ดินแดนแห่ง 2 ทวีปในทริปนี้...ไปเที่ยวที่เมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก (Saint Peterburg) ประเทศรัสเซียกัน เมืองที่มีสถาปัตยกรรมไม่แพ้เมืองหลวงอย่างเมืองมอสโคว์ (Moscow) เลย ในทริปนี้...เราไปเที่ยว 3 วัน 2 คืน และไปช่วงใบไม้เปลี่ยนสีพอดี ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวที่จะไปนั้นสวยงามในอีกรูปแบบนึงต้องขอเกริ่นก่อนว่า...เราไปช่วงเดือน กันยายน ถึง ตุลาคม 2562 (ประมาณ 5 -6 ปีที่แล้วก่อนโควิด) และไปเที่ยวกับบริษัททัวร์นะ ดังนั้นข้อมูลสถานที่หลายๆ สถานที่ อาจมีการปรับเปลี่ยน เปลี่ยนแปลงอะไรหลายอย่าง ไม่ใช่ข้อมูล ณ ปัจจุบัน ดังนั้นขอแนะนำให้หาข้อมูลสถานที่ต่างๆ ก่อน ไม่ว่าจะเป็น Google , Facebook , YouTube รวมถึงเจ้าหน้าที่และไกด์ สำหรับเพื่อนๆ ที่ไปกับบริษัททัวร์แบบเรา ดังนั้น...สถานที่ท่องเที่ยวและข้อมูลที่เรานำเสนอนั้น เป็นประสบการณ์ตรงจากเราที่เคยไปเที่ยว และถือเป็นข้อมูลพื้นฐาน 101 แล้วกันนะ 😊 ว่าแล้วไปดูกันว่าไปที่ไนบ้าง...ณ เมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก (Saint Peterburg)เมืองที่สวยงามจนได้รับสมญานามว่า “ราชินีแห่งยุโรปเหนือ” สร้างโดยพระเจ้าชาร์ ปีเตอร์มหาราช ต่อมา...เมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์กยังได้รับสมญานามว่า “หน้าต่างแห่งยุโรป” ว่าแล้วไปดูดันว่าไปเที่ยวที่ไหนบ้าง...สถานีแรก... “โบสถ์หยดเลือด (Church of the Savior on Spilled Blood)”มีลักษณะรูปร่างคล้ายวิหารเซนต์บาซิลที่เมืองมอสโคว์ โดยนำรูปแบบสถาปัตยกรรมในคริสต์ศตวรรษที่ 16 – 17 นำมาใช้ในการก่อสร้าง ซึ่งจังหวะที่ไปนั้น มีการปรับปรุง ซ่อมแซ่มในบางส่วนของโบสถ์ และอากาศครึ้ม ฝนพร้อมตกมากแม่ช่วงที่เราไป...มีการปรับปรุง ซ่อมแซม และอากาศมืดครึ้มนะสถานีต่อไป... “พระราชวังแคทเทอรีน (Catherline Palace)” ณ เมืองพุชกิน (Pushkin)พระราชวังที่สวยงามแห่งหนึ่งในรัสเซีย มีห้องต่างๆ ให้ชมมากมาย แต่!! ที่พลาดไม่ได้ คือ “ห้องอำพัน หรือ ห้องแอมเบอร์รูม (The Amber Room)” เป็นงานศิลป์ที่สวยงาม ซึ่งในบางจุด ไม่สามารถถ่ายรูปได้ ดังนั้นให้สังเกตป้าย หรือ สอบถามมัคคุเทศก์ (หัวหน้าทีมคนไทย) และมัคคุเทศก์ท้องถิ่น ได้นะ อ่อ!! ลืมบอกเลย...ว่านอกจากมัคคุเทศก์ (หัวหน้าทีมคนไทย) แล้ว ยังมีมัคคุเทศก์ท้องถิ่น (เป็นชาวรัสเซีย) ด้วยนะ สามารถสอบถามและพูดคุยได้นะคะ แต่ถ้าไม่มั่นใจ หรือไม่เก่งภาษาสามารถถามมัคคุเทศก์ (หัวหน้าทีมคนไทย) ได้นะ และการไปพิพิธภัณฑ์ พระราชวัง หรือสถานที่อื่นๆ ที่ผู้คนเยอะ ทางมัคคุเทศก์จะแจกเครื่องสำหรับการฟังบรรยาย คำอธิบาย (คล้ายๆ เครื่อง iPod หรือเครื่อง MP3) พร้อมหูฟังแจกด้วยนะสถานีต่อไป...“พระราชวังฤดูร้อน หรือ พระราชวังปีเตอร์ฮอป (Peterhof Palace) หรือ เปโตรควาเรสต์”ตั้งอยู่ริมทะเล และเป็นพระราชวังที่ต้องตื่นตาตื่นใจกับความงามของสถาปัตยกรรมต่างๆ และประติมากรรมน้ำพุอันโดดเด่นอลังการ และเดินเล่นพักผ่อนกับอุทยานพฤกษานานาพันธุ์ ซึ่งตอนไปนั้นใบไม้กำลังเปลี่ยนสีสวยงาม ตั้งอยู่ด้านหน้าของพระราชวัง (หมายเหตุสำหรับ “น้ำพุ” น้ำพุในสวนไม่สามารถเปิดให้ชมได้ในช่วงฤดูหนาว และอาจปิดทำการ โดยไม่แจ้งล่วงหน้า ดังนั้นควรหาข้อมูล หรือสอบถามรายะเอียดต่างๆ เพื่อความมั่นใจนะ)คนเยอะมากๆ หามุมถ่ายรูปยากสุดๆ เลย...ยังไงเพื่อนๆ ที่ไปหามุมที่ใช่แล้ว อย่าไปไหนนะ รอน้ำพุก่อนนะ และระวังของมีค่าด้วยนะสถานีต่อไป... “ป้อมปีเตอร์และปอล (Peter and Paul Fortress)”สิ่งก่อสร้างแรกของเมือง เพื่อเป็นอนุสรณ์ต่อชัยชนะของสงคราม สามารถเดินชมด้านในของป้อมปีเตอร์และปอลได้นะ และจะมีรูปปั้นอยู่ท่านนึง เราจะไม่ได้นะว่าท่านคือใคร แต่จำได้จากที่มัคคุเทศก์บอก คือ ถ้าเราไปลูบ หรือ จับ หรือ แตะที่รูปปั้นนี้ เราจะได้กลับมาเที่ยวรัสเซียอีกครั้ง ไม่รู้ว่าจริงไหมนะ แต่เราไปลูบ หรือ แตะที่รูปปั้นนี้แล้ว 😁ท่านนี้เลย...เขาว่ากันว่าไปลูบ หรือ จับ หรือ แตะที่รูปปั้นนี้ เราจะได้กลับมาเที่ยวรัสเซียอีกครั้งสถานีต่อไป... “ถนนเนฟสกี้ (Nevsky Prospekt)”มีความยาว 4.5 กิโลเมตร ณ ปัจจุบัน เป็นถนนสายหลักของเมือง และเป็นย่านการค้า ย่านที่พัก และอื่นๆ อีกด้วย ซึ่งในถนนเส้นทาง...ถ้าใครอยากเข้าห้องน้ำ แนะนำร้านกาแฟ หรือร้านอื่นๆ แล้วซื้อกาแฟสัก 1 แก้ว ก่อนเข้าห้องน้ำนะคะ เพราะไม่มีห้องน้ำสาธารณะ (ถ้าเราจำไม่ผิดนะ) และในสวนนี้จะมีผุ้คนที่แต่งชุดประจำเมือง ถ้าเพื่อนๆ สนใจอยากถ่ายรูปคู่กับพวกเขา แนะนำให้คุยกันก่อนนะคะ ถ้าไม่อยากถ่าย แนะนำให้เลี่ยงค่ะสถานีต่อไป...“พิพิธภัณฑ์เฮอร์มิเทจ (The State Hormitage Museum)เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมงานศิลปะ และภาพเขียนของจินตกร และยังอยู่บริเวณเดียวกันกับ “พระราชวังฤดูหนาว (Winter Palace)” ประกอบด้วยห้องต่างๆ มากมาย และยังเป็นสถานที่รับรองการเสด็จอีกด้วย ซึ่งตัวอาคารกว้างขวางมาก เดินกันแบบฉ่ำๆ เลย แต่คุ้มมากๆ ในการเดิมชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้สถานนีต่อไป... “มหาวิหารเซนต์ไอแชค (Saint Issacis Cathedraf)”เป็นมหาวิหารที่ใช้เวลาสร้าง 40 ปี ในอดีตเป็นมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในรัสเซีย ซึ่งภายในมีรูปภาพที่สร้างด้วยโมเสควิจิตรสวยงาม ทั้งรูปเขียนและหินแกรนิต ซึ่งตามประวัติ มหาวิหารได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อยจากการถูกถล่มด้วยระเบิดของทหารนาซี ซึ่งมองแค่นอกอาคารสีออกขาว ครีม น้ำตาล ว่าสวยแล้ว มีต้นไม้สีเขียวและสีเหลือง (ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี) แบบนี้ ยิ่งสวยมากกว่าเดิม...เดินทางกลับ “เมืองมอสโคว์ (Moscow)” ด้วยรถไฟความเร็วสูง ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง...เป็นอย่างไรกันบ้าง...ณ เมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก (Saint Burge) เมืองสวยๆ กับใบไม้เปลี่ยนสี ที่มีสีสันสวยงามตัดกับอาคารต่างๆ ให้ได้เที่ยวและถ่ายรูปกัน 😊 นี้เป็นแค่เมืองเดียวเท่านั้น...ทริปต่อไป เข้าเมืองหลวงกัน ณ เมืองมอสโคว์ (Moscow) กัน เข้าไปอ่านฉบับเต็มได้ที่ เที่ยวใบไม้เปลี่ยนสี...ณ ประเทศรัสเซีย (กดลิ้งค์ได้ที่ชื่อเรื่องเลยนะ) ไว้เจอกัน ณ เมืองมอสโคว์นะ 😊 ขอดอกจัน (*) ตัวใหญ่ๆ เพราะทริปนี้เป็นทริปประมาณ 5 – 6 ปีที่แล้ว (ก่อนโควิด) เพราะฉะนั้น...เก็บเป็นพื้นฐาน 101 เท่านั้นนะ!!CREDIT PHOTO : หมอกเทา (CREATOR) เป็นรูปที่ถ่ายตอนไปเที่ยวนะ...กล้องโทรศัพท์ และกล้องฟิล์มเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !