รีเซต

10 ที่เที่ยวต้องไป ก่อนที่จะหายไปจากแผนที่โลก !

10 ที่เที่ยวต้องไป ก่อนที่จะหายไปจากแผนที่โลก !
เอิงเอย
2 กันยายน 2557 ( 08:11 )
65.2K

คนที่รักการท่องเที่ยว อยากเปิดโลก เปิดประสบการณ์ใหม่ ต้องรีบก่อนที่จะสาย เพราะสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้อาจอยู่ได้ไม่นาน ไม่ว่าจะเป็นด้วยภัยธรรมชาติ หรือ ภัยจากนักท่องเที่ยวทั่วไปอย่างเราๆ นี่แหละ เพราะฉะนั้นถ้ามีโอกาสล่ะก็ ต้องรีบไปด่วนๆ เลยค่ะ และที่สำคัญต้องไปเที่ยวแบบเป็นนักท่องเที่ยวที่ดีกันด้วยนะ

เรามาดูกันว่า 10 สถานที่ท่องเที่ยวนั้น มีอะไรบ้าง ?

 

 

1. หมู่เกาะกาลาปากอส (Galapagos Islands)

ประเทศเอกวาดอร์

 

 

หมู่เกาะกาลาปากอส เป็นหมู่เกาะกลางมหาสมุทรแปซิฟิก มีความน่าสนใจทั้งด้านธรณีวิทยา สัตววิทยา และนิเวศวิทยาเป็นอย่างยิ่ง ความพิเศษของที่แห่งนี้ คือ เป็นที่อาศัยอยู่ของสัตว์ท้องถิ่นที่มีลักษณะแปลกๆ มากมาย และ 75% ของสัตว์ทั้งหมดนี้สามารถพบได้ที่นี่ที่เดียวในโลก

แต่ด้วยความที่ปัจจุบันคนให้ความสนใจไปเที่ยวเยอะ เลยทำให้ระบบนิเวศของเกาะถูกทำลายลงเรื่อยๆ เชื่อว่าอีกไม่นานธรรมชาติของที่นี่ก็ต้องเปลี่ยนไป เราอาจจะไม่ได้ไปเที่ยวที่นี่ได้เหมือนอย่างเก่าก่อน ทุกวันนี้เกาะนี้อยู่ในสถานการณ์เฝ้าระวังอย่างเข้มงวด นอกจากนี้ยังเป็น 1 ใน 100 สถานที่สวยที่สุดในโลก อีกด้วย

 

 

 

2. หมู่เกาะมัลดีฟส์ (Maldives)

ประเทศมัลดีฟส์

 

ใครๆ ก็รู้กันว่า เกาะกลางทะเลมีสิทธิ์หายไปอักไม่นาน และหนึ่งในนั้นก็คือ มัลดีฟส์ นี่แหละ คาดกันว่าอีกไม่ถึง 100 ปี ที่นี่ก็คงจะจมหายไปกับมหาสมุทรอย่างแน่แท้ เพราะปัจจุบัน 80% ของจำนวนเกาะทั้งหมด 1,200 เกาะ ของหมุ่เกาะมัลดีฟส์ สูงกว่าระดับน้ำทะเลไม่ถึง 1 เมตร

นอกจากนี้ 90% ของแนวปะการังในประเทศยังเป็นปะการังฟอกขาวไปหมดแล้ว ไม่ต้องสืบว่าเป็นเพราะอะไร หลักๆ เลยคงไม่พ้นฝีมือมนุษย์นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ อีกส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะภัยธรรมชาติตามธรรมดาของโลก นอกจากนี้ทางรัฐบาลก็ได้เตรียมการขอซื้อที่ดินไว้รองรับประชากรในอนาคตที่จะไร้ที่อยู่แล้วด้วย ใครที่ยังไม่เคยไปมัลดีฟส์ก็อย่าชะล่าใจ เพราะไม่นานต้องหายไปจากแผนที่โลกแน่นอน

 

 

3. แนวปะการังเกรท แบริเออร์ รีฟ (Great Barrier Reef)

ประเทศออสเตรเลีย

 

สวรรค์ของนักประดาน้ำ แนวปะการังที่ใหญ่ที่สุดในโลกนี้ อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศออสเตรเลีย ประกอบไปด้วยปะการังกว่า 400 สปีชี่ส์ สวรรค์ใต้ทะเลแห่งนี้เป็นที่อยู่ของปลาโลมา สัตว์เลื้อยคลาน พันธุ์ปลาเขตร้อน และสิ่งมีชีวิตทางทะเลนับไม่ถ้วน

นอกจากใต้ทะเลแล้ว ยังมีเกาะที่งดงามด้วยหาดทรายขาว และโขดหิน ซึ่งเป็นบ้านของวัตว์ป่า และนกว่าหลายร้อยชนิด แต่จากสภาพแวดล้อมที่ผันแปรในปัจจุบัน จึงคาดการณ์ไว้ว่าภายในปี 2070 อุณหภูมิจะเพิ่มขึ้นอีก 6 องศาเซลเซียส ภาวะโลกร้อนขึ้นส่งผลทำให้ความเป็นกรดของน้ำทะเลสูงขึ้น และด้วยพายุไซโคลนที่ถล่มอยู่เป็นประจำ จึงคาดว่า 60% ของปะการังที่นี่จะเผชิญกับปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาว อีกไม่เกิน 100 ปี ความสวยงามใต้ท้องทะเลก็คงหมดไปในที่สุด

 

 

4. เมืองเวนิส (Venice)

ประเทศอิตาลี

 

หนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่ติดอันดับต้นๆ ของโลก เสน่ห์ของ เมืองเวนิส คือการล่องเรือกอนโดลาในคลองผ่านเมือง เพื่อชื่นชมสถาปัตยกรรมต่างๆ แต่หลังจากที่เราได้ข่าวบ่อยครั้งว่า ในแต่ละปี เวนิสมีระดับน้ำที่สูงขึ้นจนเกิดน้ำท่วมเมืองอยู่บ่อยๆ

ทำให้คาดการณ์ได้ถึงสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น อีกไม่ถึง 70 ปีคงไม่มีสถาปัตยกรรม ตึกรามบ้านช่องที่สวยงามอีกต่อไปแล้ว เพราะเมืองนี้ต้องจมอยู่ใต้น้ำเป็นแน่แท้ ! จาก ปี 1900 มีน้ำท่วมเมืองไม่ถึง 10 ครั้ง ต่อมาในปี 2000 กลับมีน้ำท่วมมากกว่า 60 ครั้ง แล้วเราจะทันได้ไปเที่ยวที่นี่ก่อนจะกลายเป็นนครบาดาลรึเปล่า ?

 

 

5. ทะเลเดดซี (Dead Sea)

ประเทศจอร์แดนและอิสราเอล

 

ทะเลที่แสนมหัศจรรย์ใจของโลก คนที่ไปเล่นน้ำในทะเลแห่งนี้จะไม่มีวันจมแม้ว่าเราจะอ้วนขนาดไหน นั่นเป็นเพราะทะเลสาบแห่งนี้ที่มีความเค็มมากกว่าทะเลทั่วไปถึง 10 เท่า จนคนสามารถลอยบนผิวน้ำได้ ระดับน้ำอยู่ต่ำที่สุดในบรรดาทะเลทั้งหลาย คือต่ำกว่าระดับน้ำทะเลปานกลางลงไปอีกประมาณ 400 เมตรทีเดียว

แต่ด้วยสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง ปริมาณฝน และการไหลเวียนของน้ำ ทำให้น้ำจากแม่น้ำจอร์แดนซึ่งเป็นแหล่งน้ำหลักแหล่งเดียวที่ให้น้ำแก่ที่นี่ลดปริมาณลง ส่งผลให้ในช่วงสี่สิบปีที่ผ่านมาทะเลสาบแห่งนี้มีความกว้างลดลงกว่าเดิมถึง 1 ใน 3 และยังมีระดับน้ำต่ำลงอีกกว่า 2.40 เมตร และคาดว่าขนาดของน้ำจะลดลงเรื่องจนอีก 50 ปีข้างหน้าก็จะกลายเป็นเพียงที่โล้งกว้าง

 

 

6. กำแพงเมืองจีน (Great Wall of China)

ประเทศจีน

 

มองจากมุมสูงลงมายังโลก จะพบได้เลยว่า สิ่งที่เหมือนงูยักษ์ขนาดใหญ่กำลังเลื้อยอยู่นั้น คือ กำแพงเมืองจีน แห่งแดนมังกรนั่นเอง ที่นี่เป็น 1 ในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง และเป็น 1 ใน 5 สถานที่ท่องเที่ยว อารยธรรมโบราณ ที่ต้องไปเห็นด้วยตาตัวเองให้ได้สักครั้งในชีวิต

ที่นี่เป็นกำแพงที่ยาวที่สุดในโลกนี้เลยก็ว่าได้ เพราะมีความยาวถึง 21,196.18 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 15 มณฑลทั่วประเทศจีนทีเดียวเชียว แต่ด้วยความเก่าแก่กว่า 2,500 ปี ทำให้อิฐของกำแพงแต่ละก้อนสูญสลายไปตามกาลเวลา และด้วยฝีมือคนในพื้นที่เอง ที่พากันทุบทำลายเพื่อเปลี่ยนพื้นที่ที่กำแพงเคยตั้งตระหง่านอยู่ให้กลายเป็นพื้นที่เกษตรกรรม หรือเอาหินไปซ่อมแซมบ้านตัวเอง ทำถนนหนทาง และทางเดินเท้าอย่างหน้าตาเฉย จนทำให้ปัจจุบันนี้ กำแพงเมืองจีนได้ถูกทำลายไปกว่า 2 ใน 3 ของทั้งหมดแล้ว

แม้ในปี 2006 ทางการจีนได้ออกมาตรการเพื่อปกป้องมรดกของประเทศแห่งนี้เอาไว้ แต่ด้วยความที่กำแพงเมืองจีนยาวมาก ทางการจึงไม่สามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง โดยเฉพาะในเขตชนบทและป่าเขา ปัญหากำแพงเมืองจีนถูกทำลายจึงไม่หายไป ต่างจากบริเวณจุดที่นักท่องเที่ยวมักจะมาท่องเที่ยวในกรุงปักกิ่งที่ถูกบูรณะ และดูแลไว้เป็นอย่างดี

 

 

7. มาดากัสการ์ (Madagascar)

มหาสมุทรอินเดีย

 

มาดากัสการ์ ตั้งอยู่นอกชายฝั่งทางตะวันออกของแอฟริกาใกล้กับโมซัมบิก เกาะหลักของมาดากัสการ์เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก เป็นถิ่นที่อยู่ของพันธุ์พืช และสัตว์ถึงร้อยละ 5 ของโลก และมีมากกว่าร้อยละ 80 ที่เป็นสัตว์หรือพืชเฉพาะถิ่นมาดากัสการ์ โดยเฉพาะตัวลีเมอร์

แต่จากการเพิ่มขึ้นของประชากร การตัดไม้ เผาป่า และการทำไร่เลื่อนลอย ทำให้ป่าไม้ของเกาะนี้ลดปริมาณลงมากจาก 120,000 ตารางไมล์เหลือพียง 20,000 ตารางไมล์เท่านั้น !! ด้วยสมดุลทางธรรมชาติของมาดากัสการ์ที่ถูกคุกคาม ทำให้ลีเมอร์สูญพันธุ์ไปถึง 15 สายพันธุ์ เชื่อกันว่าอีกไม่เกิน 35 ปี ที่นี่คงจะกลายเป็นแค่เรื่องราวในการ์ตูนเท่านั้น หวังว่าลูกหลานของเรายังจะได้ดูการ์ตูนเรื่องมาดากัสการ์กันอยู่บ้าง

 

 

8. ทิมบักตู (Timbuktu)

ประเทศมาลี

 

ทิมบักตู เป็นเมืองจุดศูนย์กลางที่กองคาราวานสินค้า 4 สายของโลกอาหรับที่สร้างขึ้นเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 12 ซึ่งในขณะนั้นกินเนื้อที่ตั้งแต่สเปนไปจนถึงตะวันออกกลางเดินทางมาบรรจบกัน ทำให้ทิมบุกตูเป็นสถานที่ที่มีความมั่งคั่งมากที่สุดของโลกแห่งหนึ่งในยุคนั้น สวยงามด้วยศิลปะแบบ อาหรับ-มุสลิม และด้วยที่ตั้งซึ่งอยู่บนชายขอบทะเลทรายซาฮาร่า จึงมีความคล้ายคลึงกับสวนลอยแห่งบาบิโลน 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณที่ล่มสลายไป และเมืองนี้ก็ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกโดยองค์กร UNESCO ในปี 1988

แต่น่าเสียดาย ปัจจุบันกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงในประเทศมาลี เริ่มทำลายอนุสาวรีย์บรรจุศพและโบราณสถานอื่นๆ ที่เป็นสถานที่เคารพบูชาของประชาชน กลุ่มอิสลามิสต์อ้างว่า สุสานทิมบุกตูเป็นรูปเคารพที่ไม่เป็นไปตามหลักอิสลาม การทำลายสุสานซึ่งยูเนสโกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ถูกนำไปเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ที่ระบอบตอลิบันของอัฟกานิสถานระเบิดทำลายพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่เมืองบามิยันเมื่อปี 2001 โดยใช้ข้ออ้างเดียวกันว่าไม่เป็นอิสลาม และคาดว่าอีกไม่นานด้วยสงคราม การก่อการร้าย จะทำให้เมืองเก่าแก่นี้ไม่เหลือซาก

9. ยอดเขาคิลิมันจาโร (Mt. Kilimanjaro)

ประเทศแทนซาเนีย และเคนยา

 

จุดสูงสุด หลังคาแอฟริกา ยอดเขาคิลิมันจาโร เป็นภูเขาไฟยอดเดี่ยวที่สูงที่สุดในโลก และเป็นยอดเขาที่สุดที่สุดในทวีปแอฟริกาอีกด้วย มีความสูงกว่า 5,895 เมตร ตรงบริเวณยอดเขามียอดเขาด้วยกัน 5 ยอด ที่นี่เป็นภูเขาไฟที่ดับแล้ว บริเวณยอดเขามีธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ยาวกว่า 4,500 เมตร เป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในทวีปแอฟริกาเลยก็ว่าได้

ที่ลาดเขาช่วงล่างเป็นที่อยู่ของสัตว์ป่าหลากหลายชนิดเช่น ช้าง แรด ควาย และแอนทิโลป ที่ระดับความสูง 3,500 เมตรขึ้นไปจะพบพรรณพืชแบบทุ่งมัวร์มีมอสส์ขึ้นอยู่เป็นส่วนใหญ่ ถัดขึ้นไปเป็นพรรณพืชแบบป่าสน บนยอดเขาเป็นที่ว่างเปล่าเต็มไปด้วยหิมะ ช่างขัดแย้งกลับด้านล่างอย่างสิ้นเชิง ส่วนบริเวณที่ราบรอบตีนเขาเป็นที่อยู่อาศัยของเผ่ามาซายที่ทำอาชีพเลี้ยงวัว ควาย แพะ แกะ และมีการทำกสิกรรมเขตร้อน ปลูกกล้วย กาแฟ

คาดการณ์ไว้ว่า ปี 2033 บริเวณยอดที่ปกคลุมด้วยหิมะนั้นจะหายไปหมดเหลือไว้แต่ความว่างเปล่า เพราะภาวะโลกร้อนตั้งแต่ศตวรรษที่ 20 จนตอนนี้ เหลือหิมะบนยอดเขาอยู่เพียง 20% เท่านั้นเอง

 

 

10. ทัชมาฮาล (Taj Mahal)

ประเทศอินเดีย

 

อนุสรณ์สถานแห่งความรัก นี้ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก อาจจะเหลือเวลาอีกสัก 5 ปี จะถูกปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าชมอีกต่อไป เนื่องจากปริมาณนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี ประกอบกับปัญหาด้านมลพิษ ทำให้พระราชวังหินอ่อนสีขาวนี้ได้รับผลกระทบไปเต็มๆ และทางการอินเดียจึงคิดจะออกกฎห้ามนักท่องเที่ยวเข้าไปชม อนุญาตเพียงแค่ให้ถ่ายรูปจากด้านหน้าเท่านั้น เพื่อที่จะอนุรักษ์สุสานหินอ่อนแห่งนี้ให้คงสภาพสมบูรณ์ที่สุด

 

 

สถานที่เที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจทั่วโลก

10 อันดับ สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในอาเซียน

15 เมืองในยุโรปมาแรงแซงโค้งติดเทรนด์ ที่ต้องไปเที่ยวให้ได้ก่อนใคร

7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ยุคใหม่ ยุคกลาง ยุคเก่า มรดกโลกที่ต้องไปเยือนสักครั้ง

100 สถานที่สวยที่สุดในโลก น่าตะลึงแทบลืมหายใจ !!

5 สถานที่ท่องเที่ยว อารยธรรมโบราณ ที่ต้องไปเห็นด้วยตาตัวเองให้ได้สักครั้งในชีวิต

 

 

อัพเดทที่พักสุดชิลล์ ที่เที่ยวสุดมันส์ ที่กินสุดฮิป

ติดตาม travel.trueid.net ได้ที่

 


Facebook

Twitter


และ แอปพลิเคชั่น


TrueID Application

Add friend ที่ ID : @TrueID