอมชาและไม่หวานมาก และเป็นร้านที่มี "ไอศครีมถั่วตัดผักชี" ซึ่งเขาระบุไว้ว่าเป็นร้านแรกในประเทศไทย จากคลองโอ่งอ่าง แต่ไม่ได้ลองกินนะ เดินต่อมาอีกก็เจอกับร้านโตเกียว "MEOW MEOW ROLL" ที่วันนั้นร้านปิด เดินตามทางมาเรื่อยๆก็จะวนมาเจอกับร้านครัวคุณอ๋อยแล้วล่ะ ออ ลืมเลย!! ตัวตลาดน้ำจะอยู่ติดกับ "วัดกำแพงบางจาก" เลยนะ ใครจะแวะ ไหว้พระ ทำบุญ ก็จัดไปได้เลย รึใครอยากนั่งเรือชมวิถีชีวิตของชาวบ้านแถบริมน้ำก็มีเรือให้บริการนะ แล้วเราก็มารอวินมอเตอร์ไซค์เพื่อกลับไปที่สถานี MRT ขากลับ 10 บาทเองงงง ลำดับการเดินที่เราเดินรอบตลาดน้ำนะ : ครัวคุณอ๋อย บ้านพึ่งศิลป์ สะพานที่มีป้ายแผ่นไม้ บ้านศิลปิน ร้านรถโบราณ ร้านภาพวาดและร้านขายของฝาก บ้านเพลินจิต บ้านนักมวย เหมียว เหมียวโรล ร้านของฝากแฮนด์เมดและร้านภาพวาด วนมาที่ร้านครัวคุณอ๋อย ความคิดเห็นส่วนตัว : ตลาดน้ำคลองบางหลวง ณ วันที่เราไปตรงกับวันอังคาร มีหลายร้านที่ตอนนั้นปิดนะ แต่ที่เห็นคือ ถ้าหากใครต้องการมาทำกิจกรรมศิลปะ ก็แนะนำเลย ส่วนใครที่ต้องการตลาดน้ำแบบมีร้านของกินเยอะๆ หลากหลายแบบก็ลองวางแผนดีๆครับ เพราะเท่าที่เราเดินวน 3 รอบก็จะมีร้านของกินไม่ได้เยอะมาก ภาพทั้งหมดโดย : ผู้เขียน อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !