สวัสดีครับเพื่อน ๆวันนี้มีความรู้สึกอยากเป็นนักอยากเขียนขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่ห่างเหินจากการเป็นครีเอเตอร์น้อย ๆ ของชาวทรูไอดีเนื่องจากกิจกรรมของชีวิตในช่วงที่ผ่านมาก็สาละวนอยู่กับการเลี้ยงคน "เลี้ยงลูก" เอาอย่างงี้ล่ะกันเขียนเรื่องลูกมาเล่าสู่กันฟังดีกว่าการเลี้ยงลูกที่จะเล่าก็ใช่ว่าจะเป็นเทคนิควิธีการหรือฮาวทู ที่พ่อแม่มีบทเรียนแล้วก็นำมาเสนอเสียเมื่อไหร่ เอาเป็นว่า มาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ที่พ่อแม่น่าจะพาลูกไปเที่ยวสักครั้งก็คงจะดีไม่น้อย นั่นก็คือ ดูบัวคาเฟ่ดูบัวคาเฟ่ ขอยังไม่บอกทำเลที่ตั้งดีกว่า เอาเป็นว่าเล่าสรรพคุณของคาเฟ่ว่า ดีอย่างไร และทำไมจึงน่าไปคงจะเหมาะกับการเล่าเรื่องในแบบของผมเองละกันเนาะ จริง ๆ แล้วคาเฟ่ดังกล่าว ก็มีกาแฟนั่นล่ะ และมีบัวตามชื่อของคาเฟ่นั้นด้วย แต่มากกว่านั้น คือ เป็น Space หรือ พื้นที่ที่ให้ความรู้แบบธรรมชาติจัดสรรมาก ๆ ซึ่งทางทีมงานดูบัวเองก็ได้พิถีพิถันและประกาศตนว่า มาดูบัวไม่ใช่มาเพื่อดูแต่บัวด้วยซ้ำแล้วสถานีข้างในนั้นมันมีอะไรให้น่าว๊าวบ้าง ในบทความนี้คงหยิบมาเล่าแค่เรื่องราวของกระต่ายก็จวนจะหมดเวลาเลยทีเดียว กระต่าย เป็นสัตว์ที่อยู่ในนิทานสอนเด็กยังไม่พอนะ ยังพบว่า มันเป็นสัตว์ที่มีขนคล้ายคลึงกับแมว และน่าลูบคลำสำหรับเด็ก ๆ โดยเฉพาะลูกชายของเองอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ทุกครั้งที่เห็นกระต่ายและได้สัมผัสกับกระต่ายตัวเป็น หรือพ่อแม่ที่ปล่อยให้ลูกเล่นกับสัตว์ คุณรู้ไหมว่า เราได้เรียนรู้อะไรจากการวิ่งไล่กระต่ายของเด็กน้อย ผมในฐานะพ่อได้เห็นสิ่งเหล่านี้ครับ ดูนะครับว่า พ่อแม่อย่างเรา ๆ ที่ไปนั่งเฝ้าในสิ่งที่ลูกชอบเล่นแล้วเราเห็นอะไรบ้าง 1. ความอ่อนโยน สิ่งที่มากับความอ่อนโยนที่เห็นได้ชัด คือกิจกรรมทางกายที่ไม่ใช่เป็นการเผลอเล่น แต่คือจดจ่อและมีความสุขและไม่ใช้กำลังต่อเพื่อนร่วมโลกในสนามเด็กเล่น ความอ่อนโยนนั้นมันสะท้อนผ่านดวงตา ฝ่ามือ สัมผัส และอื่น ๆ ในหลาย ๆ อิริยาบถ2. ความกระฉับกระเฉงของร่างกาย กระต่ายเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่วิ่งชนะเต่าอย่างแน่นอนถ้ามันไม่นอนหลับใต้ต้นมะพร้าวเสียก่อน ภาพเช่นนั้น เราอาจจะเห็นว่า กระต่าย มีลักษณะทางกายภาพที่กระโจนดึ๋ง ๆ โดยธรรมชาติ และนั่นเองมันก็พาลูกชายของเราวิ่งเล่นไปด้วยด้วย ได้เหงื่อ ได้ขับพลังงานลบ ๆ และเสริมระบบกล้ามเนื้อพอที่จะเป็นปัจจัยให้เด็กมีสุขภาพดี ไม่มีโรคได้อีกด้วยนะ สรุปว่าเป็นกลวิธีที่จะทำให้เด็กน้อยได้ออกกำลังกายโดยมีกระต่ายเป็นเทรนเนอร์3. เรียนรู้เรื่องของการแบ่งปัน ภาพจำของกระต่ายในนิทานวิ่งแข่งกับเต่านั้น ทำให้การเรียนรู้จักเรื่องราวของความพ่ายแพ้ ชนะ และให้อภัย แต่อย่างไรก็ดี นาบัวคาเฟ่นั้น มีอาหาร (เเครอท) สำหรับให้เด็ก ๆ ได้หยิบป้อนให้ด้วยใจเมตตา และรู้จักการแบ่งปันเป็นสามสิ่งที่ได้เรียนรู้ระหว่างการพบกันระหว่างเด็กน้อยและกระต่าย ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกชอบและพ่อก็เลือกแล้วว่า ดูบัวคาเฟ่ ได้รังสรรค์กิจกรรมครอบครัวให้เกิดขึ้นและเรียนรู้ อีกทั้งสานสัมพันธ์และสร้างความรักระหว่างมนุษย์กับสัตว์ ได้รับความเพลิดเพลินสุนทรีย์ในพื้นที่อันเป็นธรรมชาติจัดสรรค์ อาจจะเล่าเรื่องกระต่ายเยอะไปหน่อยครับ จึงแอบตัดต่อวิดีโอมาแบ่งปันเพื่อให้ลูกหลานบ้านอื่น ๆ ดูเลยว่า การมาดูบัวให้มากกว่าดูบัว เช่นดูไก่ กูนก แพะ และกระต่าย สามารถชมคลิปได้ที่นี่ครับผมการไปเที่ยวในสถานที่แห่งหนึ่งสำหรับเด็ก แม้สนใจเพียงเรื่องบางเรื่องก็เพียงพอที่จะเป็นเสบียงของความเข้าใจในเรื่องอื่น ๆ ได้ โดยใช้ความสนใจเป็นทุนในการต่อยอดการเรียนรู้ ดูบัวคาเฟ่ จัดสรรพื้นที่การเรียนรู้ไว้สำหรับครอบครัว และผู้ที่สนใจกิจกรรมแบบ Active Learning ได้ดีทีเดียว..ติดตามผลงานการท่องเที่ยวแนวครอบครัวอินดี้ของเราได้ที่เพจ Happy Indyเล่าเรื่องและภาพถ่าย โดยชาตรี ลุนดำอัปเดตบทความไลฟ์สไตล์โดน ๆ ดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี !