รีเซต

ประกาศมรดกโลกแห่งใหม่ โดยยูเนสโก ประจำปี 2018

ประกาศมรดกโลกแห่งใหม่ โดยยูเนสโก ประจำปี 2018
แมวหง่าว
3 กรกฎาคม 2561 ( 07:09 )
4.1K
1

    ประกาศผลแล้วสำหรับมรดกโลกแห่งใหม่ ที่ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนไปในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกของยูเนสโกครั้งที่ 42 ที่กรุงมานามา ประเทศบาห์เรน ระหว่างวันที่ 24 มิถุนายน ถึง 4 กรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมา และนี่คือบางส่วนของมรดกโลกแห่งใหม่ที่เพิ่งได้รับการประกาศออกมาครับ

 

 

1. Ancient port city: Qalhat, Oman

 

 

     เมืองท่าโบราณคาลฮัต ประเทศโอมาน : เป็นเมืองท่าโบราณที่ปัจจุบันกลายมาเป็นเมืองสำคัญทางชายฝั่งตะวันออกคาบสมุทรอาระเบีย ในช่วงศตวรรษที่ 11-15

 

2. Hidden Christian sites: Nagasaki, Japan

 

 

     โบสถ์ที่ถูกซ่อนในนางาซากิ ประเทศญี่ปุ่น : เป็นที่ตั้งของหมู่บ้าน 10 แห่ง ปราสาท และโบสถ์คริสต์ ที่สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 18-19 ซึ่งเป็นช่วงที่ศาสนาคริสต์ถูกห้ามในญี่ปุ่น โบสถ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงกิจกรรมของคณะมิชชันนารี และชาวคริสต์ยุคแรกที่เข้ามาตั้งรกรากในญี่ปุ่น

 

3. Gothic and Art Deco architecture: Mumbai, India

 

 

      สถาปัตยกรรมโกธิค และอาร์ต เดโค ประเทศอินเดีย : ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 มุมไบกลายมาเป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญของโลก จึงได้ถูกพัฒนาตามแผนสร้างเมืองให้สวยงามเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย สะท้อนให้เห็นถึงยุคใหม่ของมุมไบในช่วงศควรรษที่ 19-20

 

4. Evolving cultural oasis: Al-Ahsa, Saudi Arabia

 

 

     โอเอซิส อัล ฮาซา ประเทศซาอุดีอาระเบีย : นับเป็นโอเอซิสที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประกอบด้วยสวนปาล์มกว่า 2.5 ล้านต้น สวน คลอง น้ำพุ บ่อน้ำ ตลอดจนสิ่งที่ปลูกสร้างอาคารบ้านเรือนตั้งแต่ยุคหินใหม่ มาจนถึงปัจจุบัน

 

5. Mountain monasteries: South Korea

 

MeganYoungmee - Own work

 

     ภูเขาซันซา ประเทศเกาหลีใต้ : เป็นศูนย์รวมความศรัทธาของศาสนิกชนมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 มีวัดอยู่ทั้งหมด 7 แห่ง ซึ่งแต่ละแห่งมีสนามหญ้า ห้องโถง ศาลา และอุโบสถที่งดงาม วัดเหล่านี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ดำรงมาถึงทุกวันนี้ในฐานะศูนย์รวมความเชื่อ และสถานที่สำหรับกิจกรรมทางศาสนา

 

6. Sassanid archaeological landscape: Iran's Fars region

 

 

     แหล่งโบราณคดีจักรวรรดิแซสซานิด ประเทศอิหร่าน : ที่นี่เป็นการผสมผสานระหว่างป้อมปราการ วัง และเมือง ในยุคจักรวรรดิแซสซานิด ช่วงศตวรรษที่ 3-5 โดยยูเนสโกได้กล่าวว่านอกจากที่นี่จะแสดงให้เห็นถึงการใช้ภูมิประเทศให้เป็นประโยชน์ต่อการสร้างเมืองแล้ว ยังแสดงให้เห็นอิทธิพลของศิลปะโรมันที่มีต่อแถบนี้ด้วย

 

7. Dry-walled settlement: Kenya

 

 

     กำแพงหิน แหล่งโบราณคดีธิมลิค โอฮิงกา ประเทศเคนยา : เป็นกำแพงหินเรียงที่ใหญ่ และยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ คาดว่าสร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 เพื่อใช้ต้อนสัตว์ โดยยูเนสโกยกให้เป็นตัวอย่างของชุมชนปศุสัตว์ยุคแรกๆ ในพื้นที่ลุ่มทะเลสาบวิกตอเรีย

 

ที่เที่ยวมรดกโลกที่น่าสนใจ

สุโขทัย ติดอันดับ 8 เมืองอารยธรรมเก่าแก่ ที่สวยที่สุดในโลก

20 สถานที่ มรดกโลกโดยยูเนสโก้ ที่สวยที่สุดในโลก

 

 

อัพเดทที่พักสุดชิลล์ ที่เที่ยวสุดมันส์ ที่กินสุดฮิป

ติดตาม travel.trueid.net ได้ที่