รีเซต

ฟรี!!! เที่ยวเกาะเกร็ดใกล้กรุงฯ ล่องเรือไหว้พระ 9+1 วัด

ฟรี!!! เที่ยวเกาะเกร็ดใกล้กรุงฯ ล่องเรือไหว้พระ 9+1 วัด
แมวหง่าว
23 มกราคม 2558 ( 06:50 )
25.6K

โครงการล่องเรือไหว้พระ 9+1 วัดรอบเกาะเกร็ด ณ ตลาดริมน้ำวัดใหญ่สว่างอารมณ์ ไม่เก็บค่าใช้จ่ายใดๆ หวังเพียงให้นักท่องเที่ยวได้รับความสบายใจจากการทำบุญ ท่องเที่ยว ชมวิถีชีวิตวัฒนธรรมชาวนนทบุรี รวมถึงช่วยหารายได้ให้วัดต่างๆ ได้มีงบประมาณในการบูรณะจากอุทกภัย และอายุที่ยาวนานจนเป็นโบราณสถาน


นอกจากนี้ยังเป็นการกระจายรายได้ให้ชุมชน ชาวบ้านได้ขายสินค้าต่างๆ แก่นักท่องเที่ยวด้วย  เปิดให้บริการทุกวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ รอบเวลา 10.30 น. และ 12.00 น. ใช้เวลารอบละ 5 ชั่วโมง ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

การเดินทางมาวัดใหญ่สว่างอารมณ์ ถนนราชพฤกษ์ ตำบลอ้อมเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี (จุดสังเกตมีร้านแมคโดนัลด์อยู่ปากซอย)

รถส่วนตัว : สามารถมาได้ทั้งจากถนนรัตนาธิเบศร์ ถนนกาญจนาภิเษก ถนนชัยพฤกษ์และถนนแจ้งวัฒนะ // ห่างจากโรงเบียร์ฮอลแลนด์ประมาณ 1 กิโลเมตร และเข้าซอยแมคโดนัลด์อีกประมาณ 1 กิโลเมตร

รถโดยสาร : ไม่มีรถประจำทางที่มาถึงวัดโดยตรง นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถโดยสารสาย 18 / 203 / 69 เข้าซอยท่าอิฐ และต่อรถแทกซี่หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างมาถึงวัด

เรือ : ไม่มีเรือด่วนจากท่าน้ำนนท์ นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นเรือโดยสารได้จากท่าน้ำปากเกร็ดใต้สะพานพระราม 4 มาขึ้นท่าเรือวัดใหญ่สว่างอารมณ์

 

เมื่อมาถึงวัดวัดใหญ่สว่างอารมณ์แล้วเดินเข้าไปแล้วเลี้ยวขวาไปที่กองอำนวยการหน้าโบสถ์  เพื่อรับบัตรนำเที่ยวสำหรับลงเรือ  ที่สำคัญท่านควรโทร.ไปจองล่วงหน้าก่อนวันหรือสองวันก่อนไปเที่ยว  และควรระบุเที่ยวกี่โมงมิเช่นนั้นอาจจะเสียโอกาสดีๆ นี้ได้ เพราะมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเป็นจำนวนมากและเรือรับได้จำนวนจำกัด


จุดเริ่มต้นของการบริการล่องเรือไหว้พระรอบเกาะเกร็ดเริ่มจากวัดแรก ณ วัดใหญ่สว่างอารมณ์ เดิมชื่อ “วัดน้อย” อยู่ริมคลองบางน้อย พระประธานปางสมาธิ ต่อมาเปลี่ยนเป็น ‘วัดใหญ่ยิ่ง’ หลังเสียกรุงศรีอยุธยา วัดได้กลายเป็นวัดร้างจน  พ.ศ. 2463 สมเด็จพระมหาสมณะเจ้ากรมพระยาวิชิรญาณวโรรส ได้เสด็จมาประทับเดือนเศษ ทรงพอพระทัย ประทานเงินให้สร้างวัด และประทานชื่อชื่อ ‘วัดใหญ่สว่างอารมณ์’  วัดนี้มีตลาดริมน้ำให้เดินช้อปเตรียมเสบียงไว้สำหรับนั่งเรือใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง ก่อนออกเดินทางไปยังวัดที่หนึ่ง


1.วัดบางจาก อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2365 ย้ายมาจากวัดบางภูมิร้างมีหลวงพ่อโตสีทองอร่ามอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ได้ทำการยกพระอุโบสถ จนพบพระพุทธโบราณ ใต้ฐานชุกชี ผู้คนพากันไปลอดพระอุโบสถ 3 รอบ อายุเกือบ 200 ปี เสริมศิริมงคล ขอพรให้จากทุกข์จากโศกจากโรคจากภัยไร้เคราะห์  มีแต่ความเจริญทั้งลาภยศสรรเสริญ


2. วัดเสาธงทอง สร้างเมื่อพ.ศ. 2313  ตั้งอยู่บนเกาะเกร็ดริมแม่น้ำเจ้าพระยา เดิมชื่อ ‘วัดสวนหมาก’ มีพระประธานเก่าแก่ปางมารวิชัย มีพระเจดีย์ย่อมุมไม้ 20 พระเจดีย์ระฆังคว่ำ พระเจดีย์กลีบมะเฟืองอวบ (องค์สุดท้ายของโลก)  บ่อน้ำหลวงตากลับ และต้นยางอายุ 200 ปี มีนักท่องเที่ยวมาสักการะบูชาเป็นจำนวนมาก


3. วัดไผ่ล้อม ตั้งอยู่บนเกาะเกร็ดริมแม่น้ำเจ้าพระยา  มีโบสถ์สมัยอยุธยาที่งามมากแห่งหนึ่ง ลายจำหลักไม้ที่หน้าบัน เป็นลายดอกไม้งามมาก เช่นเดียวกับสาหร่ายและรวงผึ้ง แกะสลักไม้ได้งดงาม หลังพระอุโบสถ มีพระมหาเจดีย์ชเวดากอง (จำลอง) สีทองอร่ามอันศักดิ์สิทธิ์


4. วัดปรมัยยิกาวาส หรือ “วัดปากอ่าว” ในสมัยรัชกาลที่ 5 โปรดให้ปฏิสังขรณ์วัดใหม่ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล สนองพระคุณสมเด็จพระเจ้าบรมอัยยิกาเธอกรมพระยาสุดารัตน์ราชประยูรผู้ทรงอภิบาลพระองค์มาแต่ทรงพระเยาว์ และพระราชทานวัดว่า “วัดปรมัยยิกาวาส”และประดิษฐ์ “พระนนทมุนินท์”พระประจำจังหวัดนนทบุรี

 

(วัดที่ 2-4 ตั้งอยุ่บนเกาะเกร็ด มีเวลาให้ไหว้สักการะพร้อมช๊อปปิ้ง 1 ชั่วโมง แล้วมาขึ้นเรือ)


5.วัดฉิมพลี ชื่อเดิม “วัดป่าฝ้าย” ได้ถูกทิ้งร้างพร้อมกับวัดป่าเลไลย์ที่อยู่ติดกัน รัชกาลที่ 2 ประมาณพ.ศ.2358 ได้บูรณะวัดครั้งใหญ่ และเปลี่ยนชื่อ”วัดฉิมพลีสุทธาวาส” มีปูชนีย์วัตถุที่สำคัญ คือ อุโบสถขนาดเล็กแต่มีความงดงามเป็นเลิศ มีเจดีย์มุมสิบสองและเจดีย์องค์เล็ก 4 องค์ล้อมเจดีย์องค์ใหญ่


6. วัดกลางเกร็ด มีพระอุโบสถขนาดเล็กเก่าแก่มาก(ปรกติไม่เปิด) พระประธานปางมารวิชัย และมีพระวิหารพระพุทธไสยาสน์ ยาว 22 เมตร อายุกว่า 100 ปีที่มีผู้นับถือจำนวนมาก ตั้งวัดเมื่อ  พ.ศ. 2310 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ. 2332


7. วัดเชิงเลน สร้างในสมัยอยุธยาตอนกลาง พร้อมวัดท้ายอ่าว (ร้าง) และวัดเชิงท่า(ร้าง) ทรุดโทรมลงจนปี พ.ศ.2450 ได้รับการพัฒนาและขอรับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ 1 เม.ย. 2456 พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลีฯ หล่อพระพุทธรูปทรงบาตร ประดิษฐ์บริเวณจุดตัดแม่น้ำ


8. วัดท่าอิฐ  ตั้งวัดเมื่อ พ.ศ.2316 ชาวมอญ ปั้นอิฐและเป็นท่าน้ำนำอิฐลงเรือ ไปสร้างกรุงธนบุรีและกรุงเทพมหานคร ในรัชกาลพระเจ้าตากสินและรัชกาลที่ 1  พ.ศ. 2351 รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าให้พระยาพลเทพ(บุญนาค) นำชาวมุสลิมมาอาศัยอยู่เป็นชุทชนใหญ่จนทุกวันนี้ มีพระพุทธรูปปางประทานพรทรงพม่าที่มีคนนับถือกันมากอยูในมณฑปริมน้ำ


9. วัดแสงสิริธรรม เดิมชื่อ “วัดขวิด” เดิมเป็นวัดร้างสร้างขึ้นมาใหม่ พ.ศ.2327 ได้รับพระราชทานวิสิงคามสีมา เมื่อปี พ.ศ.2334 ภายในวัดมีอุโบสถกว้าง 8 เมตร ยาว 24 เมตร บูรณะเมื่อปี พ.ศ.2392 มีลักษณะทรงโบราณเครื่องบนไม้สัก หลังคามุงกระเบื้องดินเผา พระประทานหลวงพ่อโตปางมารวิชัย และมีหลวงพ่อดำ เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ หล่อด้วยโลหะสัมฤทธิ์ลงรักปิดทอง ปางมารวิชัย เคยสูญหายและถูกขโมยไปหลายครั้งแล้วแต่ก็ได้คืนทุกครั้ง


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

กองส่งเสริมคุณภาพชีวิต องค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี โทร. 0-2591-6700 / 08-1337-6754 / 08-9201-0957 / 08-1398-5806 / 08-9455-3868


 

ขอขอบคุณข้อมูล และภาพประกอบ : tiewpakklang



ติดตาม travel.truelife.com ได้อีกช่องทางที่

FB : Travel Truelife

 ทุกเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว อาหาร และสุขภาพ คลิกที่http://travel.truelife.com