รีวิว Red Lobster Cafe ร้านดังจากอเมริกา ที่ EMSPHERE สายกินห้ามพลาด

รีวิว Red Lobster Cafe ร้านดังจากอเมริกา ที่ EMSPHERE สายกินห้ามพลาด
MEEKAO
20 ธันวาคม 2566 ( 12:30 )
1.2K

     วันนี้เราขอพาทุกคนมาเช็คอินกันที่ ร้านอาหาร EmSphere (เอ็มสเฟียร์) กับรีวิวจัดเต็ม ร้าน Red Lobster Cafe ร้านล็อบสเตอร์เจ้าดังจากอเมริกา ที่เค้ามาเปิดสาขาล่าสุดกันที่ The EmSphere นี่เอง และสำหรับสาขานี้เค้าก็มาในคอนเซ็ปต์ Lobster Café แห่งแรกในประเทศไทย ผสมผสานความสนุก และรสชาติความอร่อยที่เข้ากันอย่างลงตัว โดยที่ร้านก็พร้อมเสิร์ฟทั้ง เมนูล็อบสเตอร์ตัวเป็นๆ และอาหารทะเลหลากหลายรายการ ถ้าอยากรู้แล้วว่าที่นี่มีเมนูเด็ดๆ อะไรบ้าง ก็ตามเรามาดูกันเลย

 

 

รีวิว Red Lobster Cafe ร้านอาหาร EMSPHERE

 

     ร้าน Red Lobster สาขา The EmSphere ตัวร้านจะถูกออกแบบมาในคอนเซ็ปต์ร้านอาหารในสไตล์คาเฟ่ ในบรรยากาศเท่ๆ ชิลๆ การตกแต่งจะเน้นใช้โทนสีดำ-แดง แทรกความเป็นทะเลลงไปด้วยโทนสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ในดีเทลต่างๆ โดยเฉพาะเส้นสายลายโค้งที่เปรียบเสมือนเกลียวคลื่น ด้านหน้าร้านใครเดินผ่านก็ต้องสะดุดตากับ Lobster Tank ตู้ล็อบสเตอร์ตัวใหญ่ๆ ตัวเป็นๆ (Live Lobster) บอกเลยว่าสดกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

 

 

เมนูแนะนำ Red Lobster เอ็มสเฟียร์

 

 

     มาเปิดต่อมรับรส เรียกน้ำย่อยกันด้วยเมนูแรก Cheddar Bay Biscuits (เชดดาร์ เบย์ บิสกิต) บิสกิตสไตล์อเมริกัน ซึ่งถือเป็นเมนู Signature ของร้าน Red Lobster มาตั้งแต่ปี 1992 เพราะถ้าพูดถึงร้าน Red Lobster ลูกค้าทุกคนจะนึกถึง Cheddar Bay Biscuits เป็นอันดับแรกจนกลายเป็นเมนูสัญลักษณ์ของร้าน บิสกิตทุกชิ้น อบสดใหม่ทุกวัน ด้วยแป้งสูตรลับเฉพาะของทางร้านผสมกับ Cheddar Cheese คุณภาพดี และเคลือบด้านบนด้วยเนยกระเทียมสูตรพิเศษ ทำให้ได้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เรียกได้ว่าหอมฟุ้งตั้งแต่ออกจากครัวเลยจ้า

 

 

     และตามมาที่อีกหนึ่งเมนูเบาๆ อย่าง Caesar Salad with Shrimp ซีซาร์สลัดกุ้ง ผักคอสคลุกเคล้าน้ำสลัดครีมโฮมเมด รสชาติเข้มข้น ทานพร้อมครูตองซ์ เบคอนกรอบ และโรยชีสขูด ท็อปด้วยกุ้งที่ถูกปรุงรสแล้วและย่างบนกระทะจนหอม เนื้อหวานเด้ง ทานพร้อมกันรสชาติเข้ากันสุดๆ

 

 

     ต่อเนื่องด้วยเมนูไฮไลท์ของที่ร้าน ก็จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากเมนู Live Maine Lobster with Loaded Cheese & Butter ไลฟ์ เมน ล็อบสเตอร์ อบชีสและเนย รสเข้มข้นด้วยชีสหลากชนิดที่ผสมกันอย่างลงตัว หอมและอร่อยยิ่งขึ้นด้วยชีส Gruyère (กรูแยร์) ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นชีสที่อร่อยที่สุดชนิดหนึ่ง และความพิเศษที่มีเฉพาะร้าน Red Lobster สาขาประเทศไทยก็คือ ทางร้านจะเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บจัดจ้าน เรียกได้ว่าถูกปากคนไทยแน่นอน

 

 

     ล็อบเตอร์ที่ทางเลือกใช้จะเป็น Live Lobster นำเข้า ล็อบสเตอร์ตัวเป็นๆ สายพันธุ์เมน (Maine Lobster) ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ตัวโต ก้ามใหญ่ เนื้อแน่น เด้ง หวานมากที่สุดในหมู่ล็อบสเตอร์ เพราะมาจากน่านน้ำมหาสมุทรแอตแลนติค ซึ่งเป็นกระแสน้ำเย็น ล็อบสเตอร์จึงหวานกว่าล็อบสเตอร์ที่อาศัยอยู่ในน้ำอุ่น มาถึงจุดนี้ใครเริ่มอยากพิสูจน์ความอร่อยก็อย่ารอช้า ตรงมาที่ร้านกันได้เลย

 

 

     เครื่องติดแล้วก็อย่ารอช้า เพราะเมนูต่อมาคือ Spaghetti Black n' Pink with Mixed Seafood and Lobster สปาเก็ตตี้เส้นหมึกดำพิงก์ซอส ซีฟู้ดรวม และท็อปด้านบนด้วยล็อบสเตอร์ตัวโต เส้นสปาเก็ตตี้เสิร์ฟด้วยความสุกแบบอันเดนเต้ คลุกเคล้าด้วยพิงก์ซอส ซึ่งเป็นการนำซอสพาสต้ามะเขือเทศสูตรโฮมเมดมาผสมกับครีม ออกมาเป็นพิงก์ซอสที่มีรสชาติเปรี้ยวๆ จากซอสมะเขือเทศ และมีความหอมมันจากครีม ทานคู่กับซีฟู้ดรวม คาลามารี หอยแมลงภู่ กุ้ง และล็อบสเตอร์ จานเดียวมาครบแบบเครื่องแน่นๆ

 

  • พิเศษ ลูกค้าทรู ลูกค้าดีแทค รับลด 10% เมื่อทานอาหารครบ 5,000 บาทขึ้นไป / เซลล์สลิป

 

คลิกรับส่วนลดร้าน Red Lobster ได้ที่นี่

 

 

     อีกหนึ่งเมนูซีฟู้ดที่เราอยากแนะนำก็คือ Pan-Fried Sea bass with Garlic Lemon Butter Sauce (แพน-ฟรายด์ ซีแบส วิท การ์ลิก เลมอน บัตเตอร์ซอส) ปลากระพงซอสเนยเลมอน เนื้อปลากระพงชิ้นใหญ่ แพน ฟรายด์ จนได้ความสุกกำลังดี ราสซอสเลมอนบัตเตอร์ ทานคู่กับมันบดและผักโขมผัดเบคอน อร่อยลงตัวแบบไม่หนักท้อง

 

 

     สำหรับใครที่มาเป็นกลุ่มใหญ่ หรือใครที่เป็นสายชีส ต้องห้ามพลาดเมนูนี้เลย Cheesy Lobster & Shrimp Dip (ชีสซี่ ล็อบสเตอร์ แอนด์ ชริมพ์ ดิป) เมนูของทานเล่น เรียกน้ำย่อยที่สายชีสไม่ควรพลาด ชีสดิปสูตรลับของที่ร้านที่มีส่วนผสมของชิ้นล็อบสเตอร์และกุ้งเสิร์ฟพร้อมตอร์ติยาชิปส์ อร่อยนัว เคี้ยวเพลิน ยิ่งถ้ามากับเดอะแกงค์บอกเลยว่าเม้าเพลินกินเพลินแน่นอน

 

 

     ทานคาวเสร็จแล้วจะขาดของหวานไปได้ยังไง ปิดท้ายมื้อกันด้วยเมนูของหวาน และเครื่องดื่มตัดเลี่ยน Mixed Berry French Toast เฟรนซ์โทสต์เนื้อนุ่ม ทานคู่กับมิกซ์เบอร์รี่ และไอศกรีมมะม่วง เฟรนซ์โทสต์ของที่ร้านเสิร์ฟมาในขนาดที่กำลังพอดี ขนมปังเนื้อนุ่มมากๆ ทานพร้อมไอศกรีมมะม่วงเปรี้ยวๆ หวานๆ อร่อยลงตัวมากๆ และที่ร้านยังมีเมนูกาแฟ สำหรับใครที่เป็นสายกาแฟ รวมทั้งเครื่องดื่มม็อกเทลไม่มีแอลกอฮอล์ เปรี้ยว ซ่า สดชื่นลงตัว ลองสั่งมาปิดท้ายมื้ออาหารรับรองว่าชื่นใจสุดๆ

 

 

     บอกเลยว่านี่เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารสำหรับหนุ่มสาวชาวออฟฟิศในเมือง เพราะที่นี่เป็นทั้งร้านอาหาร ร้านแฮงค์เอาท์หลังเลิกงาน ด้วยบรรยากาศร้านเรียบหรูแบบสบายๆ และยังง่ายต่อการเดินทางไม่ว่าจะเป็นรถส่วนตัวหรือรถไฟฟ้า เมนูอาหารของที่ร้านก็มีให้เลือกหลากหลาย และไว้ใจได้เรื่องคุณภาพ ความสดใหม่ เย็นนี้ใครมีนัดแฮงค์เอาท์แล้วยังไม่รู้จะไปปักหมุดเช็คอินกันที่ไหน ก็ลองใส่ร้านนี้เป็นตัวเลือกต้นๆ ได้เลย!

 

 

ข้อมูลร้าน Red Lobster Cafe เอ็มสเฟียร์

  • พิกัด : https://maps.app.goo.gl/PNSjE4gxYgSSwxW68
  • ที่อยู่ : EmSphere ชั้น GM ถนน สุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
  • ร้านเปิดบริการ : 10.00 - 22.00 น.
  • โทร : 06-5512-9741
  • ที่จอดรถ : มี
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/redlobsterthailand

 

 

บทความที่คุณอาจสนใจ

 

ยอดนิยมในตอนนี้