สวัสดีค่ะทุกคน พบกับ Ajji อีกแล้วค่าาาาาาา^^ หากเพื่อนๆได้อ่านบทความก่อนหน้าของ Ajji มาบ้างแล้ว ก็คงพอจะรู้ใช่ไหมคะว่า Ajji และเพื่อน ๆ ชอบไปเที่ยวแบบไม่มีการวางแผนอะไรเลย ไปแบบฉุกละหุกมาก ๆ // แล้วก็ชอบไปช่วงที่มีเวลาอันน้อยนิดด้วย555555 นั่นเปรียบเสมือนคอนเซ็ปต์ของเราเลยก็ว่าได้ และแน่นอนค่ะ ทริปนี้ก็เช่นกัน!!!!!! Ajji ไม่เคยทำให้ผิดหวังกับการเที่ยวแบบเร่งรีบ ไปกันเลยกับทริป "หน้านี้...น่านหนาว (2 วัน 1 คืนที่หนาวที่น่าน)" เรามาเริ่มต้นด้วยการไปขึ้นรถที่บขส.2 พิษณุโลกกันเล้ยยย! ฝากรถมอเตอร์ไซค์ไว้ที่ร้านแล้วขึ้นรถกันเลยค่ะ ต้องบอกว่าเป็นทริปที่ชิลมาก ๆ แค่รู้สึกอยากสัมผัสอากาศหนาว ๆ สักที่ พักสมองให้ปลอดโปร่งจากงานวิจัยวุ่น ๆ จึงตัดสินใจไปจังหวัดน่านกันค่ะ เพราะได้ยินกิตติศัพท์มาว่าเป็นเมืองที่เป็นกันเอง อยู่อย่างเรียบง่ายและหนาวนั่นเอง ข้อนี้สำคัญที่สุดเพราะอยากไปกอดหมอกเย็น ๆ ให้ฉ่ำใจ><&nbsp; เปิดฉากการเดินทางมาก็ต้องบอกว่าสายชิลเรียกพี่ เพราะว่าคนขับรถใจเย็นมาก ๆ ผู้โดยสารขอขึ้นตรงไหนก็จอดรับ ผู้โดยสารอยากจะแวะซื้อของตรงไหนก็แวะให้ ล่าสุดจอดซื้อพวงมาลัยกับลองกองข้างทาง// ลุ๊งงงงงง!!!! ลุงไม่รีบหน่อยเหรอคะ? ชิลไปแล้วววววว สุดยอดไปเลย แฮ่! ไปน่าน // ขำให้หน่อยนะTT....แล้วเราก็มาถึงบขส.น่านค่ะ นั่งรถสองแถวมาอีกประมาณ 5 นาทีก็มาถึงที่พักที่เราจองไว้ นั่นคือ "น่าน เกสท์เฮ้าส์ (์Nan Guesthouse)" ค่ะ ที่พักที่นี่ราคาถูก เป็นกันเองมาก ลูก ๆ เจ้าของบ้านน่ารัก แถมตำแหน่งที่ตั้งใกล้สถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองน่านด้วยค่ะ ปล. เราจองกับ Agoda ยิ่งถูกลงอีกค่ะ จะบอกว่าตั้งแต่มาถึงอากาศที่นี่เย็นสบายมาก ๆ ถึงแดดจะจัดก็ไม่ได้แสบผิวเท่าไหร่ คงเป็นเพราะตอนนี้เข้าหน้าหนาวแล้วแน่ ๆ เมื่อเก็บของเรียบร้อยแล้วเราก็เดินออกมาที่หน้าปากซอยค่ะ พี่เจ้าของเกสท์เฮาส์บอกว่ามีที่ให้ยืมใช้จักรยานฟรีด้วย ที่นั่นก็คือ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวนั่นเองค่ะ ในส่วนนี้เราสามารถใช้บริการยืมจักรยานได้ฟรี แต่เราต้องวางบัตรประชาชนไว้ 1 ใบพร้อมเบอร์โทรศัพท์ให้กับพี่เจ้าหน้าที่ด้วยนะคะ เผื่อว่าถึงเวลาที่จะคืนแล้วเรายังเที่ยวเพลิน พี่เขาจะได้ตามได้55555 ปล. ยืมจักรยานได้ถึงเวลา 21.00 น. นะคะ :) หลังจากที่ยืมจักรยานเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็ปั่นจักรยานรอบๆตัวเมืองค่ะ ไปตามแผนที่เลย ความประทับใจที่ขี่จักรยานคือ ที่นี่มีช่องทางจักรยานโดยเฉพาะค่ะ มันดีมาก ๆ ปลอดภัยสุด ๆ คือไม่ต้องกังวลว่ารถจะมาชนเลย มันดีมากจริง ๆ มีทางสำหรับจักรยานทั่วเมืองเลยค่ะ มีทุกที่เลย อีกอย่างหนึ่งคือ คนขับรถที่นี่เขาให้เกียรติคนเดินทางเท้าและข้ามทางม้าลายสุด ๆ เหมือนได้ไปเที่ยวอเมริกาเลยค่ะ รถยนต์จอดให้คนข้ามทางเท้าและให้จักรยานแบบเราข้ามถนนไปก่อน นี่สิการจราจรในอุดมคติ! ไอ เลิฟ น่านนนนนนน <3 เมื่อเราปั่นกันมาแล้วที่แรกที่เราแวะก็คือ ถนนคนเดิน (Nan Night Food Market)ค่ะ เพราะหิวมาก เหมือนจะกินม้าได้ทั้งตัว ตลาดที่นี่เหมือนเป็นสถานที่ที่รวบรวมของดี สินค้า OTOP ของจังหวัดน่านเลยค่ะ มีทั้งเสื้อผ้าพื้นเมือง ของกินอร่อยๆ และของฝากต่าง ๆ ให้เราได้เลือกซื้อกันเพลิน ๆ ราคากันเองค่ะ หลังจากหาอะไรรองท้องแล้ว เราก็ไปต่อกันที่สถานที่ที่ไม่มา ถือว่ามาไม่ถึงน่าน นั่นก็คือออออ... วัดภูมินทร์ อิน อิน อิน อินนนน (เสียงก้องกังวาลจากในอุโบสถ) หากมาน่านแล้วไม่มาชมภาพจิตรกรรมฝาผนังที่วัดภูมินทร์ถือว่ามาไม่ถึงค่ะ ภาพนี้ดังไกลไปทั่วโลยเลย นั่นคือ ภาพกระซิบรักบรรลือโลกกกก// อยากรู้จังว่าเขาพูดเรื่องอะไร555 ชมภาพเรียบร้อยแล้ว ออกมาอีกทีก็เห็นว่าเขากำลังเตรียมสถานที่ที่ลานหน้าวัดอยู่ค่ะ ข่าวว่าจะได้มานั่งทานข้าวทานขนมพร้อมกับฟังเพลงชิล ๆ สไตล์ล้านนา แต่ต้องรอเวลอีกนิด งานเริ่มตอนเกือบ 1 ทุ่มค่ะ ไปกันต่ออีกที่ ง่ายๆเลยเพียงเดินไปฝั่งตรงข้ามวัด เราจะได้พับกบ แฮ่! พบกับ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน ค่าาาา ซึ่งที่นี่นะคะ แต่ก่อนคือหอคำ เป็นที่ประทับของพระเจ้าน่านค่ะ สร้างตัั้งแต่ปี 2446 เป็นอาคาร 2 ชั้นเป็นศิลปะแบบตะวันตกผสมกับศิลปะแบบไทยค่ะ ต่อมาก็ได้จัดให้เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน ในปี 2517 ถามว่าได้เข้าไปไหม? ตอบเลยว่าไม่! เนื่องจากวันที่ไปพิพิธภัณฑ์ปิดทำการค่ะ TT เฟลทุกทริปไป แต่ก็แอบไปถ่ายรูปกับถนนหน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติมาด้วยนะคะ ซุ้มลีลาวดีนี้ข่าวว่าเป็นมุมยอดฮิตที่ไม่ว่าใครมาก็ต้องมาถ่ายตรงนี้ เลยทำให้ต้องหามุมดี ๆ เลยค่ะ ไม่อย่างนั้นจะถ่ายติดฝูงชนจำนวนมหาศาล อากาศตอนนี้เริ่มเย็นขึ้นแล้วค่ะแถมใกล้คำแล้วด้วย ต้องหาอะไรอุ่น ๆ กินซะหน่อย กินอะไรดีน๊าาาาา? มาถึงน่านทั้งทีก็ต้องไปชิมหมูกระทะร้านเด็ดของจังหวัดน่านสักหน่อย ร้านที่เราได้เลือกสรรนั่นก็คืออออ...ร้าน Family grill buffet Nan แท่ม ทา แด แด่ม แทม แท่ม แท่ม แทม แทมมมมมม... ความประทับใจคือ เขาให้เรานั่งเฉย ๆ จริง ๆ อยากได้อะไรพนักงานจัดให้หมด จะเอาจิ้ง เอาเนื้อเพิ่ม แม่กระทั้งน้ำเปล่า พี่พนักงานก็จัดให้ บริการอย่างดี ลูกค้าไม่ต้องครับ เดี๋ยวเดินไปหยิบให้ เรียกว่าเป็นร้านหมูกระทะบริการดีเด่นแห่งปี หลังจากกินอิ่มแล้วเราก็ไปเช่ารถมอเตอร์ไซค์กันต่อ เพราะวันพรุ่งนี้เราจะไปกอดหมอกกันค่าาาา>< ยืมมา 2 คัน เรากับเก๋ 1 คัน และไมค์อีก 1 คัน จ่ายมัดจำและให้บัตรประชาชนเรียบร้อย พี่เขาก็เอารถไปส่งที่ที่พัก เสร็จแล้วก็ไม่รอช้าไปซึมซับความเป็นล้านนากัน ข้าง ๆ งานมีถนนคนเดิน (กาดข่วงเมืองน่าน) ด้วยนะ ดีมากเลยค่ะ จะได้ซื้ออะไรมานั่งกินที่ลานวัด กินขนมในขันโตกพร้อมฟังดนตรีพื้นเมืองเพลิน ๆ กับบรรยากาศที่เริ่มหนาว ๆ สุดยอดไปเลยค่ะ จนเวลาล่วงเลยไปเกือบ 3 ทุ่ม เรา 3 คนก็รีบปั่นจักรยานกลับไปที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวค่ะเพราะต้องเอาจักรยานไปส่งตามกำหนด จากนั้นก็เดินเข้าที่พักเลย สะดวกอะไรขนาดนี้เนี่ย วันนี้เพลียมาทั้งวัน อาบน้ำเข้านอนกันดีกว่าค่ะ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าไปดูหมอกกับสัมผัสอากาศหนาว ๆ กัน^^ อรุณเบิกฟ้าาา นกกาโบยบิน.....พระอาทิตย์ยังไม่ทันขึ้นเราสามคนก็อาบน้ำแต่งตัวเก็บของเรียบร้อยแล้วล่ะค่ะ พวกเราไม่รอช้าไปเช็คเอ้าท์กับทางที่พักเลยทันที พี่เจ้าของใจดีมาก ๆ บอกว่าให้ฝากกระเป๋าเสื้อผ้าไว้ก่อนได้ กลับมาค่อยมาเอา// ขอบคุณนะคะ^^ กินข้าวที่ร้านเลิศรสเรียบร้อยแล้ว ก็ลุยยยยยย! เป้าหมายคือ อุทยานแห่งชาติดอยภูคา (ห่างจากที่พักเกือบ 70 กิโลเมตร) ขึ้นดอยกันนนน ลุยยย!!!! เมื่อยก้นมากกกกกกก! ไกลเหลือเกินนนน แต่ว่า...ตลอดสองข้างทางที่ขึ้นไป ต้องเรียกว่า The Best!! สวยม๊ากกกกกกกก เรียกว่าไปเอาบรรยากาศจริงๆเลยค่ะ บรรยากาศดี อากาศหนาว หัวเหนียวเพราะหมอกหน่อย ๆ 555555 เจอตรงไหนอยากไปก็แวะหมด #แนบรูปบรรยากาศ อยากให้ทุกคนลองไปจริง ๆ ค่ะ มันดีมาก ๆ แต่ขี่รถต้องระวังหน่อยนะคะ อย่าดูวิวเพลินเดี๋ยวจะตกเขา เพราะมันสวยมากจริง ๆ หลังจากที่เที่ยวเพลิน ๆ ก็ถึงเวลากลับแล้วค่ะ ตอนนั้นก็น่าจะประมาณ 4 โมงเย็น เรา 3 คน ขี่รถกลับมาที่พักเพื่อเอากระเป๋า เอารถไปเติมน้ำมันแล้วก็เอารถไปคืนที่ร้าน ซึ่งพี่ที่ร้านเช่ารถก็ใจดีมาก มาส่งที่ขนส่งด้วย// กราบงาม ๆ พึ่งเจอเรื่องดี ๆ ไม่ทันไร ก็เจอเรื่องให้หุบยิ้มเสียก่อน พี่พนักงานเขาบอกว่ารถทัวร์ไปพิษณุโลกคือเต็ม!! เต็มมมมมมมมม! พี่พนักงาน: น้องต้องนั่งรถตู้จากน่านไปแพร่ และต่อรถจากแพร่ไปพิษณุโลกนะคะ เห้อ! โล่งอก คิดว่าจะไม่ได้กลับบ้านซะแล้ว อย่างน้อยก็คงกลับไปทันเรียนพรุ่งนี้เช้าแหละน่า เรา 3 คนจึงนั่งรถตู้ไปตามที่พี่เขาบอกเลยค่ะ พอถึงบขส.แพร่ก็ราว ๆ 6 โมงเย็น มีรถมาพิษณุโลกรอบ 1 ทุ่ม กับ 3 ทุ่มค่ะ เย่! รอดแล้ววววววววว! ซะที่ไหนล่ะ! เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันใย ฉันทำอะไรให้คุณเคืองขุ่น TT รถเต็มทุกรอบไปเลยค่ะ ไม่รู้ว่าคนเขาไปไหนกันเยอะแยะ แต่ไม่มีตั๋วว่างเลยสักใบ ท้อแท้กันเลยทีเดียวเพราะกลัวว่าจะกลับไปเรียนไม่ทัน เที่ยวได้ก็ต้องเรียนได้ด้วย แต่แล้วเสียงสวรรค์ก็ดังขึ้น พี่พนักงานบอกว่าจะมีรถเสริมตอน 4 ทุ่มค่ะ//น้ำตาจิไหลแล้วค่ะพี่ ได้กลับมอแล้วค่ะทุกคน พวกเราสามคนได้กลับถึงมอได้อย่างปลอดภัย ไม่พ้นคอนเซ็ปต์ความพีคเลย ทุกทริปจะต้องมีเรื่องให้ลุ้นให้ตื่นเต้นตลอดเลยจ้าาาาาา แต่ก็คุ้มอยู่นะ ได้ไปสัมผัสอากาศหนาว ๆ ได้ชมธรรมชาติพร้อมกับกลิ่นอายความเป็นล้านนาผสมผสานกันได้อย่างลงตัวจริง ๆ หน้านี้น่านหนาว...แต่หน้าเธออะน่ารักนะ^^// เสียงกระซิบดังจากรูปภาพฝาผนังวัดภูมินทร์ แล้วพบกันใหม่นะคะ :) -----ภาพทั้งหมดโดยผู้เขียน-----