ถ้าพูดถึงสถานที่พักผ่อนหย่อนใจไปกับธรรมชาติคงพลาดไม่ได้เลยที่จะไม่พูดถึงสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ จุดพักผ่อนหย่อนใจกลางกรุงที่คนรักธรรมชาติต้องไม่พลาด ก่อนที่จะไปชมสถานที่ภายในสวนเรามาทำความรู้จักสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์สวนสาธารณะใกล้รถไฟฟ้ากันก่อน ภาพที่ 1 ป้ายสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ (ภาพโดยผู้เขียน) สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เป็นสวนสาธารณะที่มีประวัติความเป็นมาอันน่าประทับใจ ก่อตั้งขึ้นจากมติคณะรัฐมนตรีในปี 2534 บนพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทยทางทิศใต้ของสนามกอล์ฟรถไฟ โดยมีวัตถุประสงค์พิเศษเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ (60 พรรษา) ในวันที่ 12 สิงหาคม 2535 นับเป็นสวนสาธารณะที่ไม่เพียงให้ความร่มรื่นแก่ชาวกรุงเทพฯ แต่ยังเป็นการแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อีกด้วย สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2539 บนพื้นที่กว่า 196 ไร่ริมถนนกำแพงเพชร 2 ในเขตจตุจักร กรุงเทพฯ นอกจากความร่มรื่นสวยงามแล้ว สวนแห่งนี้ยังโดดเด่นในฐานะแหล่งรวบรวมและอนุรักษ์พันธุ์ไม้ทั้งในและต่างประเทศ ด้วยการจัดปลูกพืชแยกตามวงศ์อย่างเป็นระบบ ทำให้กลายเป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่สมบูรณ์แบบแห่งหนึ่งของประเทศไทย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ พร้อมได้ความรู้ด้านพฤกษศาสตร์ไปในตัว ภาพที่ 2 ป้ายข้อมูลสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ (ภาพโดยผู้เขียน) จุดเด่นของสวนแห่งนี้คือความหลากหลายของพรรณไม้และพื้นที่สำหรับทำกิจกรรม นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่น วิ่ง ปั่นจักรยาน หรือนั่งพักผ่อนได้ตามอัธยาศัย มีเส้นทางเดินที่ร่มรื่นและสวยงาม เหมาะสำหรับการออกกำลังกายและถ่ายรูปเก๋ๆ ติดโซเชียลได้ปังสุดๆ นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ออกกำลังกายให้บริการฟรี ทำให้คนรุ่นใหม่สามารถมาสร้างสรรค์คอนเทนต์ได้ไม่รู้จบ ภาพที่ 3 ป้ายเเผนที่สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ (ภาพโดยผู้เขียน) หลังจากเรารู้ประวัติความเป็นมาและจุดเด่นของสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์กันไปแล้วอีกอย่างหนึ่งที่ไม่ควรพลาดคือจุดถ่ายรูปที่เป็นไฮไลท์ต่างๆมากมาย วันนี้เราจะพาทุกคนไปปักหมุดจุดถ่ายรูปสวยๆภายในสวนที่ใครมาก็ต้องมาถ่ายกันแน่นอน สะพานหิน ภาพที่ 4 สะพานหิน (ภาพโดยผู้เขียน) หากคุณเป็นแฟนละครสุดฮิตอย่าง 'หนึ่งในร้อย' ที่กำลังสร้างปรากฏการณ์ความประทับใจไปทั่วประเทศ คงอดใจไม่ไหวที่จะมาเยือนสถานที่ถ่ายทำอันงดงามแห่งนี้ ที่ซึ่งอนงค์และคุณพระได้สร้างความทรงจำอันแสนโรแมนติกไว้ ด้วยบรรยากาศย้อนยุคที่ยังคงกลิ่นอายความคลาสสิกของยุค 90 ผสมผสานกับความงดงามของธรรมชาติที่ยังคงความบริสุทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นแมกไม้เขียวขจี สวนดอกไม้หลากสี หรือมุมถ่ายรูปสุดชิคที่ถูกจัดวางอย่างลงตัว ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับการถ่ายภาพสไตล์วินเทจและตามรอยอนงค์กับคุณพระในละครเรื่อง“หนึ่งในร้อย”ที่สวยงามเหนือกาลเวลาค่ะ ลานบัว ภาพที่ 5 ลานบัว (ภาพโดยผู้เขียน) ภาพที่ 6 ดอกบัว (ภาพโดยผู้เขียน) จุดเช็คอินที่ผสานความงดงามระหว่างสวนไทยและยุโรปได้อย่างลงตัว บ่อน้ำรูปทรงดอกบัวขนาดใหญ่ทอดตัวกลางลาน โดยยามเช้าตรู่ ดอกบัวจะบานรับแสงแรกของวัน ขณะที่ยามเย็น แสงอาทิตย์จะสาดส่องผ่านผิวน้ำทำให้สร้างภาพสะท้อนบนผิวน้ำที่สวยงามราวกับภาพวาด จึงเป็นจุดถ่ายภาพที่ได้ทั้งความคลาสสิกและความร่วมสมัย ไม่ว่าจะถ่ายภาพแนวพอร์ตเทรต หรือภาพวิวทิวทัศน์ ก็สวยงามไม่แพ้กันค่ะ สระน้ำรูปตัว “ส” และ ตัว “S” ภาพที่ 7 สระน้ำรูปตัว “ส” และ ตัว “s” (ภาพโดยผู้เขียน) ภาพที่ 8 มุมนั่งชิลล์แถวสระน้ำรูปตัว “ส” และ ตัว “s” (ภาพโดยผู้เขียน) เป็นอีกจุดที่พลาดไม่ได้เพราะนอกจากจะเป็นที่ที่นิยมไปถ่ายรูปแล้วยังเป็นที่นิยมไปนั่งพักผ่อน คลายอารมณ์ เพราะด้วยบรรยากาศที่ร่มรื่น รอบๆสระน้ำจะมีพืชพันธุ์สีสันสดใสจึงทำให้เป็นจุดฮิตในการนั่งชิลคุยเล่นกับเพื่อนค่ะ อัฒจรรย์หญ้า ภาพที่ 9 อัศจรรย์หญ้า (ภาพโดยผู้เขียน) เเละสุดท้ายอัฒจันทร์หญ้า สถานที่ถ่ายรูปสุดชิค ที่มีหญ้าโอบล้อมลานกว้าง พื้นหญ้านุ่มละมุนชวนให้ทิ้งตัวลงนอนเอนกาย พร้อมชมวิวตึกระฟ้าของเมืองกรุงที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา ในยามเย็น แสงสีทองของดวงอาทิตย์จะทาบทาลงมา สร้างเงาทอดยาวบนพื้นหญ้าสวยงาม เพิ่มมิติให้ภาพถ่ายดูมีเสน่ห์น่าหลงใหล ไม่ว่าจะเป็นภาพพอร์ตเทรต ภาพวิวทิวทัศน์ หรือภาพมุมสูงแบบ Bird Eye View ที่นี่ก็พร้อมมอบมุมสวยๆ ให้คุณได้เก็บภาพความทรงจำอันแสนพิเศษไม่รู้จบ นอกจากจุดถ่ายรูปสวยๆแล้ว สวนยังมีกิจกรรมน่าสนใจให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการปั่นจักรยาน วิ่ง เดินเล่น หรือนั่งพักผ่อนตามมุมต่างๆ รวมถึงกิจกรรมโยคะและกิจกรรมสำหรับครอบครัวในบางช่วงเวลา และยังมีร้านกาแฟและร้านอาหารเล็กๆ ให้บริการสำหรับผู้มาพักผ่อน ทำให้สามารถใช้เวลาพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ การเดินทางไปสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ สามารถเดินทางผ่านรถไฟฟ้า BTS ได้โดยเลือกที่ลงสถานีหมอชิต ออกบริเวณทางออก 1 และ 3 หรือถ้านั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สามารถเลือกลงที่สถานีสวนจตุจักร ออกบริเวณทางออก 1 และ 2 สวนจะเปิดให้บริการทุกวัน เวลา 05.00 – 20.00 น. ภาพที่ 10 ทางออกจากรถไฟฟ้าสถานีสวนจตุจักร (ภาพโดยผู้เขียน) อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !