รีเซต

แบกเป้เที่ยว มอสโคว 4 วัน ที่ รัสเซีย อลังการงานสร้าง ตั้งแต่บนดินถึงใต้ดิน

แบกเป้เที่ยว มอสโคว 4 วัน ที่ รัสเซีย อลังการงานสร้าง ตั้งแต่บนดินถึงใต้ดิน
เอิงเอย
2 กุมภาพันธ์ 2561 ( 05:05 )
110.3K
1

มอสโคว คือ เมืองหลวงของ รัสเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่ใหญ่มากกก แถมมีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศไทยของเราจนคนไทยทุกคนได้วีซ่าไปเที่ยวที่รัสเซียฟรีๆ อีกด้วยค่ะ แต่ไหง เรามักจะมองข้ามประเทศนี้ไป เอาล่ะ! วันนี้เราจะมาเล่าให้ฟัง ว่า การแบกเป้เที่ยว มอสโคว 4 วันของเรา มันมีอะไร ทำไมถึงน่าไปเที่ยว ตามมาได้เลยค่า !

 

 

 

Tips การเตรียมตัวเที่ยวมอสโคว

 

1. เที่ยวมอสโคว แค่ 4 วันก็เอาอยู่ ! ใช่ค่ะ 4 วัน ชิลล์ๆ เดินถ่ายรูปเล่น มีเวลาช้อปปิ้ง แต่คนส่วนมาก มักจะไปเมืองข้างเคียงถ้ามีเวลามากขึ้นกว่านั้น เช่น เมืองซากรอส (Zagorsk) ซึ่งห่างจากมอสโควไป ประมาณ 80 กิโล หรือว่าจะข้ามไป เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (St.Petersberg) อีกเมืองที่น่าสนใจ และสวยจนได้รับชื่อเล่นว่า “ราชินีแห่งยุโรปเหนือ”

 

 

2. มีบินตรงยาวๆ ประมาณ 10 ชั่วโมง ก็ถึงแล้ว แถมราคาไม่ได้แรง ถ้ารู้จักวางแผนและสอยตั๋วโปร

ปัจจุบันมี 2 สายการบิน ที่บินตรงจาก สุวรรณภูมิ ได้แก่ Aeroflot สายการบินประจำชาติรัสเซีย และ การบินไทย แต่ทั้ง สองสายการบินนี้ ลงกันคนละสนามบิน! เช็คให้ดีๆ ค่ะว่าสะดวกที่ไหน ซึ่งบอกเลยใน มอสโคว มีสนามบินนานาชาติ ทั้งหมด 3 สนามบิน เยอะไปอี๊ก ได้แก่ 1.Domodedovo (ดามาเดียตดาวา) จะมี การบินไทย, Emirates, Qatar 2.Sheremetyevo (เชเรเมียทเทวา) สายการบิน Aeroflot และ 3.Vnukovo (วานูคาวา)

 

 

นอกจากบินตรงแล้ว การมาเที่ยวรัสเซีย ยังสามารถเลือกบินแบบแวะพักด้วย ซึ่งสายการบินที่ได้รับความนิยม สำหรับการแวะพัก คือ สายการบินแห่งตะวันออกกลาง Emirates และ Qatar โดยการบินแบบแวะพัก จะมีข้อได้เปรียบคือ สามารถลงที่ มอสโคว และกลับที่เซนต์ปีเตอร์าสเบิร์กได้ หากตั้งใจไปเที่ยว 2 เมือง และโดยสารระหว่างเมืองเป็น รถไฟความเร็วสูงเอาจะสะดวกมากๆ ค่ะ

– ปกติ “บินตรง” ราคาจะอยู่ที่ Direct 26,xxx – 30,xxx ค่ะ แต่หลายๆ ครั้งจะชอบมี โปรโมชั่นออกมา ซึ่งจะประมาณ 19,xxx – 22,xxx

– ในขณะที่บินแบบ แวะพักที่ตะวันออกกลาง ก็จะมีโปรอยู่บ่อยๆ ยังไงก็ต้องลองเช็ค ตามเพจโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินต่างๆ เนอะ

 

 

3. เที่ยวง่าย แม้จะไม่ค่อยมีภาษาอังกฤษกำกับ

– ระบบขนส่งสาธารณะของมอสโคว ถือว่าดีมาก มีแผนที่ บอกชัดเจน
– คนไทยอย่างเรา สามารถโหลดแอป Moscow Metro Map ไปเทียบเคียงได้
– ที่เที่ยว ส่วนมากจะกระจุกบริเวณ Red Square และด้วยความยิ่งใหญ่ของสถาปัตยกรรม มันทำให้เราเดินไปถึงได้ง่ายโดยไม่ต้องถามคนท้องที่

เอาล่ะ หลังจากที่เรารู้ว่าทำไม “มอสโคว” ถึงน่าไปแล้ว มาลองดูแพลนการเดินทางกันดีกว่า ว่าที่บอกว่า 4 วัน ก็เอาอยู่ นี่จะเป็นยังไง

========================

 

 

Day 1

Departure & Settle Down in Moscow

 

เริ่มต้นกันที่ สุวรรณภูมิ อย่างที่บอกไป การเดินทางไปเที่ยวรัสเซีย ไม่ต้องขอวีซ่า คนไทยอย่างเราไปก็ชิลล์เลย การเดินทางครั้งนี้ เราเลือกบินตรง ด้วยสายการบิน Aeroflot บินยาวๆ 10 ชั่วโมง ถึงกรุงมอสโคว เลยค่ะ

 

 

ไฟล์ทเราออกจากกรุงเทพ ราวๆ 10 โมงเช้า ไปถึงที่สนามบิน Sheremetyevo (เชเรเมียทเทวา) ประมาณ 4 โมงเย็น โดยที่ฟ้าเกือบมืดแล้ว เนื่องจากเราไปในช่วงปลายตุลาคม ที่กำลังจะเข้าหน้าหนาวอย่างเป็นทางการ (นี่ยังไม่หน้าหนาว ก็ 0 องศา รัวๆ จ้า)

ต.ม. ที่นี่แอบเข้มงวดนะ เราไม่รู้ว่าเขาเข้ม หรือหน้าพี่แกขรึม 55555 แต่มันฟีลลิ่งแบบ อย่ากักหนูเลยเด้อ 555 ซึ่งเอาจริงๆ มันไม่มีอะไรหรอก ก็ทำตามขึ้นตอนของเขาไป

รับกระเป๋าเสร็จ ก่อนออกจากสนามบิน เราต้องแลกเงิน Rubles เนื่องจากเราถือ Euro และ USD มา (แลกให้เพียงพอใช้ก่อน ไม่ต้องเยอะน้า เรทแรงอยู่นะ)

 

 

หลังจากแลกเงินเสร็จ มนุษย์ Gen Y อย่างเรา ขาดไม่ได้คืออินเตอร์เน็ตนะคะ ฉะนั้นต้องซื้อซิม ก่อนออกจากสนามบิน ซึ่งซิมการ์ด ก็มีหลากหลายแบรนด์ ส่วนตัวเรา เราเลือก “Megafon” สีเขียวเข้มๆ ด้วยเหตุผลเดียว คือเจอ Official Booths ตั้งอยู่ทางออก ส่วนเครือข่ายอื่นๆ เป็นลักษณะเหมือน ร้านใน MBK ขาย เรากลัวคุยกับคนขายไม่รู้เรื่อง 555 ซึ่งโปรที่เราเลือกประมาณ 390 Rub หรือ 220 บาทไทยค่า เล่นเน็ตได้ประมาณ 3GB โทรได้ SMS ได้ฟรี

 

 

หลังจากเสร็จภารกิจ เราก็ตามหาคนขับ เนื่องจากเราติดต่อจ้างแท็กซี่กับอพาร์ทเมนท์ไว้ หลายๆ คนอาจจะมองว่าขึ้นแท็กซี่อาจจะแพง แต่ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า ถ้าไปสัก 4 คน จ้างแท็กซี่จะดีกว่า ที่พักเราซึ่งอยู่ใกล้ Red Square / Arbat Street (Inner City) จากสนามบินไปก็ประมาณ 2,500 RUB ในขณะที่ การเดินทางแบบ Aeroexpress ตกคนละ 470 Ruble แล้ว ยังไม่ได้รวมค่า Metro และแรงกายแรงใจ ที่ต้องยกกระเป๋าอีกนะตัว!

เช็คอินเข้าที่พัก ห้องที่เลือกมาพักคืนนี้เป็นอพาร์ทเมนต์ 2 ห้องนอน พร้อมครัว และห้องน้ำ จบวันแรก ถือว่าเป็นการเดินทางมาตั้งหลัก ก่อนลุยที่มอสโคว ละกัน!

========================

 

 

Day 2

Kremlin & Red Square

 

 

หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ เราออกจากห้องประมาณ 09.30 น. จุดมุ่งหมายของเราวันนี้คือ Kremlin Grand Palace และ Red Square ค่ะ ซึ่งอพาร์ทเมนต์ของเราอยู่ติดกับสถานี Smolenskaya (Filevskaya Line) แต่จังหวะที่เรากำลังจะลงไป Metro เราได้ search ใน Google Map แล้วพบว่า แกรรร ไป Uber 4 คน ถูกกว่า Metro นะ ไม่ต้องเดินด้วย!

ค่า Metro คนละ 55 RUB เราไปกัน 4 คน 220 RUB แต่ค่า Uber นั่งสบายๆ ไม่ต้องเดิน 4 คน 170 RUB ทันใดนั้น เราก็จิ้มไปที่ Uber ค่ะ แล้วก็รอ 5 นาที รถ Uber ก็มารับถึงที่ โมเม้นท์ที่เดินทางแล้วรู้สึกตัวเองได้ของถูกนี่มันรู้สึกชนะจริงๆ

 

 

ไม่เกิน 10 นาที เราก็เดินทางมาถึงทางเข้าของ Kremlin Grand Palace ซึ่งเราต้องซื้อบัตรเพื่อจะเข้าไปชมข้างใน ค่าบัตรเข้าชม Kremlin 500 RUB ซึ่งในส่วนนี้จะไม่ใช่ราคาที่เข้าไปชม Armoury Chambre (700 RUB) และห้อง Diamond Fund (500 RUB) นะคะ สองอันนี้ต้องซื้อเพิ่ม และมาเป็นรอบๆ ตามที่กำหนดไว้

 

 

ส่วนเราเลือกซื้อแต่ Kremlin ค่ะ เพราะ Fully Booked หมดแล้ว เสียดายนะ แต่ไม่เสียใจ เราไปลุยถ่ายรูปข้างนอกดีกว่า เพราะข้างในเค้าห้ามถ่ายรูป ><

หลังจากที่ได้ตั๋ว เราต้องผ่านที่สแกนกระเป๋า เหมือนสนามบินเลยแกรรร Security หนักมาก แต่พอเมื่อพ้นตรงไหนมาได้ ยอมรับเลย รัสเซียยิ่งใหญ่จริงๆ ภายใน Kremlin Grand Palace ก็จะมี พระราชวัง มหาวิหารอัสสัมชันค่ะ ซึ่งยิ่งใหญ่จนกล้องเก็บไม่หมดเลยยย

 

 

ออกจาก Kremlin เราเดินทะลุออกอีกฝั่งค่ะ ซึ่งฝั่งนี้จะเชื่อมกับ Red Square ในทิศของสุสานเลนินพอดี แต่ตอนเราออกมาสุสานเลนินได้ปิดแล้ว (ปิด 1 pm)

ในส่วนของ Red Square ก็จะประกอบไปด้วย
– St. Basil’s Cathedral
– Lenin’s Mausoleum (สุสานเลนิน)
– Gum Department Store
– Kazan Cathedral
– State Historical Museum

 

 

ซึ่งบริเวณ Red Square จะมี Free Tour ทุกวันด้วยนะ ตอน 10.45 แต่ สำหรับเราแล้ว มาถึงเราเริ่มต้นด้วยถ่ายกับสัญลักษณ์ของเมืองกันก่อน และจุดมุ่งหมายต่อไปคือ Gum Department Store ค่ะ ไม่ใช่อะไรนะ ทราบมาว่า มีไอติมที่อร่อยมาก และห้องน้ำเข้าฟรีอยู่ที่นี่

 

 

ภายใน Gum ก็จะเป็นห้าง ลักษณะโล่งๆ มีแบรนด์หรูๆ เต็มไปหมด ถ้าเทียบกับไทย เราว่าคง เกสร มั้ง มันมีแต่แบรนด์ Luxury และ คนเดินไม่ค่อยเยอะเหมือนสยามพารากอนนะ และแล้วเราก็เจอไอศกรีมในตำนานของห้าง GUM ที่เราตั้งหน้าตั้งตาที่จะกิน!!! ซึ่งอร่อยจริงๆ และ ราคาถูกด้วย 50 RUB บอกเลยว่าการกินไอศกรีม ในอากาศเกือบ 0 องศานี่ฟินจริงๆ เล็มเพลิน ไม่มีวันละลาย

 

 

อย่างที่เราบอกไป ใครปวดหนัก ปวดเบา จากการเดินเล่นรอบๆ Red Square เชิญเข้าห้องน้ำที่ ชั้น 3 ห้าง GUM ได้นะคะ เนื่องจากห้องน้ำที่รัสเซีย ส่วนใหญ่ต้องเสียตังค์ เพื่อที่จะเข้า แต่ที่นี่ Freeee! ไปค่ะ ไปเอาออกให้หมดกระเพาะปัสสาวะ 555

 

หลังจากที่นั้น เราได้เดินออกห้าง Gum ในด้านที่ไม่ใช่ Red Square เพื่อตามหา Shop Adidas ซึ่งบอกเลย ที่รัสเซียนี้ ราคาไม่แรง แทบจะเท่าที่อเมริกา แถมมีทุกสี ทุกไซส์ พร้อมเลย ใครไม่รู้จะช้อปอะไร ถึงเวลาแล้วค่ะ รองเท้ากีฬา เสื้อผ้าออกกำลังกาย พอได้อยู่ ชุดอาจจะติดตรงที่หนาไปสำหรับใส่ในไทย แต่ถ้าใครมาหน้า Spring/Summer น่าจะซื้อกลับมาใช้ได้ ไม่มีปัญหาค่ะ

 

 

พอฟ้าเริ่มมืดเราได้วนกลับมาที่ห้าง Gum อีกครั้ง เพื่อมาดูไฟ และเดินเล่นปิดท้ายที่ Red Square บรรยากาศกลางวัน กับกลางคืน นี่ให้คนละฟีลเลย การติดไฟ มันทำให้บริเวณนี้ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมากเลยค่ะ

 

========================

 

 

Day 3

Metro Tour Day

 

สำหรับวันที่ 3 ของการอยู่ที่ มอสโคว เราตั้งจะ Metro Tour !!!!! อย่างที่บอกไป มอสโคว ไม่ได้ยิ่งใหญ่แค่บนดินนะ แต่แกกกกก ใต้ดินนี่ หรูมากกก ขบคิดในใจ ต้องใช้งบประมาณขนาดไหน ที่สร้างสถานีให้สวยได้ขนาดนี้

 

Metro Station : Arbatskaya

 

แต่เอาเข้าจริงๆ เหตุผลมันก็มีแหละ สาเหตุที่เขาสร้าง Metro ให้ยิ่งใหญ่ และสวยงามขนาดนี้เป็นเพราะช่วงสงครามโลก บนดินมันอยู่ไม่ได้ไงแกกก ระเบิดตู้มต้ามกันหมด ทางรัฐบาล เลยต้องสร้าง “ที่อยู่” ใต้ดินให้ประชาชน และทำให้พวกเค้ารู้สึกไม่หดหู่ ที่ต้องอพยกมาอยู่ใต้ดิน นานนับเดือน และนี่เป็นกุศโลบายในยุคสงคราม ที่ตอนนี้ก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ดึงเม็ดเงินเข้าประเทศไปอี๊ก ประมาณว่า ยิงปินนัดเดียว ได้นกสองตัว เลยทีนี้

จากสถานีที่ใกล้อพาร์ทเม้นต์คือ Smolenskaya แต่วันนี้เราไปขึ้นที่สาย Arbatsko-Pokrovskaya (สีน้ำเงิน) เราใช้ตั๋ว 20 เที่ยว ที่ใช้ตั้งแต่ขากลับเมื่อวาน ในการเดินทางวันนี้

 

Metro Station : Arbatskaya

 

ตั๋วนี้ ซื้อใบเดียวนะ แล้วใช้กันหมดทั้งกรุ๊ปได้ โดยวิธีการใช้คือ คนแรกเข้าไปใช้ตั๋วใบนี้แหละ ผ่านที่กั้นแล้ว ส่งบัตรกลับมาให้ คนที่สอง แล้วคนที่สองก็เข้าไป วนไป คนที่สาม สี่ ห้า จนครบ! ซึ่งมันจะทำให้ บัตร 20 เที่ยว เหลือ 16 เที่ยว ถ้าเดินทางพร้อมกัน 4 คน! นี่คืออีก 1 ทริคที่ใช้ประหยัดค่า Metro ได้

และสถานีแรก สำหรับ Metro tour ของเราวันนี้คือ Arbatskaya อยู่ที่สายสีน้ำเงิน (Arbatsko-Pokrovskaya Line) ถัดจาก Smolenskaya บนสายสีน้ำเงินไป 1 สถานี

 

Metro Station : Komosomolskaya

 

สถานีที่ 2 คือ Mayakovskaya อยู่ที่สาย สีเขียว (Zamoskvoretskaya Line)

สถานีที่ 3 คือ Belorusskaya อยู่ที่สาย สีเขียว (Zamoskvoretskaya Line) ถัดจาก Mayakovskaya ไป 1 สถานี

สถานีที่ 4 คือ Novoslobodskaya อยู่ที่สายสีน้ำตาล (Koltsevaya Line) ซึ่งอยู่ถัดจาก Belorusskaya ไป 1 สถานี แต่อต้องอย่าลืมเปลี่ยนเป็นสายสีน้ำตาลน๊า

สถานีที่ 5 คือ Prospekt Mira อยู่ที่สายสีน้ำตาล (Koltsevaya Line) ซึ่งอยู่ถัดจาก Novoslobodskaya ไป 1 สถานี

 

Metro Station : Komosomolskaya

 

สถานีที่ 6 คือ Komsomolskaya อยู่ที่สายสีน้ำตาล (Koltsevaya Line) ซึ่งอยู่ถัดจาก Prospekt Mira ไป 1 สถานี

สถานีที่ 7 คือ Kievskaya อยู่ที่สายสีน้ำเงิน (Arbatsko-Pokrovskaya Line) สถานีนี้ ค่อนข้างไกลจากสถานีที่ 6 เราเลยแวะมาตอนก่อนกลับอพาร์ทเมนต์

การทัวร์ Metro เรียกว่า อยู่แต่ใต้ดิน แบบไม่ได้เห็นแสงตะวันเลยแหละ แต่ความสวยงามคือเอาอยู่จริงๆ แต่ระหว่างวันเราก็มีเบรก ขึ้นมาบนดินบ้าง ด้วยการแวะไปตลาด Izmailovo Market โดยจาก Komsomolskaya ที่อยู่สายสีน้ำตาล นั่งมาอีก 1 สถานี และเปลี่ยนเป็นเส้นสีน้ำเงิน Arbatsko-Pokrovskaya Line เพื่อไปลงที่ Partizanskaya

 

Metro Station : Komosomolskaya

 

และเมื่อเดินมาถึงเรากลับพบว่า มันปิด!!!!!!! #มองบน คือจริงๆ ตลาดมันเปิดนะ Google ก็บอกว่าเปิด แต่ไม่เข้าใจทำไม 80% ของร้านข้างในถึงปิด!!!! ส่วนคนเดิน นี่เรียกว่า แทบร้างเลยอ่ะแกร เออ แต่แม้ mission จะแลดู Fail แต่เราก็คิดบวกว่า เรามาแล้วจริงๆนะ T T

 

Metro Station : Prospekt Mira

 

ในช่วงเย็น เรามุ่งหน้าไปยัง Arbat Street ซึ่งมันคล้ายๆ ถนนคนเดินบ้านเรา ที่จะมีตั้งแต่ Street Food ยันร้านขายของฝากเลยค่ะ แต่สงสัยวันนี้ โชคไม่เข้าข้างเรา เพราะ 80% ของ Street vendor หายไปไหนก็ไม่รู้!! แก เทศกิจรัสเซียจะมาไล่ในวันที่ชั้นมางี้หรอ บางทีก็คิดว่า เทศกิจไม่เข้าใจนักท่องเที่ยวอย่างเราเลย ><

 

Metro Station : Smolenskaya

 

แม้มันจะปิด (ซะส่วนมาก) เราก็ยังคงเดินเล่นถ่ายรูปต่อไป สุดท้ายวันนี้ก็กลับแบบงงๆ สรุปแล้ว สิ่งที่ทำสำเร็จวันนี้ คือ Metro Tour เออคุ้มมากๆ แล้วแหละ เพราะมันสวยมากกกก

========================

 

 

Day 4

เก็บตก Red Square และกลับบ้าน

 

 

จริงๆ แล้ววันนี้ไม่มีแพลนอะไรมาก นอกจากเก็บของ และเดินเก็บตก แถวๆ Red Square เลยชิลล์ๆ ออกจากห้องก็ 11 โมงแล้ว เพราะจัดกระเป๋าให้พร้อมด้วย เนื่องจากเราจะได้จ้างแท็กซี่มารับ และเอากระเป๋าเก็บไว้บนรถก่อน วันนี้เลยได้เดินซึมซับ บรรยากาศ และผู้คนรอบๆ Red Square

 

 

ประมาณบ่าย 3 เราได้นัดแท็กซี่มารับที่อพาร์ทเมนต์เพื่อมุ่งหน้าสู่สนามบิน จากตัวเมือง นั่งแท็กซี่ราคา 2,500 RUB ไปที่ Sheremetyevo (เชเรเมียทเทวา) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษๆ อาจจะเป็นเพราะรถเริ่มติดในช่วงเวลาเย็น

 

 

และแล้ว ทริปมอสโคว ก็จบลง เห็นมั๊ยบอกแล้ว 4 วันเอาอยู่จริงๆ ได้เห็นสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่ ทั้งบนดินและใต้ดิน !! ซึ่งจริงๆ ถ้าใครมา แล้วไม่ใช่สายชิลล์สามารถไปที่ CATHEDRAL OF CHRIST THE SAVOIR ที่นี่เป็นโบสถ์คริสต์นิกายออร์โธด็อกที่สูงที่สุดในโลก และเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในมอสโค ได้ รวมถึง Sparow hills เพิ่มเติมได้เช่นกัน

 

 

และอีกหนึ่งทางเลือก หากไม่ได้อินกับ Metro tour สามารถเลือกไป เมืองซากรอส (Zagorsk) ได้นะ ห่างจาก Moscow แค่ 1 ชั่วโมงเอง ในที่สุดเราก็บินกลับประเทศไทย ด้วย Aeroflot เหมือนเดิม ตอนประมาณ 1 ทุ่มเวลาที่นี่ และกลับถึงไทยตอน 8 โมงเช้าเวลาที่ไทยค่ะ

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆ และภาพจาก

น้องพลอย - ลลิตา นิรมัยถาวร : มนุษย์เงินเดือน ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ฝันอยากท่องเที่ยวรอบโลก และตอนนี้ความฝันของเธอก็เป็นจริงไปแล้วถึง 1/4 และอีกไม่นานเชื่อว่า หากมีเวลาสักหน่อย ความฝันของเธอจะต้องเป็นจริงแน่นอน ^^

 

 

 

ที่เที่ยวรัสเซีย ที่น่าสนใจอื่นๆ

12 ที่เที่ยว ต้องจัด ที่ รัสเซีย ! ไปเดือนไหน ช่วงไหนถึงจะดี

เยือนถิ่นหมีขาว รัสเซีย ดินแดนสองทวีป จากยุโรปจรดเอเชีย

 

 

 

อัพเดทที่พักสุดชิลล์ ที่เที่ยวสุดมันส์ ที่กินสุดฮิป

ติดตาม travel.trueid.net ได้ที่

Facebook Add friend ที่ ID : @TrueID

และ แอปพลิเคชั่น

TrueID Application