รีเซต

เที่ยวกรุงเทพ 1 วัน ย่านเก่าฝั่งธน ชุมชนกุฎีจีน วัดซางตาครู้ส วัดกัลยาณมิตร

เที่ยวกรุงเทพ 1 วัน ย่านเก่าฝั่งธน ชุมชนกุฎีจีน วัดซางตาครู้ส วัดกัลยาณมิตร
เอิงเอย
27 มิถุนายน 2562 ( 14:30 )
69.6K
9

       นอกจาก กรุงเทพฯ ฝั่งพระนคร ที่เต็มไปด้วยที่เที่ยวแล้ว ขยับออกมาจากเกาะรัตนโกสินทร์นิดเดียว ข้ามเรือมาหน่อย ย่านเก่าฝั่งธน ที่เรากำลังจะไปเดินเที่ยวกันในวันที่ก็เปี่ยมด้วยวิถีชีวิต และความดั้งเดิมไปไม่น้อยกว่ากันเลยทีเดียวค่ะ ตามเรามาเดินชิล เที่ยวกรุงเทพ 1 วันเต็มๆ กันกับ ย่านเก่า ชุมชนกุฎีจีน แวะโบสถ์ซางตาครู้ส ไหว้พระ หลวงพ่อโต ซำปอกง ที่วัดกัณยาณมิตร ถ่ายรูปสวยๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยากันค่ะ

 


เดินเที่ยวฝั่งธน ย่านเก่ากรุงเทพ One Day Trip

 


วัดซางตา ครูส

 

 

       บ่ายๆ อากาศดีๆ แบบนี้เหมาะกับการมาเดินเล่นถ่ายรูปเที่ยวกันสุดๆ ไปเลย เราเริ่มต้นทริปกันที่ วัดซางตาครู้ส หรือ โบสถ์ซางตาครู้ส ค่ะ ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งธน ริมแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ

 

โบสถ์ซางตาครู้ส เที่ยวกรุงเทพ

 

       วัดซางตาครู้ส นั้นสร้างขึ้นในรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเพื่อให้เป็นศาสนสถานของชาวโปรตุเกสที่อพยพมาจากอยุธยาตั้งแต่เมื่อปี เมื่อ พ.ศ. 2312 เลยทีเดียว จึงถือว่าเป็นวัดคริสต์ที่มีความเก่าแก่มากอยู่คู่กรุงเทพฯ สำหรับตัวโบสถ์นั้น ได้มีการปรับปรุงบูรณะอีกครั้งในปี พ.ศ. 2378 และมีลักษณะคล้ายศาลเจ้าจีน (กุฎีจีน) จึงเป็นที่มาของชื่อว่า “วัดกุฎีจีน” นั่นเองค่ะ

 


      ถ้าพูดถึงความสวยงามของโบสถ์แล้ว ต้องบอกหน่อยว่า ที่นี่เป็นโบสถ์ที่ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมเรอเนซองส์ ผสมผสานกับ นีโอคลาสสิค จุดเด่นที่ไม่เหมือนที่ไหนก็คือ “โดมของโบสถ์” ที่เป็นโดมแบบอิตาลี เหมือนกับมหาวิหารฟลอเรนซ์ ที่แคว้นทัสคานา

 

โบสถ์ซางตาครู้ส เที่ยวกรุงเทพ

 

       หลังจากเดินชมรอบๆ โบสถ์แล้ว เราเข้าไปดูด้านในกันบ้าง ภายในโบสต์นั้นสวยงามด้วยเพดานแบบโค้ง มีกระจกสีประดับอยู่ และบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวข้องกับคริสต์ศาสนา คล้ายๆ กับจิตกรรมฝาผนังในวัดไทยนั่นเอง

 

 


      และเรายังได้โอกาสดี ขึ้นไปชมหอระฆังด้านบนของโบสถ์อีกด้วย แน่นอนว่าต้องปีนบันไดไม้ขึ้นไปค่ะ หวาดเสียวเล็กน้อย พอได้ขึ้นไปด้านบนก็จะเห็นระฆังใบโตแขวนเรียงรายกันอยู่ ทำให้นึกถึงบทประพันธ์เรื่อง The Hunchback of Notre Dame หรือ “คนค่อมแห่งนอร์ทเทอดาม” ของ วิกตอร์ อูโก กันเลยทีเดียว

 


=====================

 

 


ชุมชนกุฎีจีน

 

      หลังจากเดินชมความสวยงามของโบสต์ซางตาครู้สกันทุกซอกทุกมุมแล้ว เราเลยขอไปแวะชมชุมชนเก่าแก่ที่อยู่คู่กับโบสถ์มาจะเป็นร้อยปีแล้วกันที่ ชุมชนกุฎีจีน ค่ะ

 

 

      ชุมชนกุฎีจีน นั้นตั้งอยู่ข้างวัดซางตาครู้สมายาวนาน อย่างที่เราบอกกันไปแล้วว่า วัดซางตาครู้สนั้นสร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของคนโปตุเกสที่อพยพมาจากอยุธยา ทำให้ปัจจุบัน ชุมชนกุฎีจีนนี้ จึงเป็นที่อาศัยของชาวไทยเชื้อสายโปรตุเกสนั่นเองค่ะ

 

 

      นอกจากความเก่าแก่ และดั้งเดิมของชุมชนในทุกย่างก้าวที่เราได้เดินผ่าน แวะถ่ายรูปเพลินๆ บ้าง นั่นก็คือ ขนมฝรั่งกุฎีจีน ซึ่งเป็นขนมที่อยู่คู่กับชุมชนกุฎีจีนมาตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรีเลยทีเดียวค่ะ

 

 

      ขนมฝรั่งกุฎีจีน นั้นก็เป็นขนมอีกชนิดที่ได้รับอิทธิพลมาจากขนมโปรตุเกสอื่นๆ อย่าง ทองหยอด ทองหยิบ ฝอยทอง ที่เรารู้จักกันดี ที่แตกต่างกันก็คือ ขนมฝรั่งกุฎีจีนนี้เป็นขนมอบ มีส่วนผสมหลักๆ 3 อย่างคือ แป้งสาลี ไข่เป็ด และน้ำตาลทรายค่ะ แต่ก็ได้รับอิทธิพลจากจีนด้วยเช่นกันทำให้ ขนมฝรั่งกุฎีจีนนี้มีการนำ ลูกพลับอบแห้ง ลูกเกด หรือฟักเชื่อม มาแปะลงบนหน้าขนมด้วย

 

 

      โดยปกติแล้วขนมฝรั่งกุฎีจีนเป็นขนมที่หายาก เพราะจะทำกันเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญทางศาสนา และแจกจ่ายให้ทานกันเองในครอบครัวหรือชุมชนเท่านั้น แต่ตอนหลังด้วยความอร่อย และเริ่มมีคนรู้จักมากขึ้นก็ทำให้ขนมฝรั่งกุฎีจีนเริ่มมีชื่อเสียงขึ้น ชุมชนกุฎีจีนจึงมีกรทำขนมขายอย่างทุกวันนี้ให้เราได้อร่อยกันค่ะ

 

 

      ร้านดังของที่นี่ก็คือ ร้านธนูสิงห์ ที่สืบทอดความอร่อยในการทำขนมฝรั่งกุฎีจีนกันมาถึง 5 รุ่นแล้วค่ะ รสชาติเหมือนได้กินขนมไข่ แต่เนื้อขนมจะมีความแน่นกว่า ได้กาแฟสักแก้วมานั่งกินด้วยคงฟินสุดๆ ไปเลย

 

=====================

 

 

 

ศาลเจ้าเกียนอันเกง

 

 

       ได้อร่อยกับขนมไปแล้ว เดินถ่ายรูปชุมชนเพลินๆ ไปแล้ว เราก็ออกจากวัดซางตาครู้ส แล้วเดินเลียบทางเดินริมแม่น้ำเจ้าพระยา ไปต่อกันที่ ศาลเจ้าเกียนอันเกง หรือ ศาลเจ้าแม่กวนอิม ค่ะ

 

 

       ศาลเจ้าเกียนอันเกง เป็นศาลเจ้าจีนเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับชุมชนกุฎีจีน แต่ก็ไม่มีเรื่องราวบอกแน่ชัดว่าผู้สร้างศาลเจ้าขึ้นเป็นใคร ในหนังสือบางเล่มได้บอกไว้ว่า ศาลเจ้าเกียนอันเกง ได้สร้างขึ้นโดยชาวจีนฮกเกี้ยนที่ตามเสด็จสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช นับเป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในฝั่งธนบุรี มีอายุมากกว่าร้อยปี

 

 

        แต่เดิมภายในศาลเจ้าประดิษฐาน เจ้าพ่อโจวซือกง และ เจ้าพ่อกวนอู แต่ปัจจุบันนี้ ศาลเจ้ามีเจ้าแม่กวนอิม เป็นองค์ประธานหลักนั่นเองค่ะ

 

=====================

 

 

 

วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร

 


       หลังจากขอพรเจ้าแม่กวนอิมเป็นที่เรีนบร้อย เราเดินเลียบลัดเลาะริมแม่น้ำเจ้าพระยาต่อมาอีกหน่อย ก็จะเจอกับ วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร หรือ วัดกัลยาณมิตร ซึ่งมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ชื่อ พระพุทธไตรรัตนนายก หรือ หลวงพ่อโต ซำปอกง ประดิษฐานอยู่ในพระวิหารค่ะ

 

 

         หลวงพ่อโต ซำปอกง นั้นเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยองค์ใหญ่ซึ่งมีแค่ที่นี่ ที่วัดพนัญเชิง จ.พระนครศรีอยุธยา และวัดอุภัยภาติการาม จ.ฉะเชิงเทรา 3 วัดเท่านั้นในประเทศไทย เป็นที่สักการะนับถือทั้งคนไทย และคนจีนมาในทุกยุคทุกสมัย

 

 

       วัดกัลยาณมิตรนั้นสร้างขึ้นในรัชสมัยของรัชกาลที่ 3 สร้างเป็นวัดขึ้นเมื่อ พ.ศ.2368 เป็นวัดเก่าแก่และสวยงามตามแบบฉบับสถาปัตยกรรมผสมผสานไทยและจีนเข้าด้วยกัน

       ภายในพระอุโบสถมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง แสดงพุทธประวัติและวิถีชีวิตชาวบ้านชาวเมืองในสมัยรัชกาลที่ 3 และมีพระประธานเป็นพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ ซึ่งถือว่าเป็นวัดเดียวในประเทศไทยที่มีพระประธานเป็นพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์อีกด้วยค่ะ

 

 

       นอกจากนี้ ยังมีคติความเชื่อที่ว่า “เดินทางปลอดภัย มีมิตรไมตรีที่ดี” ใครมากราบไหว้ขอพรที่วัดกัลยาณมิตรนี้ยังจะมีแต่ความปลอดภัยและมีมิตร สหายที่ดีนั่นเอง

 

 


        จบทริป 1 วัน เดินชิลถ่ายรูปเล่น ย่านเก่าฝั่งธน กันไปแล้ว เป็น 1 วันที่มาครบเลยค่ะ ทั้ง วัดฝรั่ง วัดจีน วัดไทย ได้อร่อยกับขนมโบราณ ขนมฝรั่งกุฎีจีน ที่หาทานไม่ได้ที่ไหน แถมได้รู้เรื่องราวดีๆ ทางประวัติศาสตร์แบบเบาๆ กลับไปอีกด้วย วันหยุดนี้ ใครอยากเดินเที่ยวกรุงเทพฯ แบบชิลๆ มาปักหมุดตามรอยเราได้เลยจ้า