ช่วงเดือนที่ผ่านมานับได้ว่ามีวันหยุดไม่ได้หยุด เพราะเดินทางท่องเที่ยวตลอด อยากเที่ยวแต่เบื่อการขับรถมาก ขับไปทำงานเฉพาะวันจันทร์ ถึงวันศุกร์ก็เกินพอแล้วคำตอบในใจคือลองนั่งรถไฟเที่ยวดูบ้างดีกว่าถึงจะต้องต่อรถประจำทางหลายต่อกว่าจะถึงจุดหมาย แต่ถือว่าได้กลับไปเรียนรู้การนั่งรถสองแถวเล็กออกจากบ้านเสียบ้าง กลับมานั่งรถเมล์เสียบ้าง พอกลับมานั่งอีกครั้งค่ารถเพิ่มเป็น 8 บาทไปแล้ว จำได้ว่าครั้งล่าสุดที่นั่งมันยังแค่ สามบาทห้าสิบอยู่เลย...เอาหล่ะมานั่งรถไฟเที่ยวกันดีกว่า ไปเลยจ้า...ไปหาเที่ยวรถไฟที่สถานีหัวลำโพง คือนึกอยากจะไปก็ไป ไม่ได้ดูเวล่ำเวลา ไม่มีแพลนใด ๆ นี่เป็นการไปนครปฐมด้วยรถไฟครั้งแรก นั่งแบบชั้น 3 ราคา 20 บาท ขบวนที่เรานั่งเป็นขบวนที่วิ่งยาวจากสถานีกรุงเทพ ไปสถานีสุไหงโกลกด้วยความที่กลับมานั่งรถไฟครั้งแรกในรอบหลาย 10 ปี รู้สึกตื่นเต้น รู้สึกเหมือนเวลาที่เดินทางผ่านไปไม่ได้ทำให้ความเป็นสถานีรถไฟหรือประสบการณ์ที่เคยมีนั้นเปลี่ยนแปลงไปเลย อาจเป็นเพราะโครงสร้าง และความเก่าแก่ของอาคารสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เหมือนเราย้อนเวลากลับไปในอดีต นั่งรถไฟเที่ยวองค์พระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม ในวันสบาย ๆ ไม่ใช่ช่วงที่มีงานองค์พระฯ ใด ๆ มันจะเป็นอย่างไรบ้าง จะเงียบ หรือจะมีนักท่องเที่ยวมากน้อยเพียงใดยังเป็นเรื่องที่เราสงสัยอยู่ ได้ขึ้นรถไฟเที่ยว 12.30 น.วันเสาร์ อากาศร้อนอบอ้าว ทุกที่นั่งเต็ม มีแม่ค้าพ่อค้าขึ้นมาขายน้ำ ขายข้าวเหนียวหมูปิ้ง ตั้งแต่ก่อนขบวนรถออก บรรยากาศเหล่านี้ได้ถูกปลุกขึ้นจากความทรงจำของเราอีกครั้งถึงนครปฐม เวลา 14.10 น. สิ่งแรกที่ต้องทำคือ เดินตรงเข้าไปที่องค์พระปฐมเจดีย์เพื่อไหว้พระก่อน แล้วค่อยกลับมาเดินสำรวจตลาดรอบ ๆ วันนี้คนยังมาไหว้องค์พระฯ อย่างไม่ขาดสาย เราเดินวนรอบองค์พระฯ อยู่หลายรอบ จำไม่ได้แล้วว่าตลาดขายอาหารตรงลานหน้าองค์พระฯ ที่เคยมากินผัดไทยเมื่อหลายปีก่อนอยู่ตรงไหน แต่ความหิวทำให้ต้องเดินกลับมาที่หลังสถานีรถไฟนครปฐม เพื่อหาอะไรกินลองท้องไปก่อนข้าวหมูแดงร้านดัง ร้านตั้งฮะเส็ง ต่อด้วยก๋วยเตี๋ยวเป็ดรสชาติกลมกล่อมอิ่มท้องแล้วเดินเล่นในตลาดรอร้านตรงลานหน้าองค์พระเปิดประมาณช่วงสี่โมงเย็น พอร้านเปิดเราเดินสำรวจดูว่ามีอะไรน่ากินบ้าง ของขายเยอะจริง ๆ ทั้งมะม่วงน้ำปลาหวานระฆังทองเจ้าดัง และอาหารตามสั่ง อาหารทะเล ขนมต่าง ๆ ข้ามหลาม ส้มโอ เราเดินมาหยุดที่ร้านขนมหวานเจ้าหนึ่ง ขายมานานกว่า 20 ปี ซ่าหริ่ม และทับทิมกรอบน้ำกะทิถูกนำมาเสิร์ฟ เม็ดสีชมพูที่ข้างในเป็นเนื้อแห้วกรุบกรอบ กินรวมกับเกล็ดน้ำแข็ง และกะทิ หอม หวาน เย็น ชื่นใจ รื่นรมกันอยู่สักพักก็ได้เวลานั่งรถไฟกลับกรุงเทพฯ เที่ยว 18.10 น. จริง ๆ แล้วการนั่งรถไฟ ไปนครปฐมเราสามารถนั่งได้จากหลายสถานี ถ้าใครสะดวกจะไปขึ้นที่สถานีบางซื่อ ธนบุรีตลิ่งชัน ศาลายา ไม่ต้องย้อนเข้าไปหัวลำโพงเหมือนเราก็ได้ขากลับวันนี้ถือเป็นวันที่เราได้กลับไปเที่ยวนครปฐมอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ได้ขับรถส่วนตัว การนั่งรถไฟไปทำให้เราได้เรียนรู้ว่า เราสามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในประเทศนี้ได้ด้วยราคาประหยัดอย่างการไปนครปฐมครั้งนี้ ตั๋วขาไป 20 บาท ขากลับ 40 บาท รวมเป็น 60 บาทเท่านั้นเอง หวังว่าการรีวิวไปเที่ยวนครปฐมโดยรถไฟครั้งนี้ของเราจะทำให้คุณผู้อ่านที่น่ารักทุกท่านอยากลองออกมาสัมผัสการเดินทางท่องเที่ยวโดยรถไฟดูบ้าง ถือว่าเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ดีทีเดียวเรื่อง ButrClubภาพหน้าปก และภาพประกอบทั้งหมดจากผู้เขียน🗺 แชร์ที่เที่ยวใหม่ๆ ไม่ว่าจะเที่ยวสายไหนก็มาแวะแชร์กับทรูไอดีคอมมูนิตี้ “ท่องเที่ยว”