7 เรื่องผี ตำนานเมือง เกียวโต อาถรรพ์ลี้ลับของอดีตเมืองหลวง
เมืองแรกๆ สำหรับคนไม่เคยไปเที่ยวญี่ปุ่นน่าจะนึกถึง และอยากไปให้ได้ก็คือเกียวโต เมืองเก่าแก่ร่วมสมัยที่เต็มไปด้วยวัดวาอาราม สวนสวย และคาเฟ่น่านั่งมากมาย แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองเก่าแล้ว คงหนีไม่พ้นเรื่องเล่าเกี่ยวกับตำนานเมือง เรื่องลี้ลับต่างๆ โดยเฉพาะยามโพล้เพล้ของเกียวโตนี่ เอาจริงๆ ก็มีบรรยากาศหวิวๆ เย็นๆ บอกไม่ถูกเหมือนกัน และต่อไปนี้คือเรื่องราวน่าขนลุกต่างๆ ที่เราอยากให้คุณรู้ไว้ก่อนไป จะได้ไม่เผลอไปโดนคำสาปอะไรเข้าไงล่ะ
- 13 ตำนานเมือง เรื่องผีญี่ปุ่นสุดสยอง ฟังก่อนนอน หลอนจนไม่กล้าหลับ
- ซัมเมอร์สยอง! เหตุใดชาวญี่ปุ่นถึงชอบเล่าเรื่องผี 100 เรื่องกันในหน้าร้อน ?
1. ศาลเจ้าจิชู (Jishu-jinja)
cowardlion / Shutterstock.com
ศาลเจ้าจิชู ตั้งอยู่ภายในวัดน้ำใส หรือคิโยะมิสึที่เรารู้จักกัน ว่ากันว่าถ้าได้มาขอพรที่นี่จะสมหวังในเรื่องความรัก เราจึงเห็นภาพของสาวๆ ที่เดินทางมาขอพรกันจนชินตา แต่แน่นอน เมื่อมีคนสมหวังย่อมต้องมีคนผิดหวังด้วยเช่นกัน ข้างๆ ศาลเจ้าจะมีต้นสนศักดิ์สิทธิ์ที่เต็มไปด้วยรูตะปูตอก เชื่อกันว่ามาจากร่อยรอยของการทำพิธีสาปแช่ง “อุชิ โนะ โคะคุไมริ” (Ushi no Kokumairi)
อุชิ โนะ โคะคุไมริ (Ushinokoku Mairi) เป็นการทำพิธีสาปแช่งตามความเชื่อโบราณของชาวญี่ปุ่น โดยนำเอาตุ๊กตาฟางมาตอกเข้ากับต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในศาลเจ้า ทำในช่วงเวลาตีสองเป็นเวลาติดต่อกัน 7 วัน หากทำสำเร็จโดยไม่มีใครเห็นคำสาปแช่งจะบรรลุผล นอกจากศาลเจ้าจิชู ยังมีศาลเจ้าคิฟุเนะอีกแห่งที่มีต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ และโดนตอกตะปูทำพิธีสาปแช่งลักษณะนี้เหมือนกัน ทุกวันนี้ถ้าลองไปดูดีๆ ก็จะยังเห็นรอยตะปูอยู่เหมือนเดิม
2. วัดโรคุโดะ ชินโน (Rokudo Chinno Temple)
ที่วัดแห่งนี้เชื่อกันว่ามีบ่อน้ำที่เป็นทางผ่านไปสู่ยมโลกได้ ตามตำนานเล่าว่าในยุคเฮอันมีบัณฑิตนามว่า โอโนะ ทากามูระ ที่ทำงานอยู่ในศาลหลวงยามกลางวัน แล้วใช้บ่อน้ำนี้เดินทางลงไปทำงาน ช่วยเหลือการตัดสินคดีความในยมโลกยามค่ำคืน
3. ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ (Fushimi Inari)
b-hide the scene / Shutterstock.com
มาเที่ยวเกียวโตทั้งที เชื่อว่าคงไม่มีใครพลาดมาเที่ยวศาลเทพเจ้าจิ้งจอกแห่งนี้แน่นอน โดยเฉพาะระหว่างทางที่จะต้องเดินผ่านเสาโทริอิสีแดงนับหมื่นต้น ยาวกว่า 4 กิโลเมตรผ่านป่าเขียวขจี ถ่ายรูปยังไงก็ดูสวย แต่ก็มีหลายคนพูดกันว่าบรรยากาศมันแอบดูวังเวง และน่ากลัวเหมือนกัน ซึ่งก็มีตำนานเรื่องผีลักซ่อนอยู่หลายเรื่อง เช่น ถ้าเผลอไปจ้องตารูปปั้นเทพเจ้าจิ้งจอกมากๆ จะออกจากทางเดินเสาโทริอิไม่ได้ หรือถ้ามาเดินที่นี่ในช่วงโพล้เพล้ก็จะหลงทางอยู่ในนี้ พอหลุดออกมาได้ก็จะหลงลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ฯลฯ ซึ่งความจริงแล้วเรื่องหลงทางก็คงไม่แปลกเท่าไหร่ เพราะกว่าจะเดินถึงตัวศาลเจ้าก็ไกลอยู่ ใครมาเที่ยวก็อย่าเถลไถลออกนอกเส้นทางล่ะ
4. อุโมงค์คิโยทากิ (Kiyotaki Tunnel)
หนึ่งในสถานที่ที่ขึ้นชื่อเรื่องความหลอนที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น อุโมงค์แห่งนี้สร้างขึ้นช่วงประมาณปี ค.ศ. 1929 บนที่ที่เคยเป็นทั้งสนามรบ และลานประหาร แค่นี้ก็สยองพออยู่แล้ว แต่เรื่องราวที่ทำให้อุโมงค์นี้โด่งดังขึ้นมา ก็คือเรื่องหญิงสาวที่มาฆ่าตัวตายอยู่ใกล้ๆ นี้ ช่วงประมาณปี 1998 หลังจากนั้นก็เริ่มมีคนพบวิญญาณผู้หญิงในนี้เรื่อยมา บ้างก็ได้ยินเสียงร้องไห้ บ้างก็เห็นเงาในกระจกหลังรถ ฯลฯ มีหลากหลายเรื่องเข้าก็เกิดเป็นตำนานเมืองขึ้นมา ว่าถ้าสัญญาณไฟเขียวหน้าอุโมงค์สว่างขึ้น อย่าเพิ่งรีบขับผ่านไป ปล่อยให้ผ่านไปอีกหนึ่งไฟแดงก่อน แล้วค่อยขับเมื่อไฟเขียวอีกครั้ง เชื่อกันว่าไฟเขียวแรกนั้นเป็นการเชื้อเชิญของดวงวิญญาณในอุโมงค์หลอกให้เราเข้าไปนั่นเอง
5. ศาลเจ้าคุบิสึกะ ไดเมียวจิน (Kubizuka Daimyojin Shrine)
ภาพวาดโบราณ ของจอมปีศาจชูเทนโดจิ
ศาลเจ้านี้อาจไม่ได้มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนมากนัก แต่ก็มีตำนานเล่าขานว่าที่นี่เป็นสถานที่ฝังศรีษะของปีศาจ ชูเทนโดจิ (Shutendouji) ที่ออกอาละวาดฆ่าผู้คน และลักพาตัวผู้หญิงในช่วงยุคเฮอัน หลังจากถูกปราบลงได้ก็โดนสะกดวิญญาณอยู่ที่นี่ ทุกๆ ปีก็จะมีจัดงาน ชูเทนโดจิมัตสึริ เพื่อเสริมอาคมสะกดให้แข็งแกร่งขึ้น ส่วนวันอื่นๆ ของปีนั้นก็จะไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่ เลยทำให้ที่นี่ดูเงียบ และวังเวง กลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่คนชอบเรื่องลี้ลับมักมาพิสูจน์ความกล้ากัน
6. สระผีสิง มิโดโรกะ-อิเกะ (Midoroga-ike)
Photo by Tetsushi Kimura
สระน้ำมิโดโรกะ-อิเกะ ตั้งอยู่ที่เขตคิตะ ที่คนเกียวโตส่วนใหญ่จะรู้จักกันดีว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่หลอน ที่ไม่ค่อยมีใครจะอยากผ่านมาแถวนี้เท่าไหร่นัก แม้ว่าสระน้ำนี้ทางรัฐบาลท้องถิ่นจะตั้งใจสร้างไว้เพื่อเป็นที่สำหรับอนุรักษ์พันธุ์พืช และสัตว์น้ำในแถบนี้ เพราะมีเรื่องเล่าน่ากลัวๆ ถึง 2 เรื่อง ดังนี้
- กลางดึกคืนหนึ่ง มีคนขับรถแท็กซี่รับผู้โดยสารหญิงตามปรกติ โดยมีจุดหมายปลายทางเป็นสระมิโดโรกะ-อิเกะ แม้คนขับจะสงสัยเพียงใดก็ตามว่าเธอจะไปทำอะไรดึกดื่นขนาดนี้ แต่ด้วยหน้าที่ก็จำต้องไปส่งอย่างเลี่ยงไม่ได้ ครั้นมาถึงที่หมาย จู่ๆ ผู้หญิงคนนั้นก็หายตัวไปเสียเฉยๆ ทิ้งไว้เพียงคราบน้ำเปียกโชกไว้ที่เบาะหลัง ราวกับว่าเธอเพิ่งจะขึ้นมาจากน้ำยังไงยังงั้น นับจากเรื่องเล่านี้แพร่หลายออกไป ก็ไม่มีแท็กซี่คนไหนกล้ารับผู้โดยสารมาส่งที่นี่ในยามค่ำคืนอีกเลย (น่าจะเพราะไม่ได้เงินด้วย)
- เรื่องที่ 2 เล่ากันมาว่ามีดวงวิญญาณคอยหลอกหลอนอยู่บริเวณสระน้ำแห่งนี้ เพราะเคยมีผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำ และไม่สามารถเก็บกู้ร่างขึ้นมาได้ เพราะใต้บ่อนั้นเต็มไปด้วยชั้นโคลนหนาแน่น และมีความลึกมาก
7. ตำนานขบวนร้อยอสูร (Hyakki-Yako)
มีตำนานว่าผู้คนในเกียวโตนั้นเคยเห็นฝูงปีศาจจำนวนมากมายพากันมาเดินพาเหรดผ่านเมืองเป็นประจำทุกปีตั้งแต่สมัยเอโดะ และถ้าใครออกมานอกบ้านช่วงนั้นแล้วไปจ๊ะเอ๋กับขบวนปีศาจเข้าจะถูกดึงวิญญาณออกจากร่างไป ตามตำราโบราณแล้วขบวนร้อยอสูรจะมีวันออกมาเดินแบบแน่นอน (เช็ควันออกได้ ที่นี่) ดังนั้นคนโบราณเลยห้ามลูกหลานออกนอกบ้านยามวิกาลในวันนั้น ส่วนสาเหตุที่มีอสูรออกมากันนั้นไม่มีใครบอกได้ว่าเพราะอะไร?
ใครชอบเรื่องราวของขบวนร้อยอสูร ลองไปหาการ์ตูนเรื่อง นูระหลานจอมภูต มาอ่านดูนะ
และเหล่านี้ก็เป็นตำนานบางส่วนของเมืองแห่งไสยเวทย์อย่างเกียวโต ซึ่งถ้าลองมองดูให้ลึกลงไปเราจะพบกุศโลบายของคนโบราณเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยต่างๆ แฝงอยู่เหมือนกัน แถมยังเป็นตัวช่วยเสริมเรื่องราวให้สถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้มีความน่าสนใจมากขึ้นด้วย เอาเป็นว่าอย่าเพิ่งกลัวผีจนลืมเที่ยวล่ะ เกียวโตมีอะไรดีๆ อีกเพียบ ไปเถอะ!
===============