ฮาโกดาเตะ (Hakodate) เมืองชายฝั่งที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น เป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์จากทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรม เมืองนี้มีชื่อเสียงในด้านวิวทิวทัศน์อันงดงาม และบรรยากาศที่ผสมผสานความเป็นญี่ปุ่นและตะวันตก ด้วยสถาปัตยกรรมแบบยุโรป ตลาดอาหารทะเลสดใหม่ และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่รอให้นักท่องเที่ยวมาสำรวจ โดยในทริปนี้ เราจะพาทุกคนจับมือคนข้างๆไปเดินเที่ยว 2 Days 1 Night Trip ฮาโกดาเตะ ญี่ปุ่น บอกเลยว่าเที่ยวครบถูกใจทุกคนแน่นอน จะเป็นที่ไหนกันบ้าง ตามไปดูกันเลยยยยย Day 1: Tues หลังจากเดินทางด้วยรถไฟจากสนามบิน New Chitose เกือบ 3 hrs เราก็มาถึงที่พักที่จองไว้ ซึ่งใกล้สถานีรถไฟ JR Hakodate และตลาดปลามากๆ Premier Hotel Cabin President Hokodate ที่พักระดับ 4 ดาวที่มีจุดเด่นคือ ทำเลที่เชื่อมต่อกับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เช่น ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ (Hakodate Morning Market) ที่ใช้เวลาเดินเพียง 3 นาที และสถานีรถไฟ JR Hakodate เพียงไม่กี่ก้าว ภายในโรงแรมตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์น มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แถมด้านหน้าโรงแรมมีร้านสะดวกซื้อด้วย ไม่อดตายแน่นอน โดยห้องพักที่เราเลือกจะเป็นห้อง Standard ขนาด 18 ตร.ม. เห็นวิวภูเขาฮาโกดาเตะด้วยนะ ส่วนราคาก็ประมาณ 2,000 ต่อคืน (ไม่รวมอาหารเช้า) 🧳Check in: 15.00 / Check out: 11.00 ของวันถัดไป 📍: Wakamatsu-cho 14-10, 040-0063 ฮาโกดาเตะ, จังหวัดฮกไกโด, ญี่ปุ่น 📍: https://maps.app.goo.gl/CjHgyVKthYnLki4W9?g_st=com.google.maps.preview.copy หลังจาก Check-in เข้าที่พักเป็นที่เรียบร้อย แล้วก็ไปเติมพลังกันที่ร้านอูนิ ที่อยู่ไม่ไกลจากที่พัก สามารถเดินไปได้ Uni Murakami ร้านอาหารชื่อดังที่โดดเด่นในเรื่องของอาหารทะเลสดใหม่ โดยเฉพาะเมนูที่ทำจาก “อูนิ” ที่ได้ชื่อว่าเป็นของขึ้นชื่อในภูมิภาคนี้ วัตถุดิบที่ใช้ในร้านถูกคัดสรรอย่างพิถีพิถัน ตัวอุนิมีความสด หวาน นัวๆ ไม่คาว มีทั้งแบบอูนิเพียวๆแบบไซด์มินิประมาณ ¥2,000+ และแบบข้าวด้ง ¥4,000-¥7,000+ นอกจากอูนิแล้วพวกซาชิมิก็มีนะ รสชาติดีเลย ✅เรา Walk-in มากินช่วงบ่ายๆตอนร้านใกล้ปิดตอนแรกนึกว่าจะไม่ได้กินและ เพราะเขาตัดคิวหลังเรานิดเดียว ยังไงแนะนำให้มาก่อนสัก 14.00-14.30 ก็ดี ⏱️เวลาเปิด-ปิด: 8.30-15.00 (ปิด Weds) 📍พิกัด: 22-1 Otemachi, Hakodate, Hokkaido 040-0064, Japan 📍https://maps.app.goo.gl/Z1ybAvyh37LdyVAm8?g_st=com.google.maps.preview.copy เนื่องจากช่วงที่ไปเป็นหน้าหนาว พอทานข้าวเสร็จประมาณช่วงบ่ายแก่ๆ ฟ้าก็มืดแล้ว เราเลยไปเดินเล่นกันต่อที่โกดังอิฐแดง Landmarks ขึ้นชื่อที่แวะมาได้ทั้งช่วงฟ้ามืดและฟ้าสว่าง Kanemori Red Brick Warehouse โกดังอิฐแดง (Red Brick Warehouse) ในฮาโกดาเตะ เป็นหนึ่งในอาคารอิฐแดงแห่งแรกของฮอกไกโด สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1909 เพื่อเป็นคลังสินค้าสำหรับการขนส่งทางทะเลในยุคที่ฮาโกดาเตะเป็นท่าเรือสำคัญในการค้าขายกับต่างประเทศ สถาปัตยกรรมอิฐแดงที่แข็งแรงถูกออกแบบให้ทนทานต่อไฟไหม้ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญในยุคนั้น ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ได้ถูกปรับปรุงให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยในตัวอาคารและบริเวณโดยรอบ ก็จะมีร้านขายของฝาก งานฝีมือ และสินค้าท้องถิ่นมากมาย เช่น ของหวานจากฮอกไกโด สินค้าทำมือ รวมถึงร้านอาหารและคาเฟ่บรรยากาศดีที่สามารถมองเห็นวิวทะเล ในช่วงฤดูหนาวที่นี่จะมีเทศกาล Hakodate Christmas Fantasy (ปีที่แล้ว งานจัดตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย.- 25 ธ.ค.) ซึ่งจะมีการประดับประดาไปด้วยไฟหลากสีสันที่ส่องแสงระยิบระยับทั่วทั้งพื้นที่ โดยมีไฮไลต์สำคัญเป็น ต้นคริสต์มาสยักษ์ ที่ถูกตั้งอยู่ริมอ่าวฮาโกดาเตะ ยิ่งช่วงค่ำๆประมาณ 18.00 เขาจะมีการจุดพลุด้วย ได้ฟีล festive มากๆ ⏱️เวลาเปิด-ปิด: 10.00-19.00 สำหรับร้านค้า 🚋Tram: สถานี Jujigai Station หรือ เดินจากสถานี JR Hokodate ประมาณ 15 นาที 💵ค่าเข้า: ฟรี 📍พิกัด: 14-12 Suehirocho, Hakodate, Hokkaido 040-0053, Japan 📍https://maps.app.goo.gl/oQZjkQZXBNqeUwcS8?g_st=com.google.maps.preview.copy ปิดจบวันด้วยมื้อเย็นแสนอร่อย กับการกินสุกี้ยากี้เนื้อร้อนๆในช่วงอากาศหนาวๆ คือฟินสุดๆ Asari Honten ร้านสุกี้ยากี้แบบดั้งเดิม โดยมีจุดเด่นคือเนื้อวากิวเกรด A5 บรรยากาศภายในร้านที่ตกแต่งในสไตล์ญี่ปุ่นโบราณ ให้ความย้อนยุค เหมือนพาเรากลับไปสมัยก่อน มีห้อง Private มีเสื่อทาทามิ และพนักงานช่วยปรุงอาหารให้ถึงโต๊ะ บริการดีน่ารักตามสไตล์ญี่ปุ่น โดยเมนูแนะนำคือ เซตสุกี้ยากี้เนื้อวากิวที่เสิร์ฟพร้อมผักสด โดยปรุงในกระทะด้วยน้ำซุปและซอสหวานสูตรเฉพาะของร้าน ส่วนของหวานมีไอศกรีมยูสุให้ในเซต รสชสติดี หอมยูสุ เปรี้ยวนิดๆ สำหรับตัดความเลี่ยน ⏱️เวลาเปิด-ปิด: 11.00 - 21.00 (ปิดวันพุธ) 💸 ราคา: เซตละ ¥3,000–¥5,000 ✅ควรต้องจองล่วงหน้า แนะนำให้โทรจองโดยตรงกับทางร้าน 🚋🚘การเดินทาง: ตั้งอยู่ใกล้สถานีรถราง Horaicho เดินเพียง 1 นาที หรือขับรถจากสถานีฮาโกดาเตะประมาณ 15 นาที 📍 10-11 Horaicho, Hakodate, Hokkaido 040-0043, Japan 📍https://maps.app.goo.gl/EXnKUKSKcqRYVMGR6?g_st=com.google.maps.preview.copy Day 2: Weds เริ่มต้นวันต่อมา ด้วยการไปเดินหาอะไรกินกันที่ตลาดปลา ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากที่พักของเรา Hakodate Morning Market ตลาดเช้าเมืองฮาโกดาเตะ (Hakodate Morning Market) เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเมืองฮาโกดาเตะ ประเทศญี่ปุ่น ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 70 ปี เริ่มต้นจากกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่รวมตัวกันขายสินค้าเกษตรและอาหารทะเลสดในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ปัจจุบันตลาดได้พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเมือง แต่ยังคงรักษาเสน่ห์ดั้งเดิมไว้ได้เป็นอย่างดี 🎏ที่นี่เต็มไปด้วยบรรยากาศคึกคักตั้งแต่เช้าตรู่และมีร้านค้ามากมายกว่า 250 ร้านที่เรียงรายขายสินค้าสดใหม่จากทะเล เช่น ปูหิมะ หอยเชลล์ ปลาหมึก และไข่หอยเม่น โดยเราสามารถเพลิดเพลินกับการเลือกซื้อวัตถุดิบสดใหม่ที่พ่อค้าแม่ค้าจะค่อยยืนดักขายเราตลอดทั้งทางเดิน หรือจะลิ้มรสอาหารทะเลที่ถูกปรุงสดๆ จากร้านอาหารภายในตลาดก็ได้ 🍈🍓นอกจากอาหารทะเล อีกหนึ่งอย่างที่เราไม่ควรพลาดก็คือ เมล่อนและสตรอเบอร์รี่ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสดและรสชาติที่หวานฉ่ำ เนื่องจากผลไม้ที่ขายในตลาดนี้มักเป็นผลผลิตจากเกษตรกรท้องถิ่นในฮอกไกโด ซึ่งมีสภาพอากาศและดินที่เหมาะสมสำหรับการเพาะปลูก ⏱️เวลาเปิด-ปิด: 6.00-14.00 🚋Tram: สถานี Hakodate Ekimae Station และเดินต่ออีกประมาณ 240 เมตร 🚘ที่จอดรถ: มีลานจอดรถโดยรอบ (เสียค่าบริการแล้วแต่ลาน หรือเริ่มต้น ¥500) 📍พิกัด: 9-19 Wakamatsucho, Hakodate, Hokkaido 040-0063, Japan (ห่างจากสถานีรถไฟ Hakodate เพียงแค่ 100 เมตร เท่านั้น) 📍https://maps.app.goo.gl/WaVfKT18Ds1Tipdz8?g_st=com.google.maps.preview.copy หลังจากท้องอิ่ม เราก็ขึ้น Tram ที่สถานี Hakodate Ekimae Station ใช้เวลาเดินทาง 30 นาที ลงป้าย Yunokawa-onsen แล้วเดินต่ออีกประมาณ 950 เมตร เพื่อมาดูลิงอาบน้ำร้อนกลางแจ้งกัน Hakodate Tropical Botanical Garden สวนพฤกษศาสตร์เขตร้อนที่ตั้งอยู่ในเมืองฮาโกดาเตะ ประเทศญี่ปุ่น หนึ่งในไฮไลต์ของที่นี่คือ “บ่อออนเซ็นลิง” ที่เปิดให้บริการในช่วงฤดูหนาว (ประมาณเดือนธันวาคมถึงเมษายน) โดยลักษณะจะเป็นบ่อน้ำพุร้อนบริเวณ outdoor พื้นที่ไม่ใหญ่มาก ซึ่งจะมีลิงพันธุ์ Japanese macaque หรือที่เรียกว่า ลิงหิมะญี่ปุ่น (Snow Monkeys) นั่งแช่น้ำร้อนกันอย่างสบายใจเฉิบ โชว์แก้มโชว์ก้นแดง ส่วนบางตัวก็จะกวักมือขออาหารเราแบบเป็นธรรมชาติมากๆ สงสัยเรียนรู้ว่าทำแบบนี้แล้วนุดจะโยนอาหารให้😅 (อาหารเม็ดสามารถไปขอซื้อกับพนักงานได้) 🌳นอกจากโซนลิงอาบน้ำร้อนแล้ว ที่นี่ยังมี เรือนกระจกของที่นี่ถือเป็นหนึ่งในเรือนกระจกเขตร้อนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค มีการควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสมตลอดปี เพื่อให้พืชเขตร้อนและกึ่งเขตร้อนกว่า 3,000 ชนิด สามารถเติบโตได้ดีแม้ในฤดูหนาว ⏱️เวลาเปิด-ปิด: 9.30-16.30 🚋Tram: สถานี Yunokawa-onsen และเดินต่ออีกประมาณ 950 เมตร 🚍Bus จากสถานีรถไฟ Hakodate: No.91 / 91C ลงสถานี Nesaki และเดินอีก 450 เมตร 💵ค่าเข้า: ¥300 / คน 📍พิกัด: 3 Chome-1-15 Yunokawacho, Hakodate, Hokkaido 042-0932, Japan 📍https://maps.app.goo.gl/ELGZhLsZvNPK2s6e7?g_st=com.google.maps.preview.copy ด้วยความที่เรายังไม่ได้มีโอกาสสัมผัสบรรยากาศ Kanemori Red Brick Warehouse ในช่วงกลางวัน ก็เลยตัดสินใจนั่ง Bus นั่ง Tram มาลงสถานี Jujigai Station และเดินเก็บบรรยากาศโดยรอบ ไปกันต่อกับคาเฟ่ที่เรา Random มาเจอตอนหลบหิมะ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับ Catholic Church Hakodate Motomachi เลย Cafe Motomachi Saryo 元町茶寮 คาเฟ่โมโตมาจิซารโย เป็นคาเฟ่ที่มีบรรยากาศอบอุ่นและเงียบสงบ ฟีลโฮมมี่ คนไม่พลุกพล่านเจ้าของร้านเป็นคุณป้าใจดี ถึงจะมีอุปสรรคด้านภาษา แต่แกก็พยายามชวนเราคุยแบบ friendly มากๆ ที่นี่เสิร์ฟของหวานสไตล์ญี่ปุ่น มีชาเขียว มีกาแฟ รวมๆแล้วคุณภาพดีเลย ⏱️เวลาเปิด-ปิด: 10.30-17.00 📍พิกัด: 17-8 Motomachi, Hakodate, Hokkaido 040-0054, Japan 📍https://maps.app.goo.gl/ELGZhLsZvNPK2s6e7?g_st=com.google.maps.preview.copy พอหิมะเริ่มเบาลง เราก็ไปเดินเก็บ Landmarks สำคัญๆกันต่อ Catholic Church Hakodate Motomachi โบสถ์คาทอลิกฮาโกดาเตะโมโตมาจิเป็นอาคารเก่าแก่ที่งดงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิก ตั้งอยู่ในย่านประวัติศาสตร์ของเมืองฮาโกดาเตะ ภายในโบสถ์มีบรรยากาศสงบและประดับด้วยหน้าต่างกระจกสีที่สวยงาม ⏱️เวลาเปิด-ปิด: 10.00-16.00 📍Japan, 〒040-0054 Hokkaido, Hakodate, Motomachi, 15−30 元町教会 📍https://maps.app.goo.gl/JA7i8BqJuN5yKjJQ6?g_st=com.google.maps.preview.copy Hachiman Zaka Slope ฮาจิมันซากะเป็นเนินถนนที่มีชื่อเสียงในฮาโกดาเตะ โดดเด่นด้วยวิวสุดตระการตาที่ทอดยาวไปจนถึงอ่าวฮาโกดาเตะ ถนนที่ปูด้วยหินและบรรยากาศเงียบสงบทำให้เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการถ่ายภาพ 📍Motomachi, Hakodate, Hokkaido 040-0054, Japan 📍https://maps.app.goo.gl/JA7i8BqJuN5yKjJQ6?g_st=com.google.maps.preview.copy Funadama Jinja Shrine ศาลเจ้าฟุนาดามะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เงียบสงบ ล้อมรอบด้วยธรรมชาติอันร่มรื่น ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อคุ้มครองชาวประมงและการเดินเรือในทะเลฮาโกดาเตะ โครงสร้างไม้แบบดั้งเดิมและบรรยากาศสงบทำให้ที่นี่เหมาะสำหรับการพักผ่อนและสักการะ ⏱️เวลาเปิด-ปิด: 9.00-16.30 📍7-2 Motomachi, Hakodate, Hokkaido 040-0054, Japan 📍https://maps.app.goo.gl/JA7i8BqJuN5yKjJQ6?g_st=com.google.maps.prev Hakodate Orthodox Church โบสถ์ออร์โธดอกซ์แห่งฮาโกดาเตะเป็นอาคารทรงรัสเซียอันโดดเด่น มีหลังคาโดมสีเขียวและหอระฆังที่เป็นเอกลักษณ์ โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1859 และเป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพระหว่างญี่ปุ่นและรัสเซีย ⏱️เวลาเปิด-ปิด: 10.00-17.00 (Weeksday) 📍3-13 Motomachi, Hakodate, Hokkaido 040-0054, Japan 📍https://maps.app.goo.gl/JA7i8BqJuN5yKjJQ6?g_st=com.google.maps.preview.copy หลังจากนั้นเราก็เดินไป Mt. Hakodate Ropeway - Mountain Base Station เพื่อขึ้นรอขึ้น Ropeway (ใช้เวลาขึ้นกระเช้า 3 นาที กระเช้าออกทุกๆ 5-10 นาที) Hakodate Ropeway หนึ่งในที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากในหมู่นักท่องเที่ยวของเมืองฮาโกดาเตะ โดยเป็นกระเช้าลอยฟ้าที่พาขึ้นยอดเขาฮาโกดาเตะ (Mt. Hakodate) ซึ่งมีวิวที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งใน 3 วิวยามค่ำคืนที่สวยที่สุดในโลก ควบคู่ไปกับเมืองฮ่องกงและเนเปิลส์ โดยเราสามารถมองเห็นภาพมุมกว้างของเมืองที่ล้อมรอบด้วยทะเลและท่าเรือได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนที่จะเห็นแสงไฟในเมืองอย่างสวยงาม 🚠Hakodate Ropeway เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 1958 และได้รับการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ตัวกระเช้าลอยฟ้ามีขนาดใหญ่รองรับผู้โดยสารได้ถึง 125 คนต่อเที่ยว และใช้กระจกใสรอบด้านเพื่อให้ผู้โดยสารได้สัมผัสประสบการณ์การชมวิวแบบไร้สิ่งกีดขวาง โดย Ropeway จะให้บริการในทุกๆ 15 นาที ☕️เมื่อขึ้นมาถึงด้านบน (Mt. Hakodate Observatory) ที่นี่ก็จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันทั้งการชมวิว การรับประทานอาหาร และการช้อปปิ้งสินค้า โดย📍ชั้นแรก (บริเวณจุดขึ้น-ลงกระเช้า) จะเป็นจุดชมวิวพาโนรามาผ่านกระจก มีที่นั่งมุมดีๆ 2-3 ที่ ซึ่งก่อนพระอาทิตย์จะตก ก็จะมีคนมาจับจองที่นั่งตรงนี้กัน 📍ชั้นสอง (พื้นที่ร้านอาหารและคาเฟ่) ตอนเราไป เราแวะไปร้าน Tea Lounge Legato เพื่อทานกาแฟทานขนมดูวิวเพลิน ถ้าอยากได้โต๊ะมุมดีๆติดกระจก แนะนำให้รีบมาก่อนพระอาทิตย์ใกล้ตก หรือ เข้ามานั่งโต๊ะในๆก่อน แล้วอาศัยจังหวะคนลุกค่อยสลับโต๊ะ 📍ชั้นดาดฟ้า (Sky Deck) ก็จะเป็นชั้นดาดฟ้าเปิดโล่งสำหรับการชมวิวเมืองแบบไม่มีอะไรมากั้น ตอนเราไปลมค่อนข้างแรงและหนาวด้วย เดินออกจากอาคารไปนิดเดียว ก็ต้องกลับเข้ามาแล้ว หนาวเกิ๊นนนน 🥶 ⏱️เวลาเปิด-ปิด: 10.00-21.00 🚘ที่จอดรถ: สำหรับใครที่ขับรถมา ที่นี่จะมีลานจอดรถอยู่ข้างๆจุดขึ้นกระเช้านะ 🚍Bus: Bus stop ชื่อ Ropeway-mae 🚋Tram: สถานี Jujigai Station และเดินต่ออีกประมาณ 600 เมตร 💵ค่าเข้า: ราคาตั๋วไป-กลับสำหรับผู้ใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ ¥1,800 📍พิกัด (จุดขึ้น Mt. Hakodate Ropeway - Mountain Base Station): 19-7 Motomachi, Hakodate, Hokkaido 040-0054, Japan 📍จุดขึ้น: https://maps.app.goo.gl/zT6nT5TD6EbnWUqC9?g_st=com.google.maps.preview.copy ปิดท้ายวันนี้ด้วยการเดินกลับมายัง Kanemori Red Brick Warehouse อีกครั้ง เพื่อมาทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารที่ไม่มีสาขานอกฮาโกดาเตะเลย เนื่องจากทางแบรนด์ตั้งใจรักษาความเป็นเอกลักษณ์ท้องถิ่นเอาไว้ Lucky Pierrot สาขา Marina Suehiro ร้านเบอร์เกอร์ชื่อดังของฮาโกดาเตะที่มีทั้งหมด 17 สาขาในเมืองฮาโกดาเตะและบริเวณใกล้เคียง โดยสาขาที่เราไป จะมีบรรยากาศริมทะเลติดอ่าวฮาโกดาเตะ มีการตกแต่งที่ไม่ซ้ำใคร เต็มไปด้วยสีสันและของตกแต่งแนวเรโทรที่ดึงดูดสายตา เมนูยอดนิยมของที่นี่คือ “Chinese Chicken Burger” เบอร์เกอร์เนื้อไก่ทอดกรอบราดซอสสูตรเฉพาะที่เข้มข้นและกลมกล่อม นอกจากเบอร์เกอร์แล้ว ยังมีเมนูข้าวแกงกะหรี่ สปาเก็ตตี้ และของหวาน เช่น ซันเดย์ไอศกรีมขนาดใหญ่ โดยรวมแล้วอร่อย และประทับใจมากๆ ⏱️เวลาเปิด-ปิด: 9.30-22.00 📍14-17 Suehirocho, Hakodate, Hokkaido 040-0053, Japan 📍https://maps.app.goo.gl/JA7i8BqJuN5yKjJQ6?g_st=com.google.maps.preview.copy ก็จบไปแล้วกับการรีวิว "Hakodate 2 Days 1 Night | เดินเล่นถ่ายรูปตะลุยกินในฮาโกดาเตะ ประเทศญี่ปุ่น" ครั้งหน้าเราจะพาทุกคนไปเที่ยวที่ไหนกันอีก ก็ฝากติดตามด้วยนะ ภาพถ่ายทั้งหมดโดย (By My Side: ผลัดกันถ่าย) อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !