กัลปพฤกษ์ สาขาสีลม อาหารไทยรสชาติที่คุ้นเคย เหมือนรสมือแม่

กัลปพฤกษ์ สาขาสีลม อาหารไทยรสชาติที่คุ้นเคย เหมือนรสมือแม่
แมวหง่าว
8 พฤษภาคม 2558 ( 14:15 )
35.1K

Words by หญิงใหญ่ใจดี
Photo by แมวหง่าว

ถ้าจะถามถึงร้านอาหารไทย แบบที่คนกรุงเทพรับประทานกันมาหลายสิบปี  เป็นอาหารไทยที่ไม่ได้ Fushion ไม่มีการตัดแต่งพันธุกรรมให้เป็นลูกผสมแล้วละก็  เราอยากชวนคุณมาที่ “กัลปพฤกษ์” ค่ะ จริง ๆ ร้านนี้เป็นที่รู้จักกันมานานกว่า 40 ปี แต่ในยุคที่ร้านอาหารใหม่ ๆ ที่เน้นการพรีเซ้นต์สวย ๆ จัดร้านให้ดูเก๋ไก๋ น่าถ่ายลง IG หรือร้านที่โปรโมทถึงวัตถุดิบเลิศหรูให้ได้ตื่นเต้น เข้ามาครอบครองพื้นที่ของนักชิมรุ่นใหม่ไปกันหมด เราเลยอยากชวนคุณกลับมาสัมผัสความรู้สึกของการกลับมาทานข้าวที่ “บ้าน” กันอีกที


เราได้พูดคุยกับคุณดา “ภดารี บุนนาค”  ผู้สืบทอดร้านรุ่นที่ 3 ของกัลปพฤกษ์ คุณดาเล่าให้เราฟังว่า ร้านกัลปพฤกษ์  ไม่ได้เป็นร้านอาหารชาววัง อย่างที่ใคร ๆ เข้าใจ  แม้ที่ตั้งจะอยู่ในบริเวณที่ทุกคนเรียกว่า “วังประมวญ”  เพราะเป็นวังที่ประทับของพระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ (พระองค์เจ้ารัชนีแจ่มจรัส) ต้นราชสกุลรัชนีมาแต่ต้น จนดำเนินมาถึงรุ่นโอรสคือ มจ.ภีศเดช รัชนี และจนมาถึงรุ่นหลาน ๆ ในปัจจุบัน  คุณดาเล่าให้เราฟังว่า อาหารที่นี่จริง ๆ ก็คือสูตรที่คุณยาย ทำให้คนในบ้านรับประทาน เคยทำอย่างไร ก็ทำขายอย่างนั้น เรียกว่าเป็นโฮมเมดขนานแท้เลยทีเดียว เพราะวัตถุดิบก็คัดเลือกแต่ของมีคุณภาพ ผักสดปลอดสารจากสวนเจ้าประจำ  เนื้อสัตว์ที่ใช้ ไม่ได้คัดของนำเข้าจากไหน แต่คัดจากผลิตภัณฑ์ในประเทศที่ปลอดภัยและชิ้นส่วนที่เหมาะสำหรับอาหารแต่ละประเภท  เรียกว่าเป็นครัวแบบไทย แบบ Slow Cook อย่างดั้งเดิม  ที่ไม่ต้องโปรโมท ถึงความอินเตอร์ใด ๆ เพราะครัวไทยแต่เดิมเรา ก็อร่อยด้วยกระบวนการโขลก สับ ต้ม เคี่ยว ผัด อย่างประณีตและใส่ใจ  โดยไม่ต้องอาศัยเนื้อเกรดพรีเมี่ยมจากไหน  


จานอร่อยที่คุณดาคัดมาให้เราชิมวันนี้ เป็นเมนูที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี  แต่ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป อาจทำให้เราลืมนึกถึงเมนูเหล่านี้ไปได้ง่าย ๆเหมือนกัน จานแรก “ขนมถ้วยจีน”  หรือ หลายคนอาจจะเรียกว่า จุ่ยก้วย , จุ๋ยก้วย แล้วแต่ความถนัดปาก ตัวแป้งยังคงทำเองด้วยวิธีดั้งเดิม คือใช้ข้าวสารแช่น้ำมาโม่ ใหม่สดทุกวัน ไม่มีการใช้แป้งสำเร็จรูป จึงได้เนื้อแป้งที่นุ่ม เหนียว ไม่กระด้างเหมือนแป้งสำเร็จ  หน้าขนมรสชาติเข้มข้นด้วยไชโป๊วอย่างดีผัดหมูสับ พิเศษด้วยเนื้อปูที่โรยหน้ามาเพิ่มรสชาติ เสิร์ฟกับน้ำจิ้มซีอิ๊วรสเปรี้ยวนำ เคียงด้วยผักลวก  ให้อารมณ์คิดถึงหาบขนมถ้วยจีนหน้าโรงเรียนสมัยก่อนจริง ๆ 


จานที่สอง เป็น “ข้าวตังห่อหมก” ที่อื่นอาจจะเสิร์ฟห่อหมกเป็นกับข้าวธรรมดา  แต่ที่นี่เสิร์ฟพร้อมข้าวตัง ที่ให้รสสัมผัสแปลกไปอีกแบบ ความกรุบกรอบ หอมกลิ่นเกรียม ๆ ของข้าวตัง เข้ากันดีกับห่อหมกรสละมุน ที่พริกแกงไม่ได้จัดจ้านเกินไป  เนื้อห่อหมกจากปลาช่อนกวนกับน้ำพริกจนฟู แถมมีเนื้อปลาเป็นชิ้นให้ได้ทานกันอย่างเต็มปากเต็มคำ จานนี้ดูเหมือนธรรมดา แต่ทานแล้วคิดถึงอาหารที่บ้านเลยจริงๆ ค่ะ


จานที่สาม เป็นอีกเมนูขึ้นชื่อ ที่ใครก็ต้องสั่ง คือ “โรตีแกงเนื้อ”  ที่ส่วนใหญ่คนจะเข้าใจว่าเป็นแกงเขียวหวาน แต่จริง ๆ แล้วแกงที่นี่จะเรียกว่าแกงเขียวหวานซะทีเดียวก็คงไม่ใช่ เพียงแต่ใช้น้ำพริกแกงเขียวหวาน แต่ไม่ได้ใส่ผัก หรือมะเขือใด ๆ ใส่เพียงพริกขี้หนู เม็ดเล็ก ให้กลิ่นหอม เข้ากับแกงที่สุด เนื้อวัวที่เคี่ยวจนนุ่ม น้ำแกงข้นขลุกขลิกแบบแกงแขก มากกว่าจะเป็นน้ำมาก ๆ แบบแกงไทย เสิร์ฟกับโรตีทอดกรอบแบบ Deep Fried ที่ไม่ได้เป็นโรตีแบบจี่กระทะเหมือนต้นตำรับ  แต่กลับให้รสชาติในการรับประทานที่ได้อรรถรสเข้ากันอย่างยิ่ง  จานนี้แทบทุกโต๊ะต้องสั่งเลยละค่ะ


อีกจานเป็นอาหารประจำวันของวันที่เราแวะไป เป็น "ขนมจีนน้ำพริก" ซึ่งคุณดาก็พูดกับเราว่า เมนูแต่ละอย่างของที่ร้าน เป็นอาหารประจำบ้านประมวญของเธอ  แต่ละบ้าน ก็คงมีสูตรอาหารของตัวเอง ขนมจีนน้ำพริกของที่นี่ จึงเนื้อเนียน ด้วยถั่วคั่วโชลกละเอียด รสจัดออกเปรี้ยวหวานนำ ไม่ได้มีเนื้อกุ้ง  หรือหอมเจียวโรยหน้าแบบสูตรอื่น ๆ  แต่เครื่องเคียงทั้งผักลวก ผักทอด มีมาให้ครบครัน เป็นอีกจานยอดนิยมของที่นี่เช่นกัน 


และจานพิเศษในช่วงหน้าร้อน ที่เราโชคดีได้ชิมก่อนจะหมดช่วงฤดู ก็คือ "ข้าวแช่ตำรับของกัลปพฤกษ์" ที่น้ำข้างแช่หอมมะลิอ่อน ๆ เพราะที่นี่เลือกใช้เพียงน้ำลอยดอกมะลิ โดยไม่ได้มีดอกไม้อื่น หรืออบควันเทียนมาเสริม กับข้าวของที่นี่มีพริกหยวกยัดไส้  ไชโป๊วผัดไข่  ปลาหวานกรอบ  ไข่แดงเค็มชุบไข่ทอด หัวหอมยัดไส้ และลูกกะปิ  ที่คุณดาบอกว่า สูตรแต่ละบ้านก็น่าจะต่างกันที่ลูกกะปินี่ละ  ที่กัลปพฤกษ์ ลูกกะปิ กลับไม่ได้มีกะปิเป็นหลักแต่ใช้เนื้อปลาช่อนยี เคี่ยวกับน้ำตาลปึก กระเทียม กระชาย แล้วกะปินิดเดียว เคี่ยวจนเหนียวจับเป็นก้อนได้ เป็นอีกหนึ่งเมนู ที่ลูกค้ามักแวะเวียนกันมาชิมทุกหน้าร้อน  


นอกจากอาหารไทยที่เป็นที่รู้จัก ของหวานที่นี่โดยเฉพาะเบเกอรี่ก็เป็นที่นิยมมาก เมนูดั้งเดิม อย่างเค้กช็อกโกแลตหน้านิ่ม เค้กส้ม เค้กมะตูม ยังคงครองใจลูกค้าอย่างเหนียวแน่น โดยไม่ต้องอาศัยการตกแต่งหน้าตาให้หรูหราแต่อย่างใด เค้กของกัลปพฤกษ์ เป็นเนื้อ Butter Cake แบบฝรั่งดั้งเดิม แต่ทำเนื้อสัมผัสได้ฟู นุ่มนวล ราวกับชิฟฟ่อนเค้กสมัยใหม่เลยทีเดียว เรายกนิ้วให้เค้กที่นี่จริง ๆ เลยละค่ะ

 


คุณดาบอกว่า ที่นี่อาจไม่ใช่ร้านอาหารที่อร่อยเลิศที่สุดในกรุงเทพฯ แต่เป็นร้านที่ลูกค้ามาด้วยความผูกพัน ความคุ้นเคย ทุกครั้งที่ได้มาก็จะได้ทานอาหารสูตรดั้งเดิม เหมือนที่เคยทานตั้งแต่วันเปิดร้านเมื่อ 40 ปีก่อน เป็นอาหารที่เปี่ยมด้วยความใส่ใจเหมือนกับว่า ได้กลับบ้านไปทานอาหารฝีมือแม่อย่างไรอย่างนั้นเราก็เห็นจริงตามนั้นค่ะ ในยุคที่มีแต่ความเร่งรีบ และแข่งขัน  ถ้าเราจะนั่งลงค่อย ๆ ทานอาหาร  ที่ค่อย ๆ ทำ อย่างตั้งใจ เหมือนที่เราเคยทานที่บ้านอย่างที่กัลปพฤกษ์ ก็คงทำให้วันรีบ ๆ ของเรา ช้าลงนิดนึงได้นะคะ 

 

ร้านกัลปพฤกษ์

มี 3 สาขา คือ 27 ถนนประมวล สีลม บางรัก  กทม. 10500   

โทร.022364335, 022364338

สาขา Mercury Ville ชิดลม ชั้น G  และที่ชั้น 7 Central World

www.facebook.com/Kalprapruek

 

 

ติดตาม travel.truelife.com ได้อีกช่องทางที่

FB : Travel Truelife

 ทุกเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว อาหาร และสุขภาพ คลิกที่http://travel.truelife.com


ร้านกัลปพฤกษ์ สีลม

ที่อยู่ : 27 ถนนประมวล สีลม บางรัก  กทม. 10500

เบอร์ติดต่อ : 022364335, 022364338

เว็บไซต์ :  www.facebook.com/Kalprapruek

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิพิเศษแนะนำ

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิพิเศษแนะนำ