นั่งรถไฟเที่ยว โอซาก้า นารา 1 วัน ให้เซมเบ้กวาง ไหว้พระวัดโทไดจิ และศาลเจ้าคาสุกะ

      หลังจากที่เราพาเที่ยว โอซาก้า กับ 5 แลนด์มาร์คใหญ่ๆ ของเมืองที่ต้องพากันไปเช็คอินแล้ว (คลิกอ่าน 5 แลนด์มาร์ค ในโอซาก้า สีสันและความสนุกแห่งคันไซ!) ขยับออกมาจากโอซาก้าสักหน่อย เราไปเที่ยวกันต่อที่ นารา (Nara)สวนกวางขึ้นชื่อ และวัดสวยๆ ไปง่ายๆ ใกล้ กับโอซาก้าเพียงชั่วโมงเดียวเท่านั้นเองค่ะ

      จากโอซาก้าไปนารา ได้หลายเส้นทางด้วยกันค่ะ ทั้งรถไฟ JR รถประจำทาง และรถไฟใต้ดิน เราเลือกเดินทางด้วย รถไฟใต้ดิน Subway สาย YODOYABASHI – KINTETSUNARA ค่ะ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 48 นาที เราต้องขึ้น รถไฟที่สถานี Yodoyabashi จะอยู่ใน subway สาย Midoduji Line แล้วเปลี่ยนไป สาย Kintetsu Nara Line อีกทีที่สถานี Osaka-Namba ค่ะ (ดูตารางเวลารถไฟได้ที่ Japan Rail Pass)

      มาถึง นารา ง่ายๆ ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่เลยค่ะ ขึ้นจากรถไฟใต้ดินมา เราจะต้องเดินไปทางสวนสาธารณะค่ะ จะมีป้ายบอกทางไปเรื่อยๆ จนถึง วัดโทไดจิ (Todai-Ji) ระหว่างทางก็จะถูกฝูงกวางน่ารักโจมตีเป็นระยะ กวางที่นี่ค่อนข้างเป็นมิตร ออกมาต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างดีทีเดียว จับได้ ลูบได้ ไม่ถือตัว แต่ต้องแลกด้วยขนมเซมเบ้นะ

      ขนมเซมเบ้ที่ว่านี้จะเป็นแป้งแผ่นกลมๆ บางๆ ค่ะ ราคาประมาณ 150 เยน ระหว่างทางจากสวนไปจนถึงหน้าวัดก็จะมีร้านขายขนมเซมเบ้ตามข้างทางอยู่ เราสามารถซื้อขนมให้กวางได้อย่างใกล้ชิดมากๆ และที่นี่ยังมีป้ายบอกไว้ด้วยว่า อาหารที่ให้กวาง ต้องเป็นขนมเซมเบ้เท่านั้นนะคะ น่าจะเพื่อความปลอดภัยของกวางด้วย

       นอกจากกวางที่รู้งานมารุมเราเพื่อรอขอขนมเซมเบ้แล้ว บางตัวก็ไม่ได้เป็นมิตรไปซะหมดนะคะ มีป้ายเตือนอยู่ด้วยเช่นกันว่า ระวังกวางกัด หรือเตะ ยังไงก็ระวังกันด้วย แต่บอกเลยว่ามันน่ารักจริงๆ นะ

       เดินฝ่าฝูงกวางมาจนถึงหน้าวัดจนได้ วัดโทไดจิ (Todai-Ji) ซึ่งเป็นวัดใหญ่ของที่นี่ค่ะ ประตูทางเข้าหน้าวัดมีชื่อว่า นันไดมง (Nandaimon) เป็นประตูไม้โบราณแกะสลัก อีกจุดที๊ต้องไม่พลาดแวะถ่ายรูปกันนะจ๊ะ

       วัดโทไดจิ (Todaiji) หรือที่คนไทยเรียกกันว่า วัดหลวงพ่อโต เป็นวัดเก่าแก่ของเมืองนาราค่ะ สร้างขึ้นใน ค.ศ. 743 วัดนี้เป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกเมืองนารา เป็นสิ่งปลูกสร้างจากไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภายในวัดมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น มีความสูงถึง 16 เมตรหนัก 500 ตันเลยทีเดียว

       เดินเข้ามาในวัดด้านในวิหารหลักจะมีพระพุทธรูปไม้แกะสลักเก่าแก่ขนาดใหญ่มากๆ จุดน่าสนใจในวิหารอีกจุดคือเสาไม้ขนาดใหญ่ด้านหลังพระพุทธรูปที่จะมีรูอยู่ที่พื้นขนาดเท่าคนรอดได้พอดีๆ อยู่ต้นหนึ่งค่ะ มีความเชื่อกันว่า ถ้าใครรอดผ่านได้จะได้รับพรโชคดีกลับไป แต่ประตูดูเล็กมากทีเดียว สำหรับเด็กๆ ไม่เกินสัก 10 ขวบน่าจะรอดได้สบาย แต่ผู้ใหญ่นั้นใครไม่กลัวติดพุงก็ไปลองกันได้ค่ะ

ค่าเข้าชมในวัด
ผู้ใหญ่ 500 เยน และเด็ก 300 เยน

 
      จากวัดโทไดจิ เรามาต่อกันที่ ศาลเจ้าคาสุกะ (Kasuga Shrine) ค่ะ สามารถเดินมาได้ไม่ไกลกัน สำหรับศาลเจ้าคาสุกะจะเป็นศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงของนารา เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แล้วยังเป็นสถานที่เก็บรักษาโบราณวัตถุหลายชิ้นค่ะ

      ศาลเจ้าคาสุกะ เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ และมีคนมากราบไหว้มากที่สุดในเมืองนารา ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ 768 โดยสร้างให้แด่เทพเจ้าผู้ปกครองเมืองค่ะ ตัวศาลหลักทาด้วยสีแดง มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นสวยงาม และจุดเด่นของศาลเจ้าแห่งนี้คือ ตะเกียงนับพันที่ตั้งเรียงรายกันอยู่ภายในศาลเจ้าและตามทางเดินมายมายทีเดียว

     นอกจากนั้นยังมีตะเกียงเสาหินเรียงรายอยู่อีกด้วย เรียกได้ว่า เดินไป ถ่ายรูปไปกันเพลินๆ ได้เลยค่ะ โคมเหล่านี้มีจำนวนมากถึง 1,000 ดวง และในงานเทศกาล ”มังโทโร” ซึ่งจัดขึ้นในเดือนก.พ. และส.ค. ของทุกปี ศาลเจ้าจะจุดโคมทุกดวงให้ส่องสว่าง สวยงามตระการตามากทีเดียว ใครที่ได้มาในช่วงนั้นคงได้เห็นภาพสวยๆ กัน เสียดายที่เราไม่ได้มาช่วงนั้นค่ะ เอาไว้กลับมาซ่อมใหม่อีกครั้งแล้วกันเนอะ

ค่าเข้าชมศาลเจ้า
ผู้ใหญ่ 500 เยน และเด็ก 250 เยน

      จบแล้วค่ะ สำหรับทริป 1 วันใน นารา ใครที่อยากมาเที่ยวมาชิลมาตามนี้ได้เลย และยังมีที่เที่ยวอื่นๆ อีกที่น่าสนใจในเมืองนี้ (แต่เราไปไม่ทัน ฮ่าๆ) แถมที่นี่ยังสามารถเที่ยวได้ทั้งปีด้วยค่ะ เป็นอีกที่ที่มาเที่ยวด้วยตัวเองง่ายๆ เดินทางสะดวก ถ้าได้มาเที่ยวโอซาก้า ต้องไม่พลาดมานารานะคะ 

ที่เที่ยวโอซาก้า ที่น่าสนใจอื่นๆ

เที่ยวญี่ปุ่น กับ 5 แลนด์มาร์ค โอซาก้า สีสันและความสนุกแห่งคันไซ!

อัพเดทที่พักสุดชิลล์ ที่เที่ยวสุดมันส์ ที่กินสุดฮิป

ติดตาม travel.trueid.net ได้ที่

และ แอปพลิเคชั่น