รีเซต

12 สถานที่สำคัญใน พระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 10 พ.ศ. 2562

12 สถานที่สำคัญใน พระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 10 พ.ศ. 2562
เอิงเอย
1 เมษายน 2562 ( 09:41 )
26.8K
16

        ตามหมายกำหนดการ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และสถานที่สำคัญมากมายที่น่าสนใจ และคนไทยเราควรรู้จักกันค่ะ เพราะฉะนั้น เราจึงรวบรวม 12 สถานที่สำคัญใน พระราชพิธีบรมราชาภิเษก 2562 มาฝากกันเป็นเกร็ดความรู้เล็กๆ ก่อนงานสำคัญของคนไทยทั้งประเทศค่ะ

 

 

 

 

วัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร

 

 

       วัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร หรือที่นิยมเรียกสั้นๆ ว่า วัดสุทัศน์ เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร ที่มีอยู่เพียงไม่กี่แห่งของประเทศไทย และถือเป็นวัดประจำรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร อีกด้วยค่ะ

       วัดนี้พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 แห่งพระบรมราชวงศ์จักรี โปรดเกล้าให้สถาปนาขึ้น แต่ทรงสร้างค้างไว้แต่เพียงรากพระวิหาร ถึงรัชกาลที่ 3 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสร้างใหม่ทั้งอารามและในรัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงปฏิสังขรณ์เพิ่มเติมอีก

 

 

        โดยในวันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน 2562 วัดแห่งนี้จะเป็นสถานที่สำคัญในการเสกน้ำอภิเษกรวมจากกรุงเทพฯ และ 76 จังหวัดทั่วประเทศเพื่อนำไปใช้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

=======================

 

 

 

วัดพระศรีรัตนศาสดาราม

หรือ วัดพระแก้ว

 

 

        วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือภายในพระบรมมหาราชวัง เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นใน พ.ศ. 2325 ตามแบบแผนการสร้างพระบรมมหาราชวังแต่ครั้งโบราณ เป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือ พระแก้วมรกต เรียกโดยทั่วไปว่า วัดพระแก้ว มีเฉพาะเขตพุทธาวาส

 

 

        ภายในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มีอาคารสำคัญและอาคารประกอบเป็นจำนวนมาก ทั้ง พระอุโบสถ ปราสาทพระเทพบิดร พระมณฑป พระอัษฎามหาเจดีย์ เป็นต้น

       ที่นี่จึงเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ และสำคัญ เพราะเป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีสำคัญของบ้านเมือง รวมถึงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก อาทิ การจารึกพระสุพรรณบัฏและการแกะพระราชลัญจกร ในวันอังคารที่ 23 เมษายน 2562 อีกด้วย

=======================

 

 

 


พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท

 

 

         พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เป็นพระที่นั่งองค์ประธานของหมู่พระมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวัง ตั้งอยู่เบื้องตะวันตกของเขตพระราชฐานชั้นกลาง ลักษณะเป็นพระมหาปราสาทจตุรมุข พระที่นั่งองค์นี้ได้รับยกย่องว่าเป็นสถาปัตยกรรมชั้นเอกของกรุงรัตนโกสินทร์ และเป็นพระที่นั่งทรงไทยแท้องค์เดียว ในพระบรมมหาราชวัง

 

 

        พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สร้างขึ้นเมื่อ พุทธศักราช 2332 ทดแทนพระที่นั่งอมรินทราภิเษกมหาปราสาท ภายหลังใช้เป็นที่ประดิษฐานพระบรมศพและพระศพจนเป็นธรรมเนียม

        ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จกราบถวายบังคมและสดับปกรณ์พระบรมอัฐิและพระอัฐิสมเด็จพระบรมราชบุพการีที่พระที่นั่งนี้

=======================

 

 


หมู่พระมหามณเฑียร

        หมู่พระมหามณเฑียร คือกลุ่มพระที่นั่งหลังคาทรงจั่ว สร้างเชื่อมพระที่นั่งประธานสามหลังประกอบไปด้วย พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน พระที่นั่งไพศาลทักษิณ และพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ตั้งอยู่เบื้องตะวันออกของเขตพระราชฐานชั้นกลางและเขตพระราชฐานชั้นในของพระบรมมหาราชวัง

       พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สร้างขึ้นเมื่อ พุทธศักราช 2328 เพื่อใช้เป็นที่ประทับและเสด็จออกว่าราชการ ตั้งแต่รัชกาลที่ 2 เป็นต้นมา ได้ถูกใช้เป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และพระราชพิธีสำคัญอื่นๆ ในพระมหากษัตริย์ทุกรัชกาลในราชวงศ์จักรีสืบเนื่องกันมา

=======================

 

 

 


พระที่นั่งไพศาลทักษิณ

        พระที่นั่งไพศาลทักษิณ ตั้งอยู่กลางระหว่างท้องพระโรงหน้าของพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน กับ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในรัชสมัยรัชกาลที่ 1 เป็นส่วนหนึ่งของพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ภายหลังในสมัยรัชกาลที่ 2 ทรงตั้งการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ณ พระที่นั่งองค์นี้ อันเป็นพระราชพิธีสืบมาจวบจนปัจจุบัน

       พระที่นั่งมีลักษณะเป็นพระที่นั่งโถงยาว ยกพื้นสูง ทอดยาวไปตามทิศตะวันออก-ทิศตะวันตกผนังด้านทิศเหนือประดิษฐานพระสยามเทวาธิราช ด้านหลังพระวิมานเป็นพระทวารเทวราชมเหศวร ซึ่งเป็นทางเสด็จพระราชดำเนินของพระมหากษัตริย์โดยเฉพาะ

        พระที่นั่งไพศาลทักษิณ เป็นสถานที่สำคัญในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก อาทิ การบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2562 และ การเชิญพระสุพรรณบัฎ ดวงพระราชสมภพ และพระราชลัญจกร ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2562

=======================

 

 


พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน

        พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน เป็นพระที่นั่งสาคัญในหมู่พระมหามณเฑียร ตั้งอยู่ในเขตพระราชฐานชั้นใน ประกอบด้วยอาคาร 3 หลังเรียงต่อกันในแนวตะวันออก-ตะวันตก ลักษณะพระที่นั่ง เป็นสถาปัตยกรรมไทย 3 หลังแฝด แต่ละองค์มีพระทวารเชื่อมเป็นพระวิมานที่ประทับของพระมหากษัตริย์ จึงใช้พระที่นั่งองค์นี้ สำหรับประกอบพระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร อันเกี่ยวเนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

        ปัจจุบันพระที่นั่งจักรพรรดิพิมานเป็นที่ประดิษฐานเครื่องราชกกุธภัณฑ์ พระแสงและเครื่องราชูปโภค

=======================

 

 

 


พระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์

        พระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ เป็นพระที่นั่ง หรือพระราชอาสน์ คือพระราชบัลลังก์ หรือ ที่ประทับของพระมหากษัตริย์ ทำจากไม้อุทุมพร หรือ “มะเดื่อ” ทรงแปดเหลี่ยมจึงเรียกว่า “พระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์” สลักปิดทองประดับกระจก กางกั้นด้วยพระบวรเศวตฉัตรหรือสัปตปฎลเศวตฉัตร หรือฉัตรขาว 7 ชั้น ประดิษฐาน ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ ด้านมุขตะวันออกในพระบรมมหาราชวัง เป็นพระที่นั่งสำหรับพระมหากษัตริย์ เสด็จขึ้นประทับรับน้ำอภิเษกในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

=======================

 

 

 


พระที่นั่งภัทรบิฐ

       พระที่นั่งภัทรบิฐ ประดิษฐานอยู่เบื้องตะวันตกเฉียงเหนือในพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ลักษณะเป็นพระเก้าอี้ถมทอง พนักและเท้าแขนต่อเนื่องกันเป็นกงแบบเก้าอี้จีน สร้างขึ้นในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เบื้องหลังปักนพปฎลมหาเศวตรฉัตร

       ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระมหากษัตริย์เมื่อทรงรับน้ำอภิเษกที่พระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์แล้ว เสด็จพระราชดำเนินประทับพระที่นั่งภัทรบิฐ ทรงรับการถวายเครื่องราชกกุธภัณฑ์ พระแสงอัษฎาวุธ เครื่องราชูปโภคและราชสมบัติ

=======================

 

 

 


พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหสูรยพิมาน

        พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหสูรยพิมาน ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของพระที่นั่งไพศาลทักษิณ เป็นท้องพระโรงสำคัญในพระราชพิธีสำคัญของบ้านเมือง อาทิ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาตลอดจนเสด็จออกรับทูตต่างประเทศที่เข้ามาเจริญพระราชไมตรีในสมัยต้นรัตนโกสินทร์

        พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยเป็นท้องพระโรงโถง ยกพื้นสูง มีมุขสองข้างทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ที่ปลายสุดของท้องพระโรงเป็นที่ประดิษฐานพระที่นั่งบุษบกมาลามหาจักรพรรดิพิมาน เป็นที่ประดิษฐานพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉัตร

=======================

 

 

 

วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร

 

 

         วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร หรือ วัดโพธิ์ ท่าเตียน เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก และเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 1 แห่งราชวงศ์จักรี เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาวัดโพธารามวัดเก่าที่เมืองบางกอกครั้งกรุงศรีอยุธยา เป็นวัดหลวงข้างพระบรมมหาราชวัง ที่ใต้พระแท่นประดิษฐานพระพุทธเทวปฏิมากรพระประธานในพระอุโบสถ เป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิของพระองค์ท่านไว้ 

 

 

        โดยในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก วัดโพธิ์ จะเป็นสถานที่สำคัญอีกหนึ่งแห่งในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค

=======================

 

 

 


วัดบวรนิเวศวิหาร

 

 

          วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร แต่เดิม เป็นวัดที่สร้างขึ้นใหม่ ตั้งอยู่ใกล้กับวัดรังษีสุทธาวาส ต่อมา กรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพ ในรัชกาลที่ 3 ได้รวมวัดทั้ง 2 เข้าเป็นวัดเดียว

         พระอารามนี้เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชถึง 4 พระองค์ และเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาของสงฆ์แห่งแรกในประเทศอีกด้วย

 

 

        โดยในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก วัดบวรนิเวศวิหาร จะเป็นสถานที่สำคัญอีกหนึ่งแห่งในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค

=======================

 

 

 


วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร

 

 

          วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร วัดประจำรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 7 โดยรัชกาลที่ 5 โปรดให้สร้างเพื่อเป็นวัดประจำรัชกาลของพระองค์ เริ่มก่อสร้าง เมื่อปี พ.ศ.2412 มีลักษณะผสมระหว่างสถาปัตยกรรมไทยกับสถาปัตยกรรมตะวันตก คือ ลักษณะภายนอกเป็นสถาปัตยกรรมไทย ส่วนภายในออกแบบตกแต่งอย่างตะวันตก

 

 

         วัดราชบพิธฯ สร้างโดยเลียนแบบจาก 2 วัด คือวัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีดาราม ซึ่งเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 4 และวัดพระปฐมเจดีย์ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม นับเป็นพระอารามหลวงสุดท้าย ที่พระมหากษัตริย์ทรงสร้างตามโบราณราชประเพณีที่มีการสร้างวัดประจำรัชกาล

        โดยในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก วัดราชบพิธฯ จะเป็นสถานที่สำคัญอีกหนึ่งแห่งในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค

 

 

 

 

อัพเดทที่พักสุดชิล ที่เที่ยวสุดมันส์ ที่กินสุดฮิป

ติดตาม travel.trueid.net ได้ที่